PEAK Payroll สามารถ export ได้ทั้งเงินเดือน ประกันสังคมและภาษี ผ่าน ธนาคาร และ RD-Prep

ตัวช่วยผู้ประกอบการ โปรแกรมเงินเดือนออนไลน์ ทำเงินเดือนพนักงานเป็นระบบ รองรับทุกการเติบโต

โปรแกรมคำนวณเงินเดือนออนไลน์ PEAK Payroll เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการจัดการงานบริหารบุคคลในส่วนของเงินเดือนและค่าจ้างหรือผลตอบแทนของ พนักงาน ตั้งแต่ขั้นตอนการนำเข้าข้อมูล การกำหนดสิทธิการเข้าถึงข้อมูลสำหรับ ผู้ดูแลระบบและผู้ใช้งาน การคำนวณเงินเดือนและภาษีไปจนถึงขั้นตอนการจ่าย เงินเดือนและออกรายงานหรือสลิปเงินเดือนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

24,000 บริษัท
วางใจใช้งาน PEAK

30,000

บริษัท

วางใจใช้งาน PEAK

1,400 พันธมิตรสำนักงานบัญชี

1,400

พันธมิตร

PEAK Family Partner

4  ล้านธุรกรรมต่อเดือน บน PEAK

4

ล้านธุรกรรม/เดือน

ธุรกรรมบน PEAK ต่อเดือน

40,000 ล้าน บาท/เดือน

40,000

ล้าน บาท/เดือน

มูลค่ารายการค้าต่อเดือน

จุดเด่นและฟังก์ชันของ PEAK Payroll โปรแกรมเงินเดือนออนไลน์ที่ใช้งานง่ายที่สุด

สลิปเงินเดือน

สลิปเงินเดือน

สร้างง่ายเพียง 3 ขั้นตอน

ส่งให้พนักงานอัตโนมัติและขอสลิปเงินเดือนเมื่อไหร่ก็ได้

ยื่นประกันสังคมออนไลน์

ยื่นประกันสังคมออนไลน์

สร้างไฟล์พร้อมยื่นประกันสังคม

สามารถนำไปยื่นในระบบ SSO e-service

จ่ายเงินเดือน

จ่ายเงินเดือน

ลดของผิดพลาดในการจ่ายเงินเดือนด้วยไฟล์

ประหยัดเวลาในการจ่ายเงินเดือน

บันทึกบัญชีอัตโนมัติ

บันทึกบัญชีอัตโนมัติ

ลงบัญชีให้อัตโนมัติทุกขั้นตอนในการทำเงินเดือน

ลดเวลาการงานเงินเดือน

คำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

คำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

คำนวณและสร้างภาษีหัก ณ ที่จ่ายได้

สามารถนำข้อมูลไปสร้าง ภ.ง.ด.1, ภ.ง.ด.1ก

สร้างรายการหักเงินหรือเงินได้อย่างอิสระ

สร้างรายการเงินหักหรือเงินได้อย่างอิสระ

สร้างเงินได้พิเศษเพื่อให้ครอบคลุมสวัสดิการ

สร้างเงินหักเพื่อรองรับนโยบาย

PEAK Payroll เหมาะกับใคร?
โปรแกรมเงินเดือนออนไลน์ที่ตอบโจทย์ธุรกิจมากที่สุด

ผู้ประกอบการใช้ PEAK Payroll จัดการเงินเดือนในธุรกิจ SME

เครื่องมือช่วยบริหารต้นทุนเงินเดือนสำหรับผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจ SME

เห็นภาพรวมเงินเดือนทั้งหมดของบริษัท ทำให้สามารถวางแผนเงินเดือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ฝ่ายบุคคลและนักบัญชีใช้ PEAK Payroll บริหารเงินเดือนและข้อมูลพนักงาน

ตัวช่วยจัดการเงินเดือน
สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลและนักบัญชี

โปรแกรมเงินเดือน ลดความซ้ำซ้อนในการทำงาน ประหยัดเวลา สามารถทำเงินเดือนได้ถูกต้องและรวดเร็ว

จ่ายเงินเดือนผ่านโปรแกรมเงินเดือน PEAK Payroll เชื่อมต่อโปรแกรมบัญชีอัตโนมัติ

จ่ายเงินเดือนผ่านโปรแกรมเงินเดือน PEAK Payroll เชื่อมต่อโปรแกรมบัญชีอัตโนมัติ

ลดขั้นตอนในการทำงาน ลดข้อผิดพลาด ข้อมูลถูกต้อง แม่นยำ และรวดเร็ว ครบทุกเรื่องบัญชี ภาษี และประกันสังคม จบในที่เดียว

ราคาเริ่มต้น 1,200 บาท/เดือน โปรแกรมเงินเดือนออนไลน์ PEAK Payroll

บริหารธุรกิจ บัญชี การเงิน
และจัดการเงินเดือนได้ครบวงจร

เริ่มต้นเพียง 1,200 บาท/เดือน

รู้จัก PEAK Payroll โปรแกรมเงินเดือนออนไลน์ ใน 3 นาที

จัดการเงินเดือนได้ง่ายๆ ด้วย โปรแกรมเงินเดือน - PEAK Payroll

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโปรแกรมเงินเดือนออนไลน์ PEAK Payroll

สามารถทำได้ โดยจะออกสลิปเงินเดือนและสามารถกดส่งสลิปเงินเดือนทาง Email ให้กับพนักงานในบริษัทได้เมื่อมีการบันทึกจ่ายเงินเดือน บนโปรแกรมเงินเดือน (PEAK Payroll)

อ่าน คู่มือการออกสลิปเงินเดือน เพิ่มเติมนี่ที่
อ่าน คู่มือการส่งสลิปเงินเดือนทาง Email เพิ่มเติมที่นี่

สามารถทำได้ซึ่งบนโปรแกรมเงินเดือน (PEAK Payroll) สามารถสร้างได้ทั้งแบบภาษีรายเดือนและรายปี

โดยแยกเป็น 2 ประเภทดังนี้

  1. ภ.ง.ด 1 เมื่อมีการบันทึกจ่ายเงินเดือน PAY โปรแกรมเงินเดือน (PEAK Payroll) จะสร้างไฟล์ให้อัตโนมัติสำหรับการใช้โอนย้ายบน RD Prep และนำส่งข้อมูลให้กับทางกรมสรรพากรได้
  2. ภ.ง.ด 1ก เมื่อมีการสร้างสรุปจ่ายเงินเดือนประจำปีใน ระบบโปรแกรมเงินเดือน (PEAK Payroll) จึงดึงข้อมูลจากการจ่ายเงินเดือนในแต่ละเดือนของปีนั้นๆมารวมคำนวณเงินได้ และคิดภาษีรวมทั้งปีให้ ซึ่งง่ายต่อการนำการนำข้อมูลไปยื่นภาษีต่อ

เมื่อใช้โปรแกรมเงินเดือน (PEAK Payroll) เพื่อสร้างข้อมูลเงินเดือน และการชำระเงินเดือน คุณไม่จำเป็นต้องทำการบันทึกค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีกครั้ง เนื่องจากระบบจะทำการบันทึกบัญชีให้โดยอัตโนมัติในรูปแบบของเอกสารบันทึกรายจ่าย EXP ซึ่งโปรแกรมเงินเดือน (PEAK Payroll) จะช่วยประหยัดเวลาและลดความผิดพลาดในกระบวนการบัญชีของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับการคำนวณยอดการจ่ายประกันสังคม โปรแกรมเงินเดือน (PEAK Payroll) สามารถตั้งค่าคำนวณได้แบบทั้งกิจการและลงลึกได้ทั้งแบบรายพนักงานในบริษัท

ซึ่งการตั้งค่าประกันสังคมสามารถตั้งค่าได้ทั้งฝั่งอัตราเงินสมทบส่วนของนายจ้าง และ อัตราเงินสมทบส่วนของลูกจ้างเพื่อให้การจ่ายประกันสังคมในแต่ละเดือนเป็นเรื่องง่ายและสะดวกต่อการทำงาน

และที่เป็นจุดเด่นโปรแกรมเงินเดือน (PEAK Payroll) สามารถสร้างไฟล์ประกันสังคมเพื่อนำไปอัปโหลดบนเว็บไซต์ประกันสังคม เพื่อทำจ่ายประกันสังคมได้ด้วย

อ่าน สำหรับวิธีการใช้งานฟังก์ชันเกี่ยวกับประกันสังคม เพิ่มเติมที่นี่
อ่าน วิธีการสร้างไฟล์ประกันสังคมเพื่อนำไปจ่ายบนเว็บไซต์ประกันสังคม เพิ่มเติมที่นี่

ผลิตภัณฑ์ของ PEAK

PEAK Account
โปรแกรมบัญชีออนไลน์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

PEAK Payroll
โปรแกรมเงินเดือนออนไลน์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

PEAK Board
โปรแกรมวิเคราะห์ธุรกิจ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

PEAK Asset
โปรแกรมบริหารจัดการสินทรัพย์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

PEAK Tax
โปรแกรมการจัดการภาษีออนไลน์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

Line @PEAKConnect
ใช้งานโปรแกรมผ่านไลน์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

บทความน่ารู้

สิทธิพิเศษลูกค้า PEAK เมื่อเปิดเว็ปไซต์ใหม่กับ

PEAK Account

5

min

สิทธิพิเศษลูกค้า PEAK เปิดเว็บกับ MakeWebEasy ลดสูงสุด 20%

สำหรับผู้ประกอบการและธุรกิจที่ใช้ PEAK อยู่แล้ว และกำลังมองหาช่องทางออนไลน์ในการเริ่มโปรโมทธุรกิจ หรือขยายธุรกิจบนออนไลน์ การสร้างเว็บไซต์ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ยังคงมีประสิทธิภาพและสร้างความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจได้เป็นอย่างดี วันนี้ PEAK ได้ร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับ MakeWebEasy แพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปของไทย ที่ทำให้ทุกธุรกิจเติบโตบนออนไลน์มามากกว่า 9,000 ธุรกิจ ขอมอบโปรโมชั่นสุดคุ้มที่ออกแบบมาให้ธุรกิจของคุณสามารถขยายตลาดบนออนไลน์ได้แบบครบครัน เลือกได้เลยตามความต้องการของคุณเอง 3 โปรโมชันเด็ด เฉพาะ สิทธิพิเศษลูกค้า PEAK เท่านั้น! สิทธิพิเศษแรก รับส่วนลด 10% เมื่อซื้อแพ็กเกจเว็บไซต์ของ MakeWebEasy เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการเริ่มต้นมีเว็บไซต์อย่างรวดเร็วด้วยเทมเพลตเว็บไซต์ที่เรามีให้ สร้างสรรค์เว็บไซต์ได้ด้วยตัวเอง พร้อมฟีเจอร์ที่ทุกธุรกิจต้องการ เช่น ระบบตะกร้าสินค้า ระบบบทความ รองรับโค้ดสำหรับการทำโฆษณาในทุกช่องทาง     อ่านรายละเอียดบริการ : www.makewebeasy.com/th/website-package  สิทธิพิเศษที่สอง รับส่วนลด 15% เมื่อซื้อแพ็กเกจเว็บไซต์ และบริการเสริมจาก MakeWebEasy เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการมากกว่าเว็บไซต์พื้นฐาน โดยคุณสามารถเลือกรับบริการเสริม 1 บริการ เพื่อเสริมประสิทธิภาพของเว็บไซต์ให้โดดเด่นมากยิ่งขึ้น สำหรับผู้ที่ต้องการเว็บไซต์ที่มีดีไซน์เฉพาะตัว สวยงาม และใช้งานง่าย ทีมออกแบบมืออาชีพของ MakeWebEasy จะช่วยสร้างสรรค์เว็บไซต์ที่สะท้อนเอกลักษณ์ของแบรนด์คุณได้อย่างโดดเด่น ทำให้เว็บไซต์ของคุณดูน่าเชื่อถือและดึงดูดลูกค้ามากขึ้น อ่านรายละเอียดบริการ : www.makewebeasy.com/th/website-design  สำหรับผู้ที่ต้องการให้เว็บไซต์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้นผ่านการทำการตลาด โดยโปรโมทเว็บไซต์ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น การทำ SEO (Search Engine Optimization) เพื่อให้เว็บไซต์ติดอันดับการค้นหาบน Google หรือการทำโฆษณาออนไลน์อย่าง Google Ads เพื่อเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์อย่างรวดเร็วและสร้างยอดขายได้ทันที อ่านรายละเอียดบริการ SEO : www.makewebeasy.com/th/seo-suggestion  อ่านรายละเอียดบริการ Google : www.makewebeasy.com/th/google-adwords  สิทธิพิเศษที่สาม รับส่วนลด 20% เมื่อซื้อแพ็กเกจเว็บไซต์ บริการออกแบบเว็บไซต์ + การตลาดออนไลน์ จาก MakeWebEasy แพ็กเกจที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับธุรกิจที่ต้องการโซลูชั่นทางธุรกิจออนไลน์แบบครบวงจร  เริ่มตั้งแต่การมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง การออกแบบเว็บไซต์ที่เป็นเอกลักษณ์จากทีมดีไซน์เนอร์ ไปจนถึงการทำการตลาดออนไลน์ผ่านการวางโครงสร้างที่ถูกหลัก SEO และยิงโฆษณาให้เว็บไซต์เป็นที่รู้จักและสร้างยอดขายด้วย Google Ads  ________________________________ สิทธิพิเศษลูกค้า PEAK จาก MakeWebEasy หากคุณกำลังจะสร้างเว็บไซต์ใหม่ เวลานี้คุ้มที่สุด เพราะเราพร้อมมอบสิทธิพิเศษในการใช้บริการเว็บไซต์ของ MakeWebEasy ในราคาที่พิเศษกว่าใคร วันนี้ – 31 สิงหาคม 2568 เท่านั้น สนใจลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ที่  ________________________________ สอบถามรายละเอียดบริการสร้างเว็บไซต์กับ MakeWebEasy Facebook Page : www.facebook.com/makewebeasy  Add Line : 40xsm5339b  Call : 022177999 

ใบสั่งซื้อ PO เอกสารการสั่งซื้อสินค้าของผู้ประกอบการธุรกิจ

PEAK Account

13

min

ใบสั่งซื้อ Purchase Order (PO) คืออะไร พร้อมตัวอย่าง

ใบสั่งซื้อ PO (Purchase Order): หัวใจสำคัญของการควบคุมต้นทุนและสร้างระบบให้ธุรกิจคุณ ในการดำเนินธุรกิจยุคใหม่ที่การแข่งขันสูง การบริหารจัดการต้นทุนและการควบคุมการจัดซื้อจัดจ้างอย่างมีระบบเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเอกสารสำคัญอย่าง ใบสั่งซื้อ (Purchase Order หรือ PO) ที่เป็นมากกว่าแค่กระดาษ แต่คือกลไกสำคัญในการบริหารจัดการการเงินและสร้างความโปร่งใสให้ธุรกิจของคุณ มาดูกันว่าทำไมใบ PO ถึงเป็นหัวใจสำคัญที่ทุกกิจการไม่ควรมองข้าม ใบสั่งซื้อ PO สำคัญอย่างไรกับธุรกิจของคุณ? การใช้ใบสั่งซื้อ PO อย่างถูกวิธี ไม่เพียงช่วยให้คุณจัดการเรื่องการจัดซื้อได้ง่ายขึ้น แต่ยังเสริมสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับการดำเนินงานโดยรวม ใบสั่งซื้อ PO คืออะไร แตกต่างจากใบขอซื้อ PR อย่างไร? ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง มีเอกสารสำคัญสองประเภทที่มักสร้างความสับสนให้กับผู้ประกอบการ นั่นคือ ใบสั่งซื้อ (PO) และ ใบขอซื้อ (PR) แม้จะมีความเกี่ยวข้องกัน แต่มีวัตถุประสงค์และการใช้งานที่แตกต่างกัน มาทำความเข้าใจความต่างนี้กัน ใบสั่งซื้อ (Purchase Order – PO) คือ ใบสั่งซื้อ (PO) เป็นเอกสารทางธุรกิจที่ออกโดย ฝ่ายจัดซื้อขององค์กร (ผู้ซื้อ) เพื่อ สั่งซื้อสินค้าหรือบริการจากผู้ขาย (Supplier) อย่างเป็นทางการ เปรียบเสมือนสัญญาซื้อขายที่มีผลผูกพันทางกฎหมายเมื่อผู้ขายตอบรับ ใบสั่งซื้อ PO จะถูกจัดทำขึ้น หลังจากที่ใบขอซื้อ (PR) ได้รับการอนุมัติแล้ว โดยจะมีรายละเอียดครบถ้วน เช่น: ใบขอซื้อ (Purchase Requisition – PR) คือ ใบขอซื้อ (PR) เป็นเอกสาร ภายในองค์กร ที่แผนกต่าง ๆ (เช่น แผนกผลิต, แผนกการตลาด) ใช้แจ้งความต้องการสั่งซื้อสินค้าหรือบริการไปยัง ฝ่ายจัดซื้อ โดยระบุรายละเอียดสินค้าที่ต้องการ เหตุผลที่ต้องใช้ และงบประมาณที่เกี่ยวข้อง เอกสาร PR ต้องได้รับการตรวจสอบและอนุมัติจากหัวหน้าแผนกหรือผู้มีอำนาจก่อนที่จะส่งต่อไปยังฝ่ายจัดซื้อ เพื่อยืนยันความจำเป็นและความเหมาะสมของการจัดซื้อ ระบบ PR ช่วยควบคุมการใช้จ่าย ป้องกันการสั่งซื้อที่ไม่จำเป็น รวมถึงป้องกันการทุจริตของพนักงานและผู้ขาย สรุปความแตกต่างง่ายๆ: ข้อมูลสำคัญที่ต้องมีใน ใบสั่งซื้อ PO ใบสั่งซื้อ PO ที่สมบูรณ์และถูกต้อง ควรประกอบด้วยข้อมูลสำคัญเหล่านี้ เพื่อลดข้อผิดพลาดและข้อพิพาทที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต: ข้อมูลสำคัญที่ต้องมีในใบขอซื้อ PR ใบขอซื้อ (PR) แม้จะเป็นเอกสารภายใน แต่ก็มีความสำคัญไม่แพ้ใบสั่งซื้อ โดยข้อมูลที่ครบถ้วนในใบ PR จะช่วยให้ฝ่ายจัดซื้อดำเนินการได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว: ตัวอย่างใบสั่งซื้อ PO และ ใบขอซื้อ PR เพื่อให้เข้าใจรูปแบบและองค์ประกอบของเอกสารทั้งสองประเภทได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ลองจินตนาการถึงโครงสร้างพื้นฐานดังนี้: ตัวอย่างโครงสร้างใบขอซื้อ PR ตัวอย่างใบขอซื้อ PO สรุปท้ายบทความ การมีระบบเอกสารการสั่งซื้อที่แข็งแกร่ง ไม่เพียงช่วยควบคุมค่าใช้จ่าย ป้องกันการทุจริต และสร้างความโปร่งใสในกระบวนการจัดซื้อขององค์กรได้ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการบริหารจัดการธุรกิจในภาพรวม เจ้าของธุรกิจจึงควรเข้าใจและใช้ประโยชน์จากใบสั่งซื้อ PO อย่างเต็มที่ สำหรับธุรกิจยุคใหม่ การพึ่งพาระบบมือหรือเอกสารกระดาษอาจไม่เพียงพออีกต่อไป PEAK โปรแกรมบัญชีออนไลน์ เข้ามาตอบโจทย์ตรงนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยฟังก์ชันที่รองรับการสร้างใบสั่งซื้อ (PO) ได้อย่างง่ายดาย คุณสามารถจัดการคำสั่งซื้อจากผู้จัดจำหน่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ PEAK ช่วยให้คุณบันทึกและติดตามข้อมูลการสั่งซื้อ สินค้า บันทึกซื้อสินค้า และเงื่อนไขการชำระเงินได้อย่างเป็นระบบ พร้อมทั้งสามารถ เชื่อมโยงข้อมูลกับใบส่งสินค้าและใบแจ้งหนี้ได้ทันที ทำให้การจัดการบัญชีตั้งแต่การสั่งซื้อ การรับสินค้า ไปจนถึงการชำระเงินเป็นไปอย่างราบรื่น มีระบบ และแม่นยำมากยิ่งขึ้น ลดข้อผิดพลาด ประหยัดเวลา และช่วยให้คุณมีข้อมูลเชิงลึกสำหรับการตัดสินใจทางธุรกิจที่ดีขึ้นเสมอ ทดลองใช้งานโปรแกรมบัญชี PEAK ฟรี! 30 วัน มูลค่า 1,200 บาท คลิก (ไม่มีค่าใช้จ่าย) PEAK Call Center : 1485 LINE : @peakaccount สอบถามเพิ่มเติม คลิก

ความรู้ธุรกิจความรู้บัญชี

ทำความรู้จัก ภาษี 3 ตัว จดทะเบียนพาณิชย์ จดทะเบียนบริษัท ภาษีมูลค่าเพิ่ม

PEAK Account

24

min

เริ่มธุรกิจให้ถูกต้อง! จดทะเบียนพาณิชย์ จดทะเบียนบริษัท ภาษีมูลค่าเพิ่ม

การเริ่มต้นธุรกิจเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นและท้าทาบ แต่หนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่หลายคนอาจมองข้าม คือ การจดทะเบียนพาณิชย์ หรือที่เราคุ้นเคยกันในชื่อ จดทะเบียนการค้า ซึ่งไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของธุรกิจคนเดียว หรือกำลังจะจัดตั้งนิติบุคคล การทำความเข้าใจขั้นตอนและประเภทของการจดทะเบียนจะช่วยให้ธุรกิจของคุณดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและถูกต้องตามกฎหมาย บทความนี้จะพาคุณรู้จักการจดทะเบียนแต่ละประเภทมากขึ้น  จดทะเบียนพาณิชย์ คืออะไร ทำไมต้องจด? การจดทะเบียนพาณิชย์ คือ การแจ้งให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบว่าคุณกำลังดำเนินกิจการค้า ซึ่งมีประโยชน์ต่อธุรกิจในหลายประการ เช่น: ประเภทการ จดทะเบียนพาณิชย์: บุคคลธรรมดา vs. นิติบุคคล ก่อนอื่น เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า จดทะเบียนพาณิชย์ หรีอ จดทะเบียนการค้า แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ตามลักษณะของกิจการ ดังนี้ 1. จดทะเบียนการค้า บุคคลธรรมดา สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการดำเนินธุรกิจในนามส่วนตัว (กิจการเจ้าของคนเดียว) ไม่ได้มีการแยกนิติบุคคลออกจากเจ้าของกิจการ การจดทะเบียนประเภทนี้จะเหมาะกับธุรกิจขนาดเล็ก ข้อดีคือขั้นตอนไม่ซับซ้อนและค่าใช้จ่ายน้อย ความรับผิดชอบในหนี้สินของกิจการจะครอบคลุมไปถึงทรัพย์สินส่วนตัวของเจ้าของด้วย สรุปง่ายๆ: หากคุณเป็นบุคคลธรรมดาที่เปิดร้าน มีหน้าร้าน มีการซื้อมาขายไป หรือให้บริการที่มีลักษณะเป็นการค้าอย่างสม่ำเสมอ และมีรายได้ในระดับหนึ่ง คุณมีหน้าที่ต้อง จดทะเบียนการค้า บุคคลธรรมดา  ใครบ้างที่ “ได้รับการยกเว้น” ไม่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์? 2. จดทะเบียนนิติบุคคล การเลือกรูปแบบธุรกิจที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะมีผลต่อทั้งความรับผิดชอบทางกฎหมาย ภาระภาษี และความน่าเชื่อถือในสายตาคู่ค้าและลูกค้า โดยหลักๆ แล้ว รูปแบบนิติบุคคลที่นิยมจดทะเบียนเพื่อประกอบธุรกิจในประเทศไทยมี 3 รูปแบบดังนี้ 1. ห้างหุ้นส่วนสามัญ (Ordinary Partnership) เป็นสัญญาที่บุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ตกลงเข้าหุ้นกันเพื่อประกอบกิจการร่วมกัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแบ่งปันกำไร สถานะทางกฎหมาย: ห้างหุ้นส่วนสามัญสามารถจดทะเบียนเป็น นิติบุคคล หรือ ไม่จดทะเบียน ก็ได้ ความรับผิดชอบ: หุ้นส่วนทุกคนต้องรับผิดร่วมกันในหนี้สินทั้งหมดของห้างหุ้นส่วนอย่างไม่จำกัดจำนวน หมายความว่า หากห้างหุ้นส่วนมีหนี้สินเกินกว่าทรัพย์สินของกิจการ หุ้นส่วนแต่ละคนจะต้องนำทรัพย์สินส่วนตัวมาใช้ชำระหนี้ด้วย ทุนจดทะเบียน: ไม่มีข้อกำหนดขั้นต่ำของทุนจดทะเบียน หุ้นส่วนสามารถนำเงิน ทรัพย์สิน หรือแรงงานมาลงหุ้นได้ การบริหารจัดการ: หุ้นส่วนทุกคนมีสิทธิ์ในการบริหารจัดการกิจการได้ เว้นแต่จะมีการตกลงกันเป็นอย่างอื่น ข้อดี: จัดตั้งง่าย มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่มีหุ้นส่วนไว้วางใจซึ่งกันและกันสูง ข้อเสีย: ความรับผิดชอบไม่จำกัด ทำให้ทรัพย์สินส่วนตัวมีความเสี่ยง 2. ห้างหุ้นส่วนจำกัด (Limited Partnership) นิยาม: เป็นนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นโดยมีผู้เป็นหุ้นส่วน 2 ประเภทขึ้นไป สถานะทางกฎหมาย: เป็นนิติบุคคล แยกจากตัวบุคคลผู้เป็นหุ้นส่วน ความรับผิดชอบ: มีหุ้นส่วน 2 ประเภท คือ ทุนจดทะเบียน: ไม่มีข้อกำหนดขั้นต่ำของทุนจดทะเบียน หุ้นส่วนสามารถนำเงิน หรือทรัพย์สินมาลงหุ้นได้ (ห้ามนำแรงงานมาลงหุ้นในส่วนของหุ้นส่วนจำกัดความรับผิด) การบริหารจัดการ: ผู้จัดการห้างหุ้นส่วนต้องเป็นหุ้นส่วนประเภทไม่จำกัดความรับผิดเท่านั้น ข้อดี: หุ้นส่วนบางคนสามารถจำกัดความรับผิดชอบได้ ทำให้ดึงดูดผู้ร่วมลงทุนได้ง่ายขึ้น มีความน่าเชื่อถือมากกว่าห้างหุ้นส่วนสามัญที่ไม่ได้จดทะเบียน ข้อเสีย: การบริหารจัดการถูกจำกัดโดยหุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิดเท่านั้น 3. บริษัทจำกัด (Limited Company) นิยาม: องค์การธุรกิจที่จัดตั้งขึ้นด้วยการแบ่งทุนเป็นหุ้น มีมูลค่าเท่า ๆ กัน โดยผู้ถือหุ้นต่างรับผิดชอบจำกัดเพียงไม่เกินจำนวนเงินค่าหุ้นที่ตนยังส่งใช้ไม่ครบ สถานะทางกฎหมาย: เป็นนิติบุคคลที่แยกต่างหากจากผู้ถือหุ้นอย่างสิ้นเชิง ความรับผิดชอบ: ผู้ถือหุ้นรับผิดจำกัดเพียงไม่เกินจำนวนเงินค่าหุ้นที่ตนยังชำระไม่ครบ (หากชำระเต็มจำนวนแล้ว ก็ไม่มีความรับผิดเพิ่มเติม) ทรัพย์สินส่วนตัวของผู้ถือหุ้นจะไม่ถูกนำมาใช้ชำระหนี้ของบริษัท ทุนจดทะเบียน: ปัจจุบันกฎหมายกำหนดทุนจดทะเบียนขั้นต่ำเพียง 10 บาท โดยหุ้นสามัญต้องมีมูลค่าไม่ต่ำกว่าหุ้นละ 5 บาท และต้องมีผู้ถือหุ้นตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป (ข้อมูลอัปเดต ณ ปัจจุบัน) แม้ไม่มีขั้นต่ำสูง แต่โดยทั่วไปนิยมจดทะเบียนทุนสูงขึ้นเพื่อความน่าเชื่อถือ การบริหารจัดการ: ดำเนินการโดยคณะกรรมการบริษัทที่ได้รับการแต่งตั้งจากผู้ถือหุ้น มีการประชุมผู้ถือหุ้นและปฏิบัติตามระเบียบที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด การระดมทุน: สามารถระดมทุนได้ง่ายกว่าผ่านการออกหุ้นเพิ่ม ข้อดี: ความรับผิดชอบจำกัด ทำให้ความเสี่ยงส่วนตัวของผู้ลงทุนต่ำ มีความน่าเชื่อถือสูง เหมาะสำหรับการขยายธุรกิจและระดมทุน มีโครงสร้างที่เป็นระบบ ข้อเสีย: มีขั้นตอนการจัดตั้งและบริหารจัดการที่ซับซ้อนกว่า มีค่าใช้จ่ายสูงกว่า และต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวดกว่า จดทะเบียนบริษัท ต่างจากแบบอื่นอย่างไร? การจดทะเบียนบริษัทแตกต่างจากการประกอบกิจการในนามบุคคลธรรมดาหรือห้างหุ้นส่วนตรงที่ บริษัทจำกัดมี สถานะเป็นนิติบุคคลแยกต่างหากจากผู้ก่อตั้งและผู้ถือหุ้น โดยสิ้นเชิง นี่คือหัวใจสำคัญที่ทำให้การจดทะเบียนบริษัทเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ จดทะเบียนบริษัท สามารถทำได้ที่ไหน? หลังจากที่ทำตามขั้นตอนการขอจดทะเบียนบริษัทเรียบร้อยแล้ว สามารถดำเนินการได้ที่: หลัง “จดทะเบียนบริษัท” ต้องทำอะไรต่อ? เมื่อบริษัทของคุณได้รับการจดทะเบียนอย่างสมบูรณ์แล้ว ยังมีขั้นตอนสำคัญอื่นๆ ที่ต้องดำเนินการต่อเพื่อการดำเนินธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย: การจดทะเบียนบริษัทเป็นก้าวแรกที่สำคัญสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน การศึกษาข้อมูลและเตรียมความพร้อมอย่างรอบคอบจะช่วยให้ธุรกิจของคุณดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จในระยะยาว ภาษีมูลค่าเพิ่ม (Value Added Tax : VAT) เมื่อธุรกิจของคุณเติบโตและถึงจุดที่ต้อง จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (Value Added Tax – VAT) การทำความเข้าใจเรื่องนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะ VAT ไม่ใช่แค่หน้าที่ แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารจัดการการเงินที่ส่งผลต่อต้นทุนและราคาขายสินค้าหรือบริการของคุณโดยตรง การทำความเข้าใจ VAT อย่างลึกซึ้งจะช่วยให้คุณปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง และใช้ประโยชน์จากระบบภาษีนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภาษีมูลค่าเพิ่มคืออะไร? ภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT คือภาษีทางอ้อมที่รัฐบาลเรียกเก็บจากการบริโภคสินค้าหรือบริการ โดยเก็บจากมูลค่าส่วนเพิ่มที่เกิดขึ้นในแต่ละขั้นตอนของห่วงโซ่การผลิตและจำหน่าย ตั้งแต่ผู้ผลิต ผู้นำเข้า ไปจนถึงผู้บริโภคคนสุดท้าย อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มในประเทศไทยปัจจุบันอยู่ที่ 7% สิ่งสำคัญที่ต้องเข้าใจคือ VAT ไม่ได้เป็นภาระของผู้ประกอบการโดยตรง แต่เป็นภาระของผู้บริโภคคนสุดท้าย ผู้ประกอบการมีหน้าที่เป็น “ตัวกลาง” ในการเรียกเก็บ VAT จากลูกค้า แล้วนำส่งให้กรมสรรพากร ใครมีหน้าที่ “จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม”? ผู้ประกอบการที่มีหน้าที่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ได้แก่: ข้อยกเว้น: กิจการบางประเภทได้รับการยกเว้น VAT เช่น กิจการขายพืชผลทางการเกษตร สัตว์ การให้บริการขนส่งในราชอาณาจักร การให้บริการทางการแพทย์ การประกอบโรคศิลปะ การสอบบัญชี การจัดส่งหนังสือพิมพ์ นิตยสาร หรือตำราเรียน รวมถึงกิจการขนาดเล็กที่มีรายรับไม่เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี (และไม่ได้เลือกจดทะเบียนโดยความสมัครใจ) ทำไมต้อง “จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม”? นอกเหนือจากเป็นข้อบังคับตามกฎหมายเมื่อรายได้ถึงเกณฑ์ การจดทะเบียน VAT ยังมีประโยชน์ในบางแง่มุม: สรุปท้ายบทความ การเริ่มต้นธุรกิจต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ตั้งแต่ การจดทะเบียนพาณิชย์บุคคลธรรมดา ที่ง่ายและเหมาะกับคนเดียว ไปจนถึง ห้างหุ้นส่วน ที่มีหุ้นส่วนหลายคนแต่ความรับผิดชอบต่างกัน และ บริษัทจำกัด ที่มีความน่าเชื่อถือสูงและจำกัดความรับผิดของผู้ถือหุ้น การเลือกรูปแบบที่ใช่ตั้งแต่แรกจะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างมั่นคง และอย่าลืมว่าเมื่อรายได้ถึงเกณฑ์ การ จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทำตามกฎหมาย เพื่อความสะดวกและแม่นยำในการจัดการบัญชี ภาษี และเตรียมพร้อมสำหรับ VAT โปรแกรมบัญชีออนไลน์ PEAK จะเป็นผู้ช่วยคนสำคัญที่ทำให้การทำบัญชีเป็นเรื่องง่ายขึ้น ไม่ว่าคุณจะเลือกรูปแบบธุรกิจใด PEAK ก็พร้อมสนับสนุนให้การเงินของคุณเป็นระบบ ตรวจสอบได้ ด้วยฟีเจอร์ที่ครบครัน เช่น การออกใบกำกับภาษี, และ การสร้างแบบยื่น ภ.พ.30 เพื่อให้คุณสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่นในยุคดิจิทัล  ทดลองใช้งานโปรแกรมบัญชี PEAK ฟรี! 30 วัน มูลค่า 1,200 บาท คลิก (ไม่มีค่าใช้จ่าย) PEAK Call Center : 1485 LINE : @peakaccountสอบถามเพิ่มเติม คลิก

ความรู้ธุรกิจ

สิทธิพิเศษลูกค้า PEAK เมื่อเปิดเว็ปไซต์ใหม่กับ

PEAK Account

5

min

สิทธิพิเศษลูกค้า PEAK เปิดเว็บกับ MakeWebEasy ลดสูงสุด 20%

สำหรับผู้ประกอบการและธุรกิจที่ใช้ PEAK อยู่แล้ว และกำลังมองหาช่องทางออนไลน์ในการเริ่มโปรโมทธุรกิจ หรือขยายธุรกิจบนออนไลน์ การสร้างเว็บไซต์ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ยังคงมีประสิทธิภาพและสร้างความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจได้เป็นอย่างดี วันนี้ PEAK ได้ร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับ MakeWebEasy แพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปของไทย ที่ทำให้ทุกธุรกิจเติบโตบนออนไลน์มามากกว่า 9,000 ธุรกิจ ขอมอบโปรโมชั่นสุดคุ้มที่ออกแบบมาให้ธุรกิจของคุณสามารถขยายตลาดบนออนไลน์ได้แบบครบครัน เลือกได้เลยตามความต้องการของคุณเอง 3 โปรโมชันเด็ด เฉพาะ สิทธิพิเศษลูกค้า PEAK เท่านั้น! สิทธิพิเศษแรก รับส่วนลด 10% เมื่อซื้อแพ็กเกจเว็บไซต์ของ MakeWebEasy เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการเริ่มต้นมีเว็บไซต์อย่างรวดเร็วด้วยเทมเพลตเว็บไซต์ที่เรามีให้ สร้างสรรค์เว็บไซต์ได้ด้วยตัวเอง พร้อมฟีเจอร์ที่ทุกธุรกิจต้องการ เช่น ระบบตะกร้าสินค้า ระบบบทความ รองรับโค้ดสำหรับการทำโฆษณาในทุกช่องทาง     อ่านรายละเอียดบริการ : www.makewebeasy.com/th/website-package  สิทธิพิเศษที่สอง รับส่วนลด 15% เมื่อซื้อแพ็กเกจเว็บไซต์ และบริการเสริมจาก MakeWebEasy เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการมากกว่าเว็บไซต์พื้นฐาน โดยคุณสามารถเลือกรับบริการเสริม 1 บริการ เพื่อเสริมประสิทธิภาพของเว็บไซต์ให้โดดเด่นมากยิ่งขึ้น สำหรับผู้ที่ต้องการเว็บไซต์ที่มีดีไซน์เฉพาะตัว สวยงาม และใช้งานง่าย ทีมออกแบบมืออาชีพของ MakeWebEasy จะช่วยสร้างสรรค์เว็บไซต์ที่สะท้อนเอกลักษณ์ของแบรนด์คุณได้อย่างโดดเด่น ทำให้เว็บไซต์ของคุณดูน่าเชื่อถือและดึงดูดลูกค้ามากขึ้น อ่านรายละเอียดบริการ : www.makewebeasy.com/th/website-design  สำหรับผู้ที่ต้องการให้เว็บไซต์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้นผ่านการทำการตลาด โดยโปรโมทเว็บไซต์ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น การทำ SEO (Search Engine Optimization) เพื่อให้เว็บไซต์ติดอันดับการค้นหาบน Google หรือการทำโฆษณาออนไลน์อย่าง Google Ads เพื่อเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์อย่างรวดเร็วและสร้างยอดขายได้ทันที อ่านรายละเอียดบริการ SEO : www.makewebeasy.com/th/seo-suggestion  อ่านรายละเอียดบริการ Google : www.makewebeasy.com/th/google-adwords  สิทธิพิเศษที่สาม รับส่วนลด 20% เมื่อซื้อแพ็กเกจเว็บไซต์ บริการออกแบบเว็บไซต์ + การตลาดออนไลน์ จาก MakeWebEasy แพ็กเกจที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับธุรกิจที่ต้องการโซลูชั่นทางธุรกิจออนไลน์แบบครบวงจร  เริ่มตั้งแต่การมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง การออกแบบเว็บไซต์ที่เป็นเอกลักษณ์จากทีมดีไซน์เนอร์ ไปจนถึงการทำการตลาดออนไลน์ผ่านการวางโครงสร้างที่ถูกหลัก SEO และยิงโฆษณาให้เว็บไซต์เป็นที่รู้จักและสร้างยอดขายด้วย Google Ads  ________________________________ สิทธิพิเศษลูกค้า PEAK จาก MakeWebEasy หากคุณกำลังจะสร้างเว็บไซต์ใหม่ เวลานี้คุ้มที่สุด เพราะเราพร้อมมอบสิทธิพิเศษในการใช้บริการเว็บไซต์ของ MakeWebEasy ในราคาที่พิเศษกว่าใคร วันนี้ – 31 สิงหาคม 2568 เท่านั้น สนใจลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ที่  ________________________________ สอบถามรายละเอียดบริการสร้างเว็บไซต์กับ MakeWebEasy Facebook Page : www.facebook.com/makewebeasy  Add Line : 40xsm5339b  Call : 022177999