เชื่อมต่อระบบบัญชีและระบบจัดการร้านค้าออนไลน์แบบไร้รอยต่อ

PEAK โปรแกรมบัญชีออนไลน์ รองรับการเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม e-Commerce หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Shopee, Lazada, LINE SHOPPING หรืออื่นๆ ช่วยจัดการระบบหลังบ้าน ด้วยการบันทึกข้อมูลการขาย การรับชำระเงิน ลงบัญชีอัตโนมัติ ลดการทำงานซ้ำซ้อน บริหารร้านค้าออนไลน์ได้ดียิ่งขึ้น

ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ที่เชื่อมต่อกับโปรแกรมพันธมิตร

Partner API ที่สามารถตอบโจทย์การจัดการระบบร้านค้าออนไลน์

ZORT

ระบบจัดการออเดอร์และสต็อกสินค้าแบบครบวงจร ให้ธุรกิจที่มีการขายของหลาย  ทั้งทางระบบ e-

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

KetshopWeb

ผู้ให้บริการระบบ e-Commerce ในแบบที่คุณเป็นเจ้าของระบบเอง ให้คุณสร้างเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ พร้อมเชื่อมต่อ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

BentoWeb

ผู้ให้บริการระบบ e-Commerce ที่ให้คุณเป็นเจ้าของระบบเอง กำหนดนโยบายร้านค้าได้เอง และสามารถต่อย

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

Page365

ผู้ให้บริการระบบจัดการร้านสำหรับร้านค้าออนไลน์บนโซเชียลมีเดีย Facebook, LINE OA และ Instagram

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

LINE SHOPPING

ผู้ให้บริการระบบบริหารการขายครบวงจรด้วยเครื่องมือช่วยอำนวยความสะดวก ให้ลูกค้าซื้อ

SCB

ผู้ใช้งานสามารถนำไฟล์ข้อมูล Bank Statement มากระทบยอดรายรับ-รายจ่าย เพื่อให้ได้ข้อมูล

KBank

รองรับการนำข้อมูลจาก File Statement ในรูปแบบของ PDF สำหรับธนาคาร

Krungsri

ผู้ใช้งานสามารถพิมพ์ไฟล์จ่ายเงินเดือนเพื่อนำเข้าไฟล์จ่ายเงินเดือนบนระบบของธนาคารได้

e-Tax Invoice by Email

บริการสำหรับผู้ประกอบการ SME ที่ประสงค์จะจัดทำ ส่งมอบ และเก็บรักษาใบกำกับภาษี

INET

ผู้ให้บริการออกใบรับรองอิเล็กทรอ-นิกส์ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถจัดทำข้อมูล

Leceipt

ผู้ให้บริการออกเอกสารใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ให้ผู้ประกอบการสามารถจัดทำข้อมูล

BOXME

คลังสินค้าออนไลน์ ผู้ให้บริการเก็บสต็อกสินค้า พร้อมแพ็คและจัดส่งภายในวันเดียว ใช้งานระบบ

ระบบการทำงานหลักๆ ด้านการจัดการร้านค้าออนไลน์ – PEAK Account

ระบบคลังสินค้า

ระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM)

ระบบบริหารทรัพยากรบุคคล (HRM)

แพลตฟอร์มเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน (RPA)

ธนาคาร

จุดเด่นของการเชื่อมต่อระบบบัญชีกับระบบจัดการออนไลน์

เชื่อมต่อง่าย ไม่ซับซ้อน

รองรับการเชื่อมต่อร้านค้าออนไลน์มากกว่า 10 แพลตฟอร์ม

เชื่อมต่อง่ายในไม่กี่ขั้นตอน มีผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำ

บันทึกข้อมูลและสร้างเอกสารอัตโนมัติ

บันทึกบัญชีและตัดสต๊อกสินค้าอัตโนมัติ

สร้างใบเสร็จรับเงินและออกใบกำกับภาษีได้ทันที

เห็นข้อมูลบัญชีร้านค้าทันที

อัปเดตยอดขาย กำไร และต้นทุนขาย จากทุกแพลตฟอร์มในที่เดียว

รองรับการเชื่อมต่อธนาคารและแพลตฟอร์มการรับชำระเงินออนไลน์

ลดข้อผิดพลาด ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย

ข้อมูลถูกต้อง แม่นยำ ปลอดภัย

ลดการคีย์ข้อมูลซ้ำซ้อน ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย

ทำไมต้องใช้ PEAK โปรแกรมบัญชีออนไลน์
ร่วมกับระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ของคุณ

เชื่อมต่อกับร้านค้าออนไลน์โดยตรง

บันทึกข้อมูลบัญชี สร้างเอกสารอัตโนมัติ ครบถ้วนทุกรายการขาย ลดขั้นตอนและลดต้นทุนในการทำงาน

เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการร้านค้าออนไลน์

เห็นภาพรวมข้อมูลบัญชีได้ทันที สามารถบริหารกิจการและตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น

ปลอดภัย ใช้งานง่าย พร้อมบริการช่วยเหลือ

หมดกังวลเรื่องข้อมูลรั่วไหล สูญหาย ด้วยระบบรักษาความปลอดภัย มาตรฐานระดับโลก พร้อมบริการให้คำปรึกษาและช่วยเหลือโดยผู้เชี่ยวชาญ สามารถใช้งานได้แม้ไม่มีพื้นฐานมาก่อน

ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ที่รองรับ

ลูกค้าของเรา

เชื่อมต่อ PEAK โปรแกรมบัญชีออนไลน์ กับระบบอื่นๆ

ดูระบบเชื่อมต่อ API ประเภทอื่นๆ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเชื่อมต่อ API กับระบบจัดการร้านค้าออนไลน์

ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ของ PEAK คือ ระบบที่ช่วยให้ผู้ประกอบการหรือเจ้าของร้านสามารถจัดการและดำเนินการร้านค้าออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นระบบจัดการออเดอร์และสต็อกสินค้าแบบครบวงจร ให้ธุรกิจที่มีการขายของผ่านระบบ E-Commerce สามารถเช็คสต็อกสินค้าได้แบบ Real-time และส่งข้อมูลมาบันทึกบัญชีที่ PEAK ได้อัตโนมัติ และเรายังมีทางเลือกวิธีการ Import Excel จากแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆมาสร้างเอกสารใน PEAK ได้เช่นกัน

ระบบร้านค้าออนไลน์ที่ PEAK รองรับการส่ง API ได้แก่

  1. Shopee
  2. Lazada
  3. KetshopWeb
  4. Zort
  5. BentoWeb
  6. Page365
  7. TARAD U-Commerce
  8. LINE SHOPPING
  9. Shipnity

ระบบร้านค้าออนไลน์ที่ PEAK รองรับการ Import File Excel (ไม่เชื่อม API) ได้แก่

  1. Shopee
  2. Lazada
  3. Tiktok Shop

ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ของ PEAK เชื่อมต่อกับ Partner ได้ดังนี้

ระบบร้านค้าออนไลน์ที่ PEAK รองรับการส่ง API ได้แก่

  1. Shopee
  2. Lazada
  3. KetshopWeb
  4. Zort
  5. BentoWeb
  6. Page365
  7. TARAD U-Commerce
  8. LINE SHOPPING
  9. Shipnity

ระบบร้านค้าออนไลน์ที่ PEAK รองรับการ Import File Excel (ไม่เชื่อมAPI) ได้แก่

  1. Shopee
  2. Lazada  
  3. Tiktok Shop

 

การเริ่มต้นใช้งานระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ของ PEAK ง่ายๆ เพียงสมัครทดลองใช้งาน PEAK ฟรี 30 วัน
สามารถเริ่มเชื่อมต่อกับระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ได้เลย

คู่มือการเชื่อมต่อร้านค้าออนไลน์
VDO สอนการใช้งานเชื่อมต่อร้านค้าออนไลน์ของPEAK

ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ของ PEAK เหมาะกับธุรกิจ

  1. ธุรกิจซื้อมา – ขายไปแบบ B2C
  2. ธุรกิจ E-Commerce

ข้อดีของการเชื่อมต่อระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ของ PEAK

  1. ระบบบันทึกเอกสารให้อัตโนมัติ ลดเวลาในการคีย์เอกสาร
  2. สต็อกสินค้าถูกอัปเดตแบบ Real-Time เมื่อมีการสร้างเอกสารขายในกิจการ
  3. ลดงานของแอดมินและนักบัญชี
  4. ลดความผิดพลาดในการบันทึกเอกสาร เพราะระบบบันทึกบัญชีให้ตามข้อมูลบนร้านค้า
  5. มีเวลาไปใช้ในการพัฒนาแผนโปรโมทและเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น ไม่ต้องกังวลเรื่องบัญชี

ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ของ PEAK ใช้งานไม่ยาก ตั้งค่าการเชื่อมต่อกับโปรแกรมจัดการออเดอร์และสต็อกที่ต้องการ เพียงครั้งเดียว ระบบสร้างเอกสารใบกำกับภาษีให้อัตโนมัติ ไม่ต้องเหนื่อยคีย์เอกสาร

และหากบางกิจการต้องการสร้างโดยการนำเข้าข้อมูล Excel File จากแพลตฟอร์มร้านออนไลน์ก็สามารถนำเข้าได้ง่ายๆเพียงไม่กี่นาที ระบบก็จะสร้างเอกสารใบเสร็จรับเงินให้ทันทีที่กดอนุมัติการนำเข้าข้อมูล

เริ่มต้นเชื่อมต่อร้านค้าออนไลน์ยังไงให้ข้อมูลครบถ้วน เริ่มต้นไม่ถูกคลิ๊กเรียนเพิ่มที่นี่ได้เลย

ผลิตภัณฑ์ของ PEAK

PEAK Account
โปรแกรมบัญชีออนไลน์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

PEAK Payroll
โปรแกรมเงินเดือนออนไลน์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

PEAK Board
โปรแกรมวิเคราะห์ธุรกิจ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

PEAK Asset
โปรแกรมบริหารจัดการสินทรัพย์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

PEAK Tax
โปรแกรมการจัดการภาษีออนไลน์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

Line @PEAKConnect
ใช้งานโปรแกรมผ่านไลน์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

บทความน่ารู้

เครดิตเทอม

Few – MKT

14

min

ซื้อของจาก SME ต้องรู้ เครดิตเทอม ต่ายภายในกี่วัน

การค้าขายกับธุรกิจมักจะไม่ได้ชำระเงินกันโดยทันทีหลังส่งมอบ แต่จะมีการให้ เครดิตเทอม แต่หลายครั้ง เครดิตเทอม ก็กลายเป็นช่องโหว่ให้เกิดการเอาเปรียบธุรกิจ SME อยู่เสมอ ซึ่งทางภาครัฐก็ได้มีการออกข้อกำหนดเพื่อให้การค้าเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้ประกอบการที่ต้องคอยติดตามข้อกำหนดเหล่านี้อยู่เสมอ และในบทความนี้เราจะมาแนะนำความรู้เกี่ยวกับเครดิตเทอมและข้อกำหนดที่ควรทราบกัน เครดิตเทอม คืออะไร? เครดิตเทอม หรือ สินเชื่อการค้า คือ ข้อกำหนดหรือเงื่อนไขในการชำระเงินระหว่างคู่ค้าทางธุรกิจ โดยเป็นในรูปแบบของสินเชื่อที่ผู้ขายออกให้แก่ผู้ซื้อ ที่ผู้ขายจะส่งมอบสินค้าหรือบริการก่อน แล้วให้ผู้ซื้อชำระเงินภายในระยะเวลา เครดิตเทอม ที่กำหนดไว้ ซึ่งระยะเวลาขึ้นอยู่กับข้อตกลงระหว่างคู่ค้า อาจเริ่มต้นตั้งแต่ 15 วัน จนถึง 45 วัน ทำไมเจ้าของธุรกิจต้องเข้าใจเรื่องเครดิตเทอม เครดิตเทอม ช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ธุรกิจ สามารถวางแผนจัดการกระแสเงินสดได้ และถือว่าเป็นเรื่องปกติในการทำธุรกิจแบบ Business to Business (B2B) ที่มักจะมาข้อกำหนดเครดิตเทอมขึ้นมาเสมอ แต่ปัญหาของเครดิตเทอม คือ มีโอกาสกลายเป็นหนี้สูญหากผู้ซื้อไม่จ่ายเงินตามข้อกำหนด และ ในบางครั้งก็เกิดการเอาเปรียบกันด้วยการขอเครดิตเทอมที่นานเกินควรจนผู้ขายเกิดปัญหาด้านสภาพคล่อง โดยเฉพาะในธุรกิจ SME ที่มีอำนาจต่อรองน้อย ยกตัวอย่างสถานการณ์การกำหนดเครดิตเทอม เช่น  ธุรกิจ A เป็นธุรกิจขนาดเล็ก SME ขายบริการ ทำแคมเปญการตลาดออนไลน์ ให้บริษัท B โดยตกลงกันไว้ว่าจะนับระยะเวลาเครดิตเทอมหลังจากที่ส่งมอบบริการและเอกสารครบถ้วน ซึ่งหลังจากให้บริการเสร็จสิ้น ทางธุรกิจ A ออกใบแจ้งหนี้เรียกเก็บเงินจากบริษัท B โดยกำหนดเครดิตเทอม 30 วันนับจาก วันที่ 1 ตุลาคม หมายความว่าบริษัท B จำเป็นต้องชำระเงินภายในวันที่ 31 ตุลาคม หรือ 30 วันหลังจากส่งมอบบริการและเอกสารนั่นเอง ประกาศเครดิตเทอมจากสำนักงานกรรมการการแข่งขันทางการค้า ด้วยช่องโหว่ที่อาจก่อให้เกิดการเอาเปรียบกันระหว่างธุรกิจในด้านการกำหนดเครดิตเทอม ทางสำนักงานกรรมการแข่งขันทางการค้า (กขค.) จึงกำหนดประกาศที่ ห้ามกำหนดเครดิตเทอมเกิน 30-45 วัน ในกรณีที่ผู้ขายเป็นธุรกิจขนาดกลาง หรือขนาดย่อม (SMEs) ผ่านประกาศ “แนวทางพิจารณาการปฏิบัติทางการค้าที่เป็นธรรมเกี่ยวกับระยะเวลาการให้เครดิตเทอม กรณีผู้ขายสินค้าหรือบริการประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)” โดยวัตถุประสงค์ของประกาศนี้เพื่อป้องกันการเอาเปรียบธุรกิจ SMEs เพราะมีอำนาจการต่อรองที่น้อยกว่า เพราะก่อนหน้าที่จะมีกฎหมายเข้ามากำหนด บางครั้งธุรกิจ SME ต้องเจอกับเครดิตเทอมที่ยาวนาน 60-90 วัน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของธุรกิจ การที่ กขค. ออกประกาศกรอบระยะเวลาของเครดิตเทอมให้ชัดเจนเช่นนี้ จึงช่วยผู้ประกอบการ SME ได้มหาศาล ผู้ที่ต้องทำตามประกาศเครดิตเทอม สำหรับผู้ที่ต้องปฏิบัติตามประกาศข้างต้น คือ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนทุกรายที่ซื้อสินค้า/บริการจาก ธุรกิจ SMEs ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ด้วยการกำหนดเครดิตเทอมภายใน 30-45 วันตามที่กฎหมายกำหนด หากไม่ปฏิบัติตามจะมีบทลงโทษตามมาอีกด้วย รายละเอียดเกี่ยวกับประกาศเครดิตเทอม ในส่วนของระยะเวลาเครดิตเทอมที่ได้กำหนดไว้ 30-45 วัน แบ่งได้ตามประเภทของสินค้าหรือบริการ โดยสามารถแบ่งได้ดังนี้ นอกจากนี้ในเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงิน เช่น ใบสั่งซื้อ ใบแจ้งหนี้ หรือใบกำกับภาษี จำเป็นต้องระบุวันชำระเงินไว้อย่างชัดเจน ทั้งนี้หากมีเหตุผลอันสมควรให้มีเครดิตเทอมเกิน 45 วันสามารถทำได้ตามการตกลงร่วมกันระหว่างคู่ค้า แต่หากไม่มีเหตุผลที่มากพอถือว่าเป็นความผิด ใครบ้างที่ถือว่าเป็น SME ภายใต้ประกาศเครดิตเทอม? ทาง กขค. ก็ได้มีการกำหนดหลักเกณฑ์ ที่ใช้พิจารณาว่าธุรกิจประเภทไหนถึงเข้าข่ายเป็นธุรกิจ SME โดยมีการกำหนดธุรกิจแต่ละรูปแบบได้ 2 ประเภทดังนี้ หากธุรกิจของคุณ หรือคู่ค้าของคุณ เข้าข่ายข้อกำหนดข้างต้นก็หมายความว่าเป็นธุรกิจ SME และต้องให้เครดิตเทอมตามที่กฎหมายกำหนดด้วยนั่นเอง ทั้งนี้ในธุรกิจอาจมีทั้งการขายสินค้าและให้บริการที่มีการจ้างงานไม่เกินที่กำหนด ให้พิจารณาเงื่อนไขโดยใช้เกณฑ์ของรายได้หลักมาพิจารณา ยกตัวอย่าง เช่น ธุรกิจ A ทำธุรกิจผลิตสินค้าและให้บริการ มีการจ้างงาน 120 คน โดยมีรายได้จากการผลิตสินค้าขาย 500 ล้านบาท/ปี และธุรกิจให้บริการ 200 ล้านบาท/ปี หมายความว่าธุรกิจ A มีรายได้หลักจากการผลิตสินค้า จึงต้องใช้เกณฑ์การพิจารณาของ “ธุรกิจขายสินค้า: รายได้สูงสุดไม่เกิน 500 ล้านบาท/ปี”ซึ่งหากพิจารณาจากตัวเลขแบบแยกประเภทการขายสินค้าและบริการแล้วอาจเข้าใจว่ายังถือว่าเป็น SME อยู่ แต่หากนำตัวเลขรายได้มารวมกันเกินได้ 700 ล้านบาท/ปี ซึ่งเกินกำหนดของธุรกิจขายสินค้าที่ 500 ล้านบาท/ปี หมายความว่าธุรกิจ A จะไม่ถือว่าเป็น SME บทลงโทษ และช่องทางร้องเรียน กฎหมายเครดิตเทอมสำหรับ SME มีบทลงโทษกำหนดไว้อย่างชัดเจน โดยผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามมีบทลงโทษเป็นการปรับเงินสูงสุด 10% ของรายได้ต่อปี นอกจากนี้ประกาศยังได้ระบุพฤติกรรมการค้าที่ไม่เป็นธรรมที่สามารถร้องเรียนได้ โดยมีทั้งหมด 3 พฤติกรรมดังนี้ 1. การประวิงเวลาไม่ยอมชำระหนี้ตามที่เครดิตเทอมกำหนด การประวิงเวลาหรือการที่ผู้ซื้อไม่ชำระหนี้ตามเครดิตเทอมที่ได้ตกลงกันไว้ โดยไม่ได้มีเหตุผลอันสมควรแก่การขยายเวลาชำระหนี้ ซึ่งพฤติกรรมนี้เข้าข่ายมีความผิดตามกฎหมายการแข่งขันทางการค้า 2. เปลี่ยนแปลงระยะเวลาเครดิตเทอม การเปลี่ยนระยะเวลาให้เครดิตเทอม หากไม่ได้มีการแจ้งล่วงหน้าภายใน 60 วัน และไม่มีเหตุผลอันสมควรก็ถือว่าเป็นความผิดเช่นเดียวกัน 3. พฤติกรรมลักษณะอื่น ด้วยอำนาจต่อรองของธุรกิจ SME ที่อาจมีน้อยกว่าคู่ค้าในบางครั้ง อาจทำให้เกิดการเอาเปรียบกันเกิดขึ้น ซึ่งพฤติกรรมลักษณะอื่น เช่น การกำหนดเงื่อนไขพิเศษเพิ่มเติมที่เป็นการสร้างภาระให้แก่ธุรกิจ SME โดยไม่จำเป็น หากธุรกิจ SME พบพฤติกรรมเหล่านี้ของคู่ค้าในการทำธุรกิจร่วมกันสามารถร้องเรียนได้ผ่านช่องทาง รู้ข้อกฎหมายไว้ ไม่ถูกเอาเปรียบ ในการทำธุรกิจ การรู้ข้อกฎหมายให้ครอบคลุมมากที่สุดช่วยลดโอกาสถูกการเอาเปรียบได้ โดยเฉพาะธุรกิจ SME ที่อำนาจต่อรองไม่สูง หลายครั้งโดนตั้งเงื่อนไขต่าง ๆ มากมายจากคู่ค้า เมื่อไม่ถูกเอาเปรียบ ก็สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น ติดตามบทความจาก PEAK ที่นำเสนอความรู้ทางธุรกิจตั้งแต่บัญชี ภาษี ไปจนถึงข่าวสารข้อกำหนดกฎหมายใหม่ ๆ เพื่อผู้ประกอบการโดยเฉพาะ! สำหรับเจ้าของธุรกิจที่ต้องการเพิ่มสภาพคล่อง และอยากเข้าใจการใช้เครดิตเทอมอย่างถูกต้อง นอกจากการศึกษากฎหมายเครดิตเทอมแล้ว คุณยังสามารถเลือกใช้บริการเครดิตเทอมจากผู้ให้บริการที่เชื่อถือได้ เช่น OfficeMate ที่สรุปขั้นตอนและเงื่อนไขการขอเครดิตเทอมออนไลน์ไว้ สร้างใบแจ้งหนี้ออนไลน์ใน 1 นาที ปัจจุบัน ผู้ประกอบการไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก กลาง หรือใหญ่ ต่างหันมาใช้ใบแจ้งหนี้ออนไลน์กันมากขึ้น เพราะสร้าง QR Code ให้ลูกค้าชำระเงินได้สะดวกและลดขั้นตอนการรับชำระได้อย่างมาก บทความนี้จึงขอแนะนำให้ลองสร้างใบแจ้งหนี้ออนไลน์แบบง่ายๆ ผ่านโปรแกรมบัญชีออนไลน์ PEAK ซึ่งใช้งานไม่ซับซ้อน และมีข้อดีที่ช่วยให้ธุรกิจทำงานได้คล่องตัวยิ่งขึ้น ดังนี้ สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า OFM! สำหรับลูกค้า OfficeMate (OFM) ที่ต้องการจัดการเอกสารและบัญชีอย่างมืออาชีพ เรามีตัวช่วย!PEAK คือ โปรแกรมบัญชีออนไลน์ ที่ทำให้การทำบัญชี การเงิน และภาษีเป็นเรื่องง่ายและ อัตโนมัติ ช่วยลดงานเอกสารและประหยัดเวลาด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ (AI, API) แถมยังได้ข้อมูลธุรกิจแบบ Real-Time พิเศษ: ลูกค้า OFM ทดลองใช้ฟรี 30 วัน พร้อม ส่วนลดพิเศษ เมื่อสมัครแพ็กเกจรายปี!ให้ PEAK เป็นหลังบ้านดิจิทัลที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณ จัดการได้อย่างมืออาชีพ!ลงทะเบียนรับสิทธิ์:  ติดตาม OfficeMate ได้ที่ช่องทาง

ความรู้บัญชี

อัปเดตฟังก์ชัน PEAK 26/11/2025

PEAK Account

4

min

อัปเดตฟังก์ชัน PEAK 26/11/2025

เอาใจผู้ใช้งานโปรแกรม PEAK ด้วยฟังก์ชันใหม่ที่ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น 1. เพิ่มการนำเข้าไฟล์ TTB Business One รูปแบบ PDF เวอร์ชันภาษาไทย เพื่อกระทบยอดธนาคาร ช่วยให้ผู้ใช้งานนำเข้าไฟล์เพื่อกระทบยอดได้สะดวกมากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับ : ผู้ใช้งานแพ็กเกจ PRO ขึ้นไป ที่ต้องการนำเข้าไฟล์ธนาคารเพื่อกระทบยอดHighlight : ระบบรองรับการนำเข้าไฟล์รายการเดินบัญชีของธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) เวอร์ชันภาษาไทย (PDF) ได้แล้ว โดยระบบจะอ่านข้อมูลสำคัญ (วันที่ทำรายการ รายละเอียดการทำธุรกรรม ยอดเงินเข้า–ออก) และจับคู่รายการให้อัตโนมัติ เมื่อผู้ใช้งานเลือกวิธีนำเข้าแบบ “แนะนำกระทบยอดด้วย AI” ช่วยให้ผู้ใช้งานนำเข้าไฟล์เพื่อกระทบยอดได้สะดวกมากยิ่งขึ้น 2. ลดขั้นตอนในการแก้ไขเอกสาร โดยสามารถกดแก้ไข (Easy Edit) และอัปเดตการหัก ณ ที่จ่าย ใน PEAK Tax ทันที เหมาะสำหรับ : ผู้ใช้งานหรือนักบัญชีที่มีการยื่นภาษีหัก ณ ที่จ่ายด้วยตนเองHighlight : เมื่อมีการกดแก้ไข (Easy Edit) ที่เอกสารและบันทึกในระบบ PEAK หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายที่อยู่ใน PEAK Tax จะอัปเดตตามให้ทันที ช่วยให้ผู้ใช้งานประหยัดเวลาในการทำงานมากยิ่งขึ้นหมายเหตุการแก้ไขจะส่งผลกับเอกสารที่อยู่ในสถานะ “รอยื่นภาษี” เท่านั้น 3. เพิ่มปุ่มเปิด/ปิดการแสดงผลเลขที่เอกสารหัก ณ ที่จ่าย ที่หน้าเอกสารรายจ่าย (Online View) ช่วยให้ผู้ใช้งานกำหนดการแสดงผลข้อมูลตามต้องการได้ เหมาะสำหรับ : ผู้ใช้งานทุกแพ็กเกจที่มีการใช้งานเอกสารหัก ณ ที่จ่ายHighlight : ระบบเพิ่มปุ่มเปิด-ปิดให้ควบคุมการแสดงผล “เลขที่เอกสารถูกหัก ณ ที่จ่าย” บน Online View ของเอกสารรายจ่าย ช่วยให้ผู้ใช้งานเลือกได้เองว่าต้องการเปิดเผยข้อมูลหรือไม่ 4. เพิ่มตัวเลือกเปิด-ปิดการใช้งาน Old PEAK ที่เมนูตั้งค่า เหมาะสำหรับ : สำหรับกิจการที่ไม่ได้ใช้งาน Old PEAK แล้ว หรือไม่ต้องการให้ทีมงานย้อนกลับไปใช้งานระบบเดิมHighlight : ระบบเพิ่มตัวเลือกตั้งค่าการแสดงผลที่เมนูตั้งค่าองค์กร เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเปิด-ปิดการใช้งาน Old PEAK ได้ โดยผู้ใช้งานที่ไม่ได้มีการใช้งานหรือไม่ต้องการใช้งาน Old PEAK สามารถปิดการใช้งานได้ ช่วยลดความสับสน และทำให้ทุกคนทำงานบนระบบเดียวกันอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นหมายเหตุ– กิจการที่ถูกสร้าง ก่อนวันที่ 26/11/2025 หากต้องการปิดการใช้งาน Old PEAK จะต้องเข้าไปตั้งค่าปิดด้วยตนเอง– กิจการที่สร้าง หลังวันที่ 26/11/2025 ระบบจะไม่แสดงเมนู Old PEAK ในศูนย์รวมแอปพลิเคชันโดยอัตโนมัติ

ฟังก์ชันใหม่แนะนำการใช้งาน

Update Function PEAK 26/11/2025

PEAK Account

2

min

Update Function PEAK 26/11/2025

PEAK with the new function designed to enhance efficiency. 1. Added support for importing TTB Business One PDF files (Thai version) for bank reconciliation, making it easier for users to upload files and reconcile transactions. Suitable for: Package PRO and above, who need to import bank files for reconciliation Highlight: The system now supports importing Thai-language PDF bank statements from TMBThanachart Bank (TTB). PEAK will read key information (transaction dates, descriptions, credit/debit amounts) and auto-match items when users select the “AI suggested reconcile” method — making reconciliation easier and faster. 2. Made Easy Edit documents with withholding tax automatically update to PEAK Tax, reducing steps required when adjusting withholding tax documents. Suitable for: Users or accountants who file withholding tax manually Highlight: When a document is edited via Easy Edit and saved in PEAK, the corresponding withholding tax certificate in PEAK Tax will update automatically. This helps users save time and avoid duplicate work. Note: 3. Added a toggle button to show/not show withholding tax document numbers in the Online View, giving users more control over what information is displayed. Suitable for: All users who work with withholding tax documents Highlight: A new toggle button allows users to control whether the withheld tax number is displayed on the Online View of expense documents — making it easy to choose what information you want to show or keep hidden. 4. Added an option to Turn on/Turn off Old PEAK in the organization settings. Suitable for: Businesses that no longer use Old PEAK or want to prevent team members from switching back to the old system Highlight: A new display setting has been added to the Organization Settings, allowing users to Turn on/Turn off access to Old PEAK. Businesses that no longer need Old PEAK can now turn it off to reduce confusion and ensure everyone works efficiently on the same platform.

ฟังก์ชันใหม่แนะนำการใช้งาน

เครดิตเทอม

Few – MKT

14

min

ซื้อของจาก SME ต้องรู้ เครดิตเทอม ต่ายภายในกี่วัน

การค้าขายกับธุรกิจมักจะไม่ได้ชำระเงินกันโดยทันทีหลังส่งมอบ แต่จะมีการให้ เครดิตเทอม แต่หลายครั้ง เครดิตเทอม ก็กลายเป็นช่องโหว่ให้เกิดการเอาเปรียบธุรกิจ SME อยู่เสมอ ซึ่งทางภาครัฐก็ได้มีการออกข้อกำหนดเพื่อให้การค้าเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้ประกอบการที่ต้องคอยติดตามข้อกำหนดเหล่านี้อยู่เสมอ และในบทความนี้เราจะมาแนะนำความรู้เกี่ยวกับเครดิตเทอมและข้อกำหนดที่ควรทราบกัน เครดิตเทอม คืออะไร? เครดิตเทอม หรือ สินเชื่อการค้า คือ ข้อกำหนดหรือเงื่อนไขในการชำระเงินระหว่างคู่ค้าทางธุรกิจ โดยเป็นในรูปแบบของสินเชื่อที่ผู้ขายออกให้แก่ผู้ซื้อ ที่ผู้ขายจะส่งมอบสินค้าหรือบริการก่อน แล้วให้ผู้ซื้อชำระเงินภายในระยะเวลา เครดิตเทอม ที่กำหนดไว้ ซึ่งระยะเวลาขึ้นอยู่กับข้อตกลงระหว่างคู่ค้า อาจเริ่มต้นตั้งแต่ 15 วัน จนถึง 45 วัน ทำไมเจ้าของธุรกิจต้องเข้าใจเรื่องเครดิตเทอม เครดิตเทอม ช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ธุรกิจ สามารถวางแผนจัดการกระแสเงินสดได้ และถือว่าเป็นเรื่องปกติในการทำธุรกิจแบบ Business to Business (B2B) ที่มักจะมาข้อกำหนดเครดิตเทอมขึ้นมาเสมอ แต่ปัญหาของเครดิตเทอม คือ มีโอกาสกลายเป็นหนี้สูญหากผู้ซื้อไม่จ่ายเงินตามข้อกำหนด และ ในบางครั้งก็เกิดการเอาเปรียบกันด้วยการขอเครดิตเทอมที่นานเกินควรจนผู้ขายเกิดปัญหาด้านสภาพคล่อง โดยเฉพาะในธุรกิจ SME ที่มีอำนาจต่อรองน้อย ยกตัวอย่างสถานการณ์การกำหนดเครดิตเทอม เช่น  ธุรกิจ A เป็นธุรกิจขนาดเล็ก SME ขายบริการ ทำแคมเปญการตลาดออนไลน์ ให้บริษัท B โดยตกลงกันไว้ว่าจะนับระยะเวลาเครดิตเทอมหลังจากที่ส่งมอบบริการและเอกสารครบถ้วน ซึ่งหลังจากให้บริการเสร็จสิ้น ทางธุรกิจ A ออกใบแจ้งหนี้เรียกเก็บเงินจากบริษัท B โดยกำหนดเครดิตเทอม 30 วันนับจาก วันที่ 1 ตุลาคม หมายความว่าบริษัท B จำเป็นต้องชำระเงินภายในวันที่ 31 ตุลาคม หรือ 30 วันหลังจากส่งมอบบริการและเอกสารนั่นเอง ประกาศเครดิตเทอมจากสำนักงานกรรมการการแข่งขันทางการค้า ด้วยช่องโหว่ที่อาจก่อให้เกิดการเอาเปรียบกันระหว่างธุรกิจในด้านการกำหนดเครดิตเทอม ทางสำนักงานกรรมการแข่งขันทางการค้า (กขค.) จึงกำหนดประกาศที่ ห้ามกำหนดเครดิตเทอมเกิน 30-45 วัน ในกรณีที่ผู้ขายเป็นธุรกิจขนาดกลาง หรือขนาดย่อม (SMEs) ผ่านประกาศ “แนวทางพิจารณาการปฏิบัติทางการค้าที่เป็นธรรมเกี่ยวกับระยะเวลาการให้เครดิตเทอม กรณีผู้ขายสินค้าหรือบริการประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)” โดยวัตถุประสงค์ของประกาศนี้เพื่อป้องกันการเอาเปรียบธุรกิจ SMEs เพราะมีอำนาจการต่อรองที่น้อยกว่า เพราะก่อนหน้าที่จะมีกฎหมายเข้ามากำหนด บางครั้งธุรกิจ SME ต้องเจอกับเครดิตเทอมที่ยาวนาน 60-90 วัน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของธุรกิจ การที่ กขค. ออกประกาศกรอบระยะเวลาของเครดิตเทอมให้ชัดเจนเช่นนี้ จึงช่วยผู้ประกอบการ SME ได้มหาศาล ผู้ที่ต้องทำตามประกาศเครดิตเทอม สำหรับผู้ที่ต้องปฏิบัติตามประกาศข้างต้น คือ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนทุกรายที่ซื้อสินค้า/บริการจาก ธุรกิจ SMEs ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ด้วยการกำหนดเครดิตเทอมภายใน 30-45 วันตามที่กฎหมายกำหนด หากไม่ปฏิบัติตามจะมีบทลงโทษตามมาอีกด้วย รายละเอียดเกี่ยวกับประกาศเครดิตเทอม ในส่วนของระยะเวลาเครดิตเทอมที่ได้กำหนดไว้ 30-45 วัน แบ่งได้ตามประเภทของสินค้าหรือบริการ โดยสามารถแบ่งได้ดังนี้ นอกจากนี้ในเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงิน เช่น ใบสั่งซื้อ ใบแจ้งหนี้ หรือใบกำกับภาษี จำเป็นต้องระบุวันชำระเงินไว้อย่างชัดเจน ทั้งนี้หากมีเหตุผลอันสมควรให้มีเครดิตเทอมเกิน 45 วันสามารถทำได้ตามการตกลงร่วมกันระหว่างคู่ค้า แต่หากไม่มีเหตุผลที่มากพอถือว่าเป็นความผิด ใครบ้างที่ถือว่าเป็น SME ภายใต้ประกาศเครดิตเทอม? ทาง กขค. ก็ได้มีการกำหนดหลักเกณฑ์ ที่ใช้พิจารณาว่าธุรกิจประเภทไหนถึงเข้าข่ายเป็นธุรกิจ SME โดยมีการกำหนดธุรกิจแต่ละรูปแบบได้ 2 ประเภทดังนี้ หากธุรกิจของคุณ หรือคู่ค้าของคุณ เข้าข่ายข้อกำหนดข้างต้นก็หมายความว่าเป็นธุรกิจ SME และต้องให้เครดิตเทอมตามที่กฎหมายกำหนดด้วยนั่นเอง ทั้งนี้ในธุรกิจอาจมีทั้งการขายสินค้าและให้บริการที่มีการจ้างงานไม่เกินที่กำหนด ให้พิจารณาเงื่อนไขโดยใช้เกณฑ์ของรายได้หลักมาพิจารณา ยกตัวอย่าง เช่น ธุรกิจ A ทำธุรกิจผลิตสินค้าและให้บริการ มีการจ้างงาน 120 คน โดยมีรายได้จากการผลิตสินค้าขาย 500 ล้านบาท/ปี และธุรกิจให้บริการ 200 ล้านบาท/ปี หมายความว่าธุรกิจ A มีรายได้หลักจากการผลิตสินค้า จึงต้องใช้เกณฑ์การพิจารณาของ “ธุรกิจขายสินค้า: รายได้สูงสุดไม่เกิน 500 ล้านบาท/ปี”ซึ่งหากพิจารณาจากตัวเลขแบบแยกประเภทการขายสินค้าและบริการแล้วอาจเข้าใจว่ายังถือว่าเป็น SME อยู่ แต่หากนำตัวเลขรายได้มารวมกันเกินได้ 700 ล้านบาท/ปี ซึ่งเกินกำหนดของธุรกิจขายสินค้าที่ 500 ล้านบาท/ปี หมายความว่าธุรกิจ A จะไม่ถือว่าเป็น SME บทลงโทษ และช่องทางร้องเรียน กฎหมายเครดิตเทอมสำหรับ SME มีบทลงโทษกำหนดไว้อย่างชัดเจน โดยผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามมีบทลงโทษเป็นการปรับเงินสูงสุด 10% ของรายได้ต่อปี นอกจากนี้ประกาศยังได้ระบุพฤติกรรมการค้าที่ไม่เป็นธรรมที่สามารถร้องเรียนได้ โดยมีทั้งหมด 3 พฤติกรรมดังนี้ 1. การประวิงเวลาไม่ยอมชำระหนี้ตามที่เครดิตเทอมกำหนด การประวิงเวลาหรือการที่ผู้ซื้อไม่ชำระหนี้ตามเครดิตเทอมที่ได้ตกลงกันไว้ โดยไม่ได้มีเหตุผลอันสมควรแก่การขยายเวลาชำระหนี้ ซึ่งพฤติกรรมนี้เข้าข่ายมีความผิดตามกฎหมายการแข่งขันทางการค้า 2. เปลี่ยนแปลงระยะเวลาเครดิตเทอม การเปลี่ยนระยะเวลาให้เครดิตเทอม หากไม่ได้มีการแจ้งล่วงหน้าภายใน 60 วัน และไม่มีเหตุผลอันสมควรก็ถือว่าเป็นความผิดเช่นเดียวกัน 3. พฤติกรรมลักษณะอื่น ด้วยอำนาจต่อรองของธุรกิจ SME ที่อาจมีน้อยกว่าคู่ค้าในบางครั้ง อาจทำให้เกิดการเอาเปรียบกันเกิดขึ้น ซึ่งพฤติกรรมลักษณะอื่น เช่น การกำหนดเงื่อนไขพิเศษเพิ่มเติมที่เป็นการสร้างภาระให้แก่ธุรกิจ SME โดยไม่จำเป็น หากธุรกิจ SME พบพฤติกรรมเหล่านี้ของคู่ค้าในการทำธุรกิจร่วมกันสามารถร้องเรียนได้ผ่านช่องทาง รู้ข้อกฎหมายไว้ ไม่ถูกเอาเปรียบ ในการทำธุรกิจ การรู้ข้อกฎหมายให้ครอบคลุมมากที่สุดช่วยลดโอกาสถูกการเอาเปรียบได้ โดยเฉพาะธุรกิจ SME ที่อำนาจต่อรองไม่สูง หลายครั้งโดนตั้งเงื่อนไขต่าง ๆ มากมายจากคู่ค้า เมื่อไม่ถูกเอาเปรียบ ก็สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น ติดตามบทความจาก PEAK ที่นำเสนอความรู้ทางธุรกิจตั้งแต่บัญชี ภาษี ไปจนถึงข่าวสารข้อกำหนดกฎหมายใหม่ ๆ เพื่อผู้ประกอบการโดยเฉพาะ! สำหรับเจ้าของธุรกิจที่ต้องการเพิ่มสภาพคล่อง และอยากเข้าใจการใช้เครดิตเทอมอย่างถูกต้อง นอกจากการศึกษากฎหมายเครดิตเทอมแล้ว คุณยังสามารถเลือกใช้บริการเครดิตเทอมจากผู้ให้บริการที่เชื่อถือได้ เช่น OfficeMate ที่สรุปขั้นตอนและเงื่อนไขการขอเครดิตเทอมออนไลน์ไว้ สร้างใบแจ้งหนี้ออนไลน์ใน 1 นาที ปัจจุบัน ผู้ประกอบการไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก กลาง หรือใหญ่ ต่างหันมาใช้ใบแจ้งหนี้ออนไลน์กันมากขึ้น เพราะสร้าง QR Code ให้ลูกค้าชำระเงินได้สะดวกและลดขั้นตอนการรับชำระได้อย่างมาก บทความนี้จึงขอแนะนำให้ลองสร้างใบแจ้งหนี้ออนไลน์แบบง่ายๆ ผ่านโปรแกรมบัญชีออนไลน์ PEAK ซึ่งใช้งานไม่ซับซ้อน และมีข้อดีที่ช่วยให้ธุรกิจทำงานได้คล่องตัวยิ่งขึ้น ดังนี้ สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า OFM! สำหรับลูกค้า OfficeMate (OFM) ที่ต้องการจัดการเอกสารและบัญชีอย่างมืออาชีพ เรามีตัวช่วย!PEAK คือ โปรแกรมบัญชีออนไลน์ ที่ทำให้การทำบัญชี การเงิน และภาษีเป็นเรื่องง่ายและ อัตโนมัติ ช่วยลดงานเอกสารและประหยัดเวลาด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ (AI, API) แถมยังได้ข้อมูลธุรกิจแบบ Real-Time พิเศษ: ลูกค้า OFM ทดลองใช้ฟรี 30 วัน พร้อม ส่วนลดพิเศษ เมื่อสมัครแพ็กเกจรายปี!ให้ PEAK เป็นหลังบ้านดิจิทัลที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณ จัดการได้อย่างมืออาชีพ!ลงทะเบียนรับสิทธิ์:  ติดตาม OfficeMate ได้ที่ช่องทาง

ความรู้บัญชี