เชื่อมต่อระบบบัญชีและระบบจัดการร้านค้าออนไลน์แบบไร้รอยต่อ

PEAK โปรแกรมบัญชีออนไลน์ รองรับการเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม e-Commerce หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Shopee, Lazada, LINE SHOPPING หรืออื่นๆ ช่วยจัดการระบบหลังบ้าน ด้วยการบันทึกข้อมูลการขาย การรับชำระเงิน ลงบัญชีอัตโนมัติ ลดการทำงานซ้ำซ้อน บริหารร้านค้าออนไลน์ได้ดียิ่งขึ้น

ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ที่เชื่อมต่อกับโปรแกรมพันธมิตร

Partner API ที่สามารถตอบโจทย์การจัดการระบบร้านค้าออนไลน์

ZORT

ระบบจัดการออเดอร์และสต็อกสินค้าแบบครบวงจร ให้ธุรกิจที่มีการขายของหลาย  ทั้งทางระบบ e-

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

KetshopWeb

ผู้ให้บริการระบบ e-Commerce ในแบบที่คุณเป็นเจ้าของระบบเอง ให้คุณสร้างเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ พร้อมเชื่อมต่อ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

BentoWeb

ผู้ให้บริการระบบ e-Commerce ที่ให้คุณเป็นเจ้าของระบบเอง กำหนดนโยบายร้านค้าได้เอง และสามารถต่อย

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

Page365

ผู้ให้บริการระบบจัดการร้านสำหรับร้านค้าออนไลน์บนโซเชียลมีเดีย Facebook, LINE OA และ Instagram

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

LINE SHOPPING

ผู้ให้บริการระบบบริหารการขายครบวงจรด้วยเครื่องมือช่วยอำนวยความสะดวก ให้ลูกค้าซื้อ

SCB

ผู้ใช้งานสามารถนำไฟล์ข้อมูล Bank Statement มากระทบยอดรายรับ-รายจ่าย เพื่อให้ได้ข้อมูล

KBank

รองรับการนำข้อมูลจาก File Statement ในรูปแบบของ PDF สำหรับธนาคาร

Krungsri

ผู้ใช้งานสามารถพิมพ์ไฟล์จ่ายเงินเดือนเพื่อนำเข้าไฟล์จ่ายเงินเดือนบนระบบของธนาคารได้

e-Tax Invoice by Email

บริการสำหรับผู้ประกอบการ SME ที่ประสงค์จะจัดทำ ส่งมอบ และเก็บรักษาใบกำกับภาษี

INET

ผู้ให้บริการออกใบรับรองอิเล็กทรอ-นิกส์ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถจัดทำข้อมูล

Leceipt

ผู้ให้บริการออกเอกสารใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ให้ผู้ประกอบการสามารถจัดทำข้อมูล

BOXME

คลังสินค้าออนไลน์ ผู้ให้บริการเก็บสต็อกสินค้า พร้อมแพ็คและจัดส่งภายในวันเดียว ใช้งานระบบ

ระบบการทำงานหลักๆ ด้านการจัดการร้านค้าออนไลน์ – PEAK Account

ระบบคลังสินค้า

ระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM)

ระบบบริหารทรัพยากรบุคคล (HRM)

แพลตฟอร์มเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน (RPA)

ธนาคาร

จุดเด่นของการเชื่อมต่อระบบบัญชีกับระบบจัดการออนไลน์

เชื่อมต่อง่าย ไม่ซับซ้อน

รองรับการเชื่อมต่อร้านค้าออนไลน์มากกว่า 10 แพลตฟอร์ม

เชื่อมต่อง่ายในไม่กี่ขั้นตอน มีผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำ

บันทึกข้อมูลและสร้างเอกสารอัตโนมัติ

บันทึกบัญชีและตัดสต๊อกสินค้าอัตโนมัติ

สร้างใบเสร็จรับเงินและออกใบกำกับภาษีได้ทันที

เห็นข้อมูลบัญชีร้านค้าทันที

อัปเดตยอดขาย กำไร และต้นทุนขาย จากทุกแพลตฟอร์มในที่เดียว

รองรับการเชื่อมต่อธนาคารและแพลตฟอร์มการรับชำระเงินออนไลน์

ลดข้อผิดพลาด ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย

ข้อมูลถูกต้อง แม่นยำ ปลอดภัย

ลดการคีย์ข้อมูลซ้ำซ้อน ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย

ทำไมต้องใช้ PEAK โปรแกรมบัญชีออนไลน์
ร่วมกับระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ของคุณ

เชื่อมต่อกับร้านค้าออนไลน์โดยตรง

บันทึกข้อมูลบัญชี สร้างเอกสารอัตโนมัติ ครบถ้วนทุกรายการขาย ลดขั้นตอนและลดต้นทุนในการทำงาน

เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการร้านค้าออนไลน์

เห็นภาพรวมข้อมูลบัญชีได้ทันที สามารถบริหารกิจการและตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น

ปลอดภัย ใช้งานง่าย พร้อมบริการช่วยเหลือ

หมดกังวลเรื่องข้อมูลรั่วไหล สูญหาย ด้วยระบบรักษาความปลอดภัย มาตรฐานระดับโลก พร้อมบริการให้คำปรึกษาและช่วยเหลือโดยผู้เชี่ยวชาญ สามารถใช้งานได้แม้ไม่มีพื้นฐานมาก่อน

ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ที่รองรับ

ลูกค้าของเรา

เชื่อมต่อ PEAK โปรแกรมบัญชีออนไลน์ กับระบบอื่นๆ

ดูระบบเชื่อมต่อ API ประเภทอื่นๆ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเชื่อมต่อ API กับระบบจัดการร้านค้าออนไลน์

ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ของ PEAK คือ ระบบที่ช่วยให้ผู้ประกอบการหรือเจ้าของร้านสามารถจัดการและดำเนินการร้านค้าออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นระบบจัดการออเดอร์และสต็อกสินค้าแบบครบวงจร ให้ธุรกิจที่มีการขายของผ่านระบบ E-Commerce สามารถเช็คสต็อกสินค้าได้แบบ Real-time และส่งข้อมูลมาบันทึกบัญชีที่ PEAK ได้อัตโนมัติ และเรายังมีทางเลือกวิธีการ Import Excel จากแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆมาสร้างเอกสารใน PEAK ได้เช่นกัน

ระบบร้านค้าออนไลน์ที่ PEAK รองรับการส่ง API ได้แก่

  1. Shopee
  2. Lazada
  3. KetshopWeb
  4. Zort
  5. BentoWeb
  6. Page365
  7. TARAD U-Commerce
  8. LINE SHOPPING
  9. Shipnity

ระบบร้านค้าออนไลน์ที่ PEAK รองรับการ Import File Excel (ไม่เชื่อม API) ได้แก่

  1. Shopee
  2. Lazada
  3. Tiktok Shop

ข้อดีของการเชื่อมต่อระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ของ PEAK

  1. ระบบบันทึกเอกสารให้อัตโนมัติ ลดเวลาในการคีย์เอกสาร
  2. สต็อกสินค้าถูกอัปเดตแบบ Real-Time เมื่อมีการสร้างเอกสารขายในกิจการ
  3. ลดงานของแอดมินและนักบัญชี
  4. ลดความผิดพลาดในการบันทึกเอกสาร เพราะระบบบันทึกบัญชีให้ตามข้อมูลบนร้านค้า
  5. มีเวลาไปใช้ในการพัฒนาแผนโปรโมทและเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น ไม่ต้องกังวลเรื่องบัญชี

ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ของ PEAK ใช้งานไม่ยาก ตั้งค่าการเชื่อมต่อกับโปรแกรมจัดการออเดอร์และสต็อกที่ต้องการ เพียงครั้งเดียว ระบบสร้างเอกสารใบกำกับภาษีให้อัตโนมัติ ไม่ต้องเหนื่อยคีย์เอกสาร

และหากบางกิจการต้องการสร้างโดยการนำเข้าข้อมูล Excel File จากแพลตฟอร์มร้านออนไลน์ก็สามารถนำเข้าได้ง่ายๆเพียงไม่กี่นาที ระบบก็จะสร้างเอกสารใบเสร็จรับเงินให้ทันทีที่กดอนุมัติการนำเข้าข้อมูล

เริ่มต้นเชื่อมต่อร้านค้าออนไลน์ยังไงให้ข้อมูลครบถ้วน เริ่มต้นไม่ถูกคลิ๊กเรียนเพิ่มที่นี่ได้เลย

ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ของ PEAK เชื่อมต่อกับ Partner ได้ดังนี้

ระบบร้านค้าออนไลน์ที่ PEAK รองรับการส่ง API ได้แก่

  1. Shopee
  2. Lazada
  3. KetshopWeb
  4. Zort
  5. BentoWeb
  6. Page365
  7. TARAD U-Commerce
  8. LINE SHOPPING
  9. Shipnity

ระบบร้านค้าออนไลน์ที่ PEAK รองรับการ Import File Excel (ไม่เชื่อมAPI) ได้แก่

  1. Shopee
  2. Lazada  
  3. Tiktok Shop

 

การเริ่มต้นใช้งานระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ของ PEAK ง่ายๆ เพียงสมัครทดลองใช้งาน PEAK ฟรี 30 วัน
สามารถเริ่มเชื่อมต่อกับระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ได้เลย

คู่มือการเชื่อมต่อร้านค้าออนไลน์
VDO สอนการใช้งานเชื่อมต่อร้านค้าออนไลน์ของPEAK

ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ของ PEAK เหมาะกับธุรกิจ

  1. ธุรกิจซื้อมา – ขายไปแบบ B2C
  2. ธุรกิจ E-Commerce

ผลิตภัณฑ์ของ PEAK

PEAK Account
โปรแกรมบัญชีออนไลน์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

PEAK Payroll
โปรแกรมเงินเดือนออนไลน์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

PEAK Board
โปรแกรมวิเคราะห์ธุรกิจ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

PEAK Asset
โปรแกรมบริหารจัดการสินทรัพย์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

PEAK Tax
โปรแกรมการจัดการภาษีออนไลน์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

Line @PEAKConnect
ใช้งานโปรแกรมผ่านไลน์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

บทความน่ารู้

อัปเดตฟังก์ชัน PEAK 29/10/2025

PEAK Account

7

min

อัปเดตฟังก์ชัน PEAK 29/10/2025

เอาใจผู้ใช้งานโปรแกรม PEAK ด้วยฟังก์ชันใหม่ที่ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น 1. ปรับแถบ “ล่าสุด” ให้เห็นทุกการอัปเดตของเอกสารแบบเรียลไทม์ เหมาะสำหรับ : ผู้ใช้งานทุกแพ็กเกจ ที่ต้องการดูความเคลื่อนไหวของเอกสารครบทุกขั้นตอน Highlight:  แถบ “ล่าสุด” ถูกปรับใหม่ให้แสดงการ อัปเดตล่าสุดของเอกสาร ตามเวลาจริง โดยจะมีการแสดงว่าใครเป็นคนแก้ไขเอกสาร และแสดงเวลาที่แก้ไขเอกสารนั้น ๆ ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบสถานะล่าสุดของเอกสารได้สะดวกมากยิ่งขึ้น หมายเหตุ 2. เพิ่มการแสดงผลเอกสาร PR/IR/GR ในหน้าภาพรวมของผู้ติดต่อแต่ละราย เหมาะสำหรับ : ผู้ใช้งานแพ็กเกจ Premium Highlight: ระบบเพิ่มให้แสดงเอกสารในหน้าภาพรวมของผู้ติดต่อแต่ละราย ที่อยู่ในฝั่งรายจ่ายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ใบขอซื้อ (PR) บันทึกรับสินค้า/บริการ (GR) บันทึกรับเอกสารแจ้งหนี้ (IR) ช่วยให้ติดตามเอกสารภายในได้สะดวกและเห็นทุกความเคลื่อนไหวในหน้าเดียว 3. ตั้งค่าการแสดงผลปุ่ม “ชำระเงิน” สำหรับการส่งอีเมลในเอกสารฝั่งรายรับได้หลากหลายยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับ: ผู้ใช้งานที่มีการเชื่อมต่อระบบการรับชำระเงิน Highlight: ระบบเปิดให้ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าการแสดงผลปุ่ม “ชำระเงิน” เมื่อส่งเอกสารผ่านอีเมลได้หลากหลายเอกสาร จากเดิมที่สามารถตั้งค่าได้เฉพาะการส่งอีเมลด้วย ใบแจ้งหนี้ เท่านั้น ช่วยให้ผู้ใช้งานรับชำระเงินจากการส่งเอกสารผ่านทางอีเมลได้สะดวกมากยิ่งขึ้น เอกสารที่สามารถตั้งค่าได้ 4. PEAK TAX สามารถดูประวัติการเปิด-ปิดดึงข้อมูลอัตโนมัติได้แล้ว เหมาะสำหรับ: ผู้ใช้งาน PEAK TAX ที่มีการใช้งานการดึงข้อมูลอัตโนมัติ Highlight: ฟีเจอร์ PEAK TAX จะแสดงประวัติในการตั้งค่าเปิด-ปิดการดึงข้อมูลอัตโนมัติ (Auto Fetch) ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบได้ว่าผู้ใช้งานคนไหนได้มีการแก้ไขตั้งค่าการดึงข้อมูล และแสดงเวลาที่มีการแก้ไข ช่วยให้ติดตามการตั้งค่าของข้อมูลได้ง่ายขึ้น ลดข้อสงสัยเมื่อข้อมูลมีการเปลี่ยนแปลง หมายเหตุ 5. ปรับการแสดงผลรายงานในหน้าสินค้า/บริการ ให้สามารถแสดงผลจุดทศนิยมได้สูงสุด 4 ตำแหน่ง เหมาะสำหรับ: ผู้ใช้งานที่มีการพิมพ์รายงานสินค้า/บริการ Highlight: ระบบปรับให้รายงานสินค้า/บริการแสดงตัวเลขได้แม่นยำยิ่งขึ้น โดยจะแสดงทศนิยมได้สูงสุดถึง 4 ตำแหน่ง ซึ่งในการอัปเดตครั้งนี้จะแสดงผลในรายงานภาพรวมสินค้า/บริการและรายงานเคลื่อนไหวสินค้า/บริการรายตัว ช่วยให้ผู้ใช้งานเห็นข้อมูลของรายงานสินค้า/บริการที่ละเอียดมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างรายงาน 2. รายงานการเคลื่อนไหวสินค้า/บริการแบบรายตัว จะแสดงผลในทุกคอลัมน์ 6. ปรับการแสดงผลเอกสารในหน้าผู้ติดต่อแต่ละรายให้แสดงเฉพาะเอกสาร 100 รายการล่าสุด และเลือกสถานะเอกสารได้มากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับ : ผู้ใช้งานทุกแพ็กเกจ Highlight: ระบบปรับให้ Dashboard ในหน้าผู้ติดต่อแสดงเฉพาะเอกสาร 100 รายการล่าสุด และสามารถเลือกสถานะในการแสดงผลได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น ช่วยให้สามารถตรวจสอบเอกสารของผู้ติดต่อแต่ละรายได้ละเอียดมากยิ่งขึ้น เดิม : เป็นการแสดงผลเอกสารทั้งหมดที่มีการออกให้ผู้ติดต่อแต่ละราย 7. ปรับหน้า “ผู้ใช้งาน” ให้เห็นเฉพาะข้อมูลของตัวเอง ตามสิทธิ์การใช้งานที่ได้รับ เหมาะสำหรับ : ผู้ใช้งานทุกแพ็กเกจ  Highlight: ระบบได้ปรับหน้า “ผู้ใช้งาน” ให้ผู้ที่ไม่ได้รับสิทธิ์เพิ่มผู้ใช้งาน สามารถเข้ามาดูได้เฉพาะข้อมูลของตนเองเท่านั้น และปิดการแสดงผลปุ่ม “เพิ่มผู้ใช้งานใหม่” เพื่อให้ป้องกันการแสดงข้อมูลให้กับผู้ใช้งานอื่นที่ไม่มีสิทธิ์

ฟังก์ชันใหม่แนะนำการใช้งาน

Update Function PEAK 29/10/2025

PEAK Account

3

min

Update Function PEAK 29/10/2025

PEAK with the new function designed to enhance efficiency. 1. Enhanced “Recent” tab – now shows all document updates in real time Suitable for: All PEAK users who want to track every document change real time Highlight: The “Recent” tab has been redesigned to display real-time updates for all document activities — showing who made the change and when. Now you can easily monitor your latest document status. Note:  2. Added PR / IR / GR documents to each contact’s overview page Suitable for: Premium package users Highlight: The system now displays more document types in each contact’s overview page — including Purchase Requisition (PR), Goods Receipt (GR), and Invoice Receipt (IR) under the expense section. This helps you track all internal documents conveniently in one place. 3. Configure the “Payment” button for sending income documents via email Suitable for: Users connected to Payment Collection Highlight: You can now configure when to display the “Payment” button in emails for multiple document types — not just invoices. This allows customers to make payments easily directly from various types of emailed documents. Including: 4. PEAK TAX now allows you to view the history of Auto Fetch enable/disable actions Suitable for: PEAK TAX users using Auto fetch data feature Highlight: PEAK TAX now shows a history log of Auto Fetch setting changes, including who enabled or disabled the feature and when the change was made. This makes it easier to track Auto fetch data settings and resolve discrepancies quickly. Note:The system displays only changes made after this update release 5. Enhanced Product/Service reports — now display up to 4 decimal places Suitable for: Users who print product/service reports Highlight: Reports now show figures with up to four decimal places, ensuring greater accuracy. This update applies to: 2. Stock Movement Report — shows up to four decimal places across all columns 6. Updated Contact page to show only the 100 most recent documents, with more status filter options Suitable for: All PEAK users Highlight: The Overview Contact Dashboard now displays only the 100 most recent documents, helping pages load faster while allowing you to filter by document status more precisely.Previously, the system displayed all documents issued for each contact. 7. Updated User setting page — users can view only their own information, according to their access permissions Suitable for: All PEAK users Highlight: The User setting page has been updated so that users without permission to add new users can only view their own information. The “Add New User” button is now hidden for these users to prevent unauthorized data access.

ฟังก์ชันใหม่แนะนำการใช้งาน

ต้นทุนแฝง ค่าใช้จ่ายที่ไม่ควรมองข้าม

PEAK Account

16

min

ต้นทุนแฝง (Hidden Cost) ค่าใช้จ่ายที่ไม่ควรมองข้าม

เจ้าของกิจการบางท่านอาจเคยเจอปัญหา สินค้าขายดีมาก แต่ทำไมกำไรไม่เคยเหลือ? หนึ่งในสาเหตุคือ ต้นทุนแฝง ที่ซ่อนอยู่ในต้นทุนแต่หลายคนไม่รู้ตัว! ในบทความนี้เราพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับภัยเงียบนี้ ที่อาจกำลังส่งผลร้ายต่อธุรกิจของคุณอยู่! ต้นทุนแฝง คืออะไร? ต้นทุนแฝง คือ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในการดำเนินธุรกิจ แต่ไม่ได้ถูกบันทึกจำแนกประเภทออกมาอย่างชัดเจน จนทำให้เจ้าของกิจการอาจจะไม่เห็นค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ โดยส่วนใหญ่มักจะเป็นค่าใช้จ่ายเล็กน้อยที่เกิดขึ้น ซ่อนอยู่ในค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ ๆ จนไม่มีใครสังเกตเห็น และไม่ได้นับเป็นต้นทุนตอนวางแผนธุรกิจ ซึ่งต้นทุนแฝง มักจะเริ่มแสดงตัวออกมาเมื่อกำไรในแต่ละเดือนของธุรกิจน้อยกว่าที่คาดไว้ ทั้งที่มีการวางแผนค่าใช้จ่ายไว้ทั้งหมดแล้ว ปัญหานี้อาจส่งผลต่อการวางแผนการเงินของธุรกิจได้ ดังนั้นเพื่อให้เจ้าของกิจการสามารถเห็นตัวเลขของ ‘ต้นทุนจริง’ ในบทความนี้เราชวนทุกท่านมาทำความรู้จักต้นทุนแฝง ไปจนถึงวิธีป้องกันไม่เห็นเกิดปัญหานี้กัน สาเหตุของต้นทุนที่ซ่อนอยู่ สาเหตุของต้นทุนแฝงมักมาจากค่าใช้จ่ายเล็กที่มักเป็นค่าใช้จ่ายทั่วไปในการทำธุรกิจ มูลค่าต่อครั้งไม่สูง แต่หากเกิดขึ้นซ้ำ ๆ ก็รวมกันเป็นค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ได้ไม่ยาก  ยกตัวอย่างเช่น พนักงานขายที่จำเป็นต้องออกไปพบลูกค้าบ่อย และหลายครั้งเพื่อสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้าก็มักจะเลี้ยงกาแฟลูกค้าอยู่เสมอ ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยครั้งละ 300 บาท หากในหนึ่งเดือนต้องออกไปเจอลูกค้า 30 ครั้ง เท่ากับว่าค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะสูงถึง 9,000 บาท! ซึ่งในบริษัทที่ไม่ได้มีการบันทึกบัญชีแบบแยกประเภทค่าใช้จ่ายอย่างถูกต้อง ก็อาจจะไม่เห็นตัวเลขตรงนี้ชัดเจน ยิ่งถ้าในบริษัทมีพนักงานขายหลายคน ก็อาจมีต้นทุนแฝงตรงนี้หลายหมื่นบาทได้เลย จากตัวอย่างเจ้าของกิจการน่าจะพอมองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นหากไม่มีการจัดการค่าใช้จ่ายเล็กน้อยส่วนนี้ หรือไม่ได้มีการบ่งชี้ให้ชัดเจน ทำให้ต้นทุนสูงขึ้นโดยไม่รู้ตัว ต้นทุนแฝง มีอะไรบ้าง? ซึ่ง ต้นทุนแฝง มีหลายรูปแบบ หลายรายการ ไม่ใช่เพียงแค่ค่ากาแฟเลี้ยงลูกค้า แต่ยังมีส่วนอื่น ๆ ตามรายการต่อไปนี้ 1. ต้นทุนแฝงจากค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด ต้นทุนแฝงอันดับต้น ๆ ที่เจ้าของกิจการอาจไม่เคยทราบว่ากำลังเกิดขึ้น มักจะเป็นค่าใช้จ่ายเล็กน้อยมาก ๆ เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่อย่างเงินเดือนพนักงาน หรือค่าเช่าออฟฟิศ ซึ่งค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดประกอบไปด้วย 2. ต้นทุนแฝงจากการติดต่อสื่อสารและการเดินทาง ในบริษัทที่มีพนักงานเดินทางไปติดต่อขายสินค้าหรือหาลูกค้าใหม่ ๆ ที่ต้องมีค่าเดินทางและค่าโทรศัพท์ให้พนักงานขาย หากไม่ได้มีระบบการบันทึก ก็อาจกลายเป็นค่าใช้จ่ายที่ซ่อนตัวอยู่เพิ่มขึ้นมา ที่เมื่อรวมแล้วก็เป็นค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ได้เช่นกัน 3. ต้นทุนแฝงจากสินค้าคงคลัง (สต๊อก) สำหรับธุรกิจที่มีการสต๊อกสินค้า ต้องบริหารจัดการสต๊อกให้ดี ไม่เช่นนั้นอาจเกิดต้นทุนแฝง ได้โดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็นค่าเช่าพื้นที่จัดเก็บสินค้า หรือสินค้าที่ขายไม่ออกจนตกรุ่น ก็อาจกลายเป็นหนึ่งในต้นทุนแฝงก้อนโต 4. ต้นทุนแฝงในรูปแบบของ “เวลา” ต้นทุนที่แพงที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะเวลาไม่สามารถเรียกคืนกลับมาได้ และยิ่งในยุคปัจจุบันที่มีการแข่งขันสูง ทุกนาทีมีค่า เพราะอาจเสียโอกาสสร้างยอดขายไปจากความผิดพลาด หรือระบบที่ไม่แข็งแรงมากพอ โอกาสเกิดต้นทุนแฝง นั้นมีมากไม่รู้จบ ถ้าไม่มีการบันทึกรายได้อย่างเป็นระบบ หากคิดออกมาเป็นเงิน ก็ถือว่าเป็นก้อนโตที่ต้องเสียไปในแต่ละปี เจ้าของกิจการควรหาวิธีคลายปมแก้ไขทีละจุด เพื่อช่วยลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจลงไปได้มหาศาล เจ้าของกิจการจะรู้ได้อย่างไรว่ามี ต้นทุนแฝง อะไรบ้าง? คำถามถัดมาคือ แล้วเจ้าของกิจการจะรู้ได้อย่างไรว่าธุรกิจมีต้นทุนแฝงอยู่ ซึ่งคำตอบอยู่ใน “งบกำไรขาดทุน” (Profit and Loss Statement) ของธุรกิจของคุณนั่นเอง เพราะในงบกำไรขาดทุนจะมีตัวเลขต้นทุนค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงในรอบระยะเวลาหนึ่งแสดงอยู่ เจ้าของกิจการจะได้เห็นภาพรวมของธุรกิจว่าจริง ๆ แล้ว จากยอดขายต่อเดือนเยอะ ๆ นั้นได้ กำไร หรือ ขาดทุน อย่างไรก็ตามปัญหาส่วนใหญ่ของงบกำไรขาดทุนคือมีการจัดหมวดหมู่แบบคร่าว ๆ ไม่ได้มีการจัดหมวดหมู่ได้อย่างถูกต้องจริง ๆ ทำให้เจ้าของกิจการไม่ได้เห็นต้นทุนแฝง แบบชัดเจน เพราะฉะนั้นเมื่อรู้เช่นนี้แล้ว ควรเริ่มต้นจัดกลุ่มค่าใช้จ่ายให้ถูกต้องอย่างละเอียด เพื่อให้สามารถบริหารค่าใช้จ่ายได้ง่ายขึ้น ซึ่งโดยปกติจะมีหมวดหมู่ดังนี้ ซึ่งภายใต้ของทั้งสองหมวดก็จะมีประเภทแยกย่อยลงไปอีก เพื่อความชัดเจนของค่าใช้จ่ายแต่ละส่วน ข้อควรระวังในการทำงบการเงินของเจ้าของกิจการ ปัญหาของงบกำไรขาดทุน ที่นำไปสู่การเกิดต้นทุนแฝง โดยไม่รู้ตัว คือ การระบุหมวดหมู่ของค่าใช้จ่ายไม่ถูกต้อง เพราะสาเหตุของต้นทุนแฝงมักเกิดขึ้นจากค่าใช้จ่ายเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ค่ากระดาษ ได้ถูกบันทึกในค่าใช้จ่ายของสำนักงานหรือไม่? หรือ สินค้าที่เสียหายหรือค้างสต๊อก ได้บันทึกเป็นค่าใช้จ่ายที่เสียไปหรือไม่? ค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้บันทึกหมวดหมู่ หรือบางครั้งถูกลืมปล่อยผ่านไปเฉย ๆ คือ สาเหตุของ ต้นทุนแฝง ที่อาจกำลังทำร้ายธุรกิจของเราอยู่อย่างเงียบ ๆ เพราะฉะนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดต้นทุนแฝง ควรย้อนกลับไปตั้งแต่การจัดการระบบการบันทึกงบกำไรขาดทุน ที่นอกจากกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน ควรจัดหมวดหมู่ให้ถูกต้องด้วยเช่นกัน เหตุผลสำคัญที่เจ้าของกิจการควรรู้ ต้นทุนแฝง ผลกระทบของ ต้นทุนแฝง นั้นมหาศาลมากกว่าที่เจ้าของกิจการหลายท่านอาจคิดไว้ การลงบันทึกในงบการเงินจึงเป็นข้อสำคัญที่เจ้าของกิจการควรดูเป็นประจำ เพื่อให้เห็นค่าใช้จ่ายที่อาจซ่อนอยู่ ซึ่งผลกระทบของการลงบันทึกผิดพลาด หรือไม่ละเอียดมากพอ สามารถส่งผลกระทบต่อธุรกิจได้ดังนี้ หยุดวงจรต้นทุนแฝง ก่อนจะสายเกินไป! เจ้าของกิจการควรตั้งคำถามเสมอว่า ทุกวันนี้เราได้เห็นต้นทุนจริงของธุรกิจหรือยัง? หรือยังมีค่าใช้จ่ายอะไรที่แอบซ่อนอยู่หรือไม่? เพื่อคอยเตือนให้ย้อนกลับไปอ่านงบการเงินเพื่อตรวจสอบ และจัดหมวดหมู่ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้ดี เพื่อปิดโอกาสไม่ให้เกิดต้นทุนแฝง หรือปัญหา “ขายดี แต่ทำไมกำไรไม่เหลือ” เริ่มต้นก่อน จัดการได้ก่อน ลดต้นทุนเพื่อธุรกิจที่เติบโต เทคนิคการใช้ PEAK เพื่อจัดกลุ่มค่าใช้จ่ายให้เจ้าของกิจการดูง่ายด้วยตัวเอง โปรแกรมบัญชี PEAK เปิดโอกาสให้เจ้าของกิจการ หรือพนักงานบัญชีสามารถจัดกลุ่มค่าใช้จ่ายตามแต่ละประเภทที่ต้องการได้ด้วยตัวเอง เพราะในธุรกิจแต่ละประเภทค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจะแตกต่างกัน เช่น ธุรกิจที่เป็น Work From Home 100% อาจจะไม่มีค่าใช้จ่ายเกี่ยวข้องกับสำนักงาน โดยฟีเจอร์การตั้งค่างบกำไร ขาดทุน ของ PEAK สามารถจัดกลุ่มได้สองรูปแบบด้วยกัน ข้อดีสำคัญคือ เจ้าของกิจการสามารถประชุมกับทีมบัญชีเพื่อตั้งค่ากลุ่มค่าใช้จ่ายเหล่านี้ให้เหมาะสมกับแนวทางการดำเนินธุรกิจขององค์กรได้ สามารถอ่านข้อมูลการใช้งานเพิ่มเติมได้ที่นี่ ทดลองใช้งานโปรแกรมบัญชี PEAK ฟรี! 30 วัน มูลค่า 1,200 บาทคลิก   (ไม่มีค่าใช้จ่าย)PEAK Call Center : 1485LINE : @peakaccountสอบถามเพิ่มเติม คลิก 

ความรู้ธุรกิจ

Update Function PEAK 29/10/2025

PEAK Account

3

min

Update Function PEAK 29/10/2025

PEAK with the new function designed to enhance efficiency. 1. Enhanced “Recent” tab – now shows all document updates in real time Suitable for: All PEAK users who want to track every document change real time Highlight: The “Recent” tab has been redesigned to display real-time updates for all document activities — showing who made the change and when. Now you can easily monitor your latest document status. Note:  2. Added PR / IR / GR documents to each contact’s overview page Suitable for: Premium package users Highlight: The system now displays more document types in each contact’s overview page — including Purchase Requisition (PR), Goods Receipt (GR), and Invoice Receipt (IR) under the expense section. This helps you track all internal documents conveniently in one place. 3. Configure the “Payment” button for sending income documents via email Suitable for: Users connected to Payment Collection Highlight: You can now configure when to display the “Payment” button in emails for multiple document types — not just invoices. This allows customers to make payments easily directly from various types of emailed documents. Including: 4. PEAK TAX now allows you to view the history of Auto Fetch enable/disable actions Suitable for: PEAK TAX users using Auto fetch data feature Highlight: PEAK TAX now shows a history log of Auto Fetch setting changes, including who enabled or disabled the feature and when the change was made. This makes it easier to track Auto fetch data settings and resolve discrepancies quickly. Note:The system displays only changes made after this update release 5. Enhanced Product/Service reports — now display up to 4 decimal places Suitable for: Users who print product/service reports Highlight: Reports now show figures with up to four decimal places, ensuring greater accuracy. This update applies to: 2. Stock Movement Report — shows up to four decimal places across all columns 6. Updated Contact page to show only the 100 most recent documents, with more status filter options Suitable for: All PEAK users Highlight: The Overview Contact Dashboard now displays only the 100 most recent documents, helping pages load faster while allowing you to filter by document status more precisely.Previously, the system displayed all documents issued for each contact. 7. Updated User setting page — users can view only their own information, according to their access permissions Suitable for: All PEAK users Highlight: The User setting page has been updated so that users without permission to add new users can only view their own information. The “Add New User” button is now hidden for these users to prevent unauthorized data access.

ฟังก์ชันใหม่แนะนำการใช้งาน