ภาพรวมของโปรแกรมวิเคราะห์ธุรกิจ ช่วยวิเคราะห์ผลประกอบการณ์ รู้กำไรขาดทุน

ตัวช่วยวิเคราะห์ข้อมูลบัญชี เห็นผลกำไร ขาดทุน บริหารธุรกิจได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ระบบวิเคราะห์ธุรกิจอย่างมืออาชีพออนไลน์ PEAK Board เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการบริหารธุรกิจภายในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นโดยสามารถเก็บข้อมูลของรายการซื้อขายเสนอราคามาวิเคราะห์กำไรขาดทุนรายสาขา โครงการ หรือหน่วยธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีรายงานสำหรับผู้บริหารที่สามารถรายงานผลของกิจการตามอัตราส่วนทางการเงินเป็นรายเดือน ไตรมาส หรือรายปีเหมือนกับเรามีนักวิเคราะห์ด้านการเงินมืออาชีพอยู่ในกิจการ

24,000 บริษัท
วางใจใช้งาน PEAK

30,000

บริษัท

วางใจใช้งาน PEAK

1,400 พันธมิตรสำนักงานบัญชี

1,400

พันธมิตร

PEAK Family Partner

4  ล้านธุรกรรมต่อเดือน บน PEAK

4

ล้านธุรกรรม/เดือน

ธุรกรรมบน PEAK ต่อเดือน

40,000 ล้าน บาท/เดือน

40,000

ล้าน บาท/เดือน

มูลค่ารายการค้าต่อเดือน

จุดเด่นและฟังก์ชันของ PEAK Board โปรแกรมวิเคราะห์ธุรกิจอย่างมืออาชีพ

เปรียบเทียบกำไร - ขาดทุน

เปรียบเทียบกำไร – ขาดทุน

สามารถรู้กำไรเป็นราย โครงการ สาขา หน่วยธุรกิจ บริหารต้นทุน ค่าใช้จ่าย แต่ละโครงการได้

รายงานสำหรับผู้บริหาร

รายงานสำหรับผู้บริหาร

รายงานสรุปข้อมูลที่สำคัญในการทำธุรกิจ เหมือนมีนักวิเคราะห์ด้านการเงินมืออาชีพอยู่ในกิจการ

ปรับแต่งข้อมูลรายงานได้

ปรับแต่งข้อมูลรายงานได้

ปรับแต่งรายงานได้อยากอิสระตามความต้องการ เช่น รายงานยอดขายตามพนักงาน สินค้า ช่องทางการขาย

PEAK Board เหมาะกับใคร?
ระบบวิเคราะห์ธุรกิจอย่างมืออาชีพที่ตอบโจทย์ธุรกิจมากที่สุด

ผู้ประกอบการใช้ PEAK board วิเคราะห์ธุรกิจ SME

ผู้ประกอบการ SME ที่ต้องการเครื่องมือด้านการวิเคราะห์ธุรกิจ

รับรู้กำไรขาดทุนในแต่ละสาขา โครงการ หน่วยงาน รู้ยอดขายตามแผนก พนักงานขายรายบุคคล หรือภูมิภาค มีรายงานสรุปตัวเลขที่สำหรับสำหรับธรุกิจ

PEAK board ใช้สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลพนักงานโดยฝ่ายบุคคลและนักบัญชี

ตัวช่วยในการวิเคราะห์ธุรกิจ สำหรับผู้จัดการการเงินและนักบัญชี

สร้างรายงานได้ตรงตามความต้องการของผู้บริหารวิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงินให้อัตโนมัติปรับแต่งรายงานได้หลากหลายรูปแบบ

มารู้จัก PEAK Payroll โปรแกรมเงินเดือน
ออนไลน์ภายใน 3 นาที

มาเรียนรู้และเริ่มต้นใช้งานโปรแกรมคำนวณเงินเดือน
ออนไลน์ได้อย่างมืออาชีพด้วยวิดีโอสอนการใช้งาน
ครบทุกเมนู เพื่อให้คุณเริ่มต้นใช้งานโปรแกรมเงินเดือน
ออนไลน์ PEAK Payroll ได้อย่างมืออาชีพ

บริหารธุรกิจได้ดีกว่าเดิม วิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างตรงจุด เมื่อเชื่อมต่อระบบ PEAK Board กับ PEAK Account

วิเคราะห์ข้อมูลบัญชี รายงานการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ราคาเริ่มต้น 1,200 บาท/เดือน โปรแกรมวิเคราะห์ธุรกิจ PEAK Board

บริหารธุรกิจ บัญชี การเงิน
และจัดการเงินเดือนได้ครบวงจร

เริ่มต้นเพียง 1,200 บาท/เดือน

รู้จัก PEAK Board โปรแกรมวิเคราะห์ธุรกิจ ใน 3 นาที

วิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจด้วย Dashboard โปรแกรมวิเคราะห์ธุรกิจ - PEAK Board

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโปรแกรมวิเคราะห์ธุรกิจ PEAK Board

การสร้างกลุ่มจัดประเภทเพื่อให้เหมาะกับกิจการบนโปรแกรมวิเคราะห์ธุรกิจอย่างมืออาชีพนั้น (PEAK Board) ไม่ใช่เรื่องสำหรับมือใหม่ เพียงแค่คุณมีกลุ่มที่ต้องต้องการแยกรายได้ ค่าใช้จ่ายของกิจการในใจแล้วเช่น ต้องการแยกรายได้ ค่าใช้จ่าย ตามแผนก คุณสามารถ List รายชื่อแผนกต่างๆของบริษัทออกมาก่อนจากนั้นนำรายชื่อแผนกไปสร้างกลุ่มจัดประเภทตามคู่มือนี้ได้เลย 

เมื่อสร้างเรียบร้อยแล้ว ก็จะสามารถแยกเอกสารรายรับ รายจ่ายตามแผนกที่ต้องการได้เลยค่ะ นอกจากแผนกแล้วคุณยังสามารถแยกกลุ่มได้หลากหลายตามมุมมองที่กิจการต้องการมองเห็นผ่าน โปรแกรมวิเคราะห์ธุรกิจอย่างมืออาชีพนั้น (PEAK Board) เช่น โครงการ , ยอดขายรายสาขา หรืออื่นๆ 

PEAK Board คืออะไรและช่วยธุรกิจคุณได้อย่างอย่างไรคลิกอ่านที่นี่

เมื่อคุณได้มีการสร้างกลุ่มจัดประเภทตามมุมมองที่กิจการต้องการแล้ว สามารถนำกลุ่มจัดประเภทมาระบุบนเอกสารตามคู่มือนี้ได้เลย  เมื่อติดกลุ่มจัดประเภทบนเอกสารเรียบร้อยแล้วท่านจะสามารถเข้าไปดูตัวเลขของแต่ละกลุ่มผ่านโปรแกรมวิเคราะห์ธุรกิจอย่างมืออาชีพนั้น (PEAK Board) เพื่อให้ประกอบการตัดสินใจด้านธุรกิจได้อย่างเร็วรวด

วิธีการดูรายงานผ่านโปรแกรมวิเคราะห์ธุรกิจอย่างมืออาชีพนั้น (PEAK Board)จะแบ่งเป็น 2 รายการคือ

  1. รายงานที่ดึงข้อมูลจากการหน้าเอกสารรายรับ-รายจ่าย ที่มีการระบุกลุ่มจัดประเภทเอาไว้ วิธีการพิมพ์รายงานคลิกอ่านที่นี่  (รายงานนี้จะดึงข้อมูลมาแสดงเฉพาะเอกสารที่มีการบันทึกบัญชีรายได้หมวด4 และค่าใช้จ่ายหมวด5)
  2. รายงานวิเคราะห์ธุรกิจสำหรับผู้บริหาร / Executive Summary วิธีการพิมพ์รายงานคลิกอ่านที่นี่

สำหรับการระบุกลุ่มจัดประเภทบนเอกสาร จะไม่มีผลต่อบัญชีแยกประเภท (GL) ของกิจการ จะเป็นการแสดงผลเพียงบนโปรแกรมวิเคราะห์ธุรกิจอย่างมืออาชีพนั้น (PEAK Board) เพียงเท่านั้น 

ผลิตภัณฑ์ของ PEAK

PEAK Account
โปรแกรมบัญชีออนไลน์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

PEAK Payroll
โปรแกรมเงินเดือนออนไลน์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

PEAK Board
โปรแกรมวิเคราะห์ธุรกิจ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

PEAK Asset
โปรแกรมบริหารจัดการสินทรัพย์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

PEAK Tax
โปรแกรมการจัดการภาษีออนไลน์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

Line @PEAKConnect
ใช้งานโปรแกรมผ่านไลน์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

บทความน่ารู้

PEAK Account

10

min

อัปเดตฟังก์ชัน PEAK 23/04/2025

เอาใจผู้ใช้งานโปรแกรม PEAK ด้วยการ ‘อัปเดตฟังก์ชัน PEAK’ ใหม่ที่ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ✨ 1. PEAK อัปเดตฟังก์ชัน ให้จัดการภาษีหัก ณ ที่จ่ายแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Withholding Tax: e-WHT) ในเอกสารได้สะดวกขึ้น 📢ระบบเพิ่มการจัดการภาษีหัก ณ ที่จ่ายแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Withholding Tax: e-WHT) ให้รองรับการทำงานแบบครบวงจรมากขึ้น โดยระบบปรับการแสดงข้อมูลและผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าข้อมูลได้ ดังนี้ โดยภาษีหัก ณ ที่จ่ายแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-WHT) นี้ระบบจะไม่ดึงข้อมูลไปที่ฟีเจอร์ PEAK Tax ช่วยให้จัดการเอกสารหัก ณ ที่จ่ายได้สะดวกและแม่นยำยิ่งขึ้น ตัวอย่างตัวเลือกการนำส่งภาษี e-WHT ตัวอย่างสถานะ e-WHT ตัวอย่างรายงานภาษีหัก ณ ที่ จ่าย ✨ 2. ส่งข้อมูลหัก ณ ที่จ่ายอิเล็กทรอนิกส์ (e-WHT) ง่ายขึ้น ด้วย Text File อัปโหลดธนาคาร 📢สำหรับกิจการแพ็กเกจ Premium ที่สร้าง Text File โอนเงินหลายรายการผ่านระบบธนาคาร ระบบเพิ่มการรองรับการส่งข้อมูล e-WHT ผ่าน Payment File แล้ว ผู้ใช้งานสามารถเลือกประเภทการนำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่ายได้เองในระบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบปกติหรือแบบ e-WHT โดยระบบจะบันทึกบัญชีให้อัตโนมัติตามรูปแบบที่เลือก และสามารถ export ข้อมูลในรูปแบบที่รองรับกับระบบของธนาคารได้ทันที ลดความผิดพลาดจากการกรอกข้อมูลเอง และช่วยให้จัดการการจ่ายเงินจำนวนมากได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น ✨ 3. นำเข้าเอกสารใบเสร็จรับเงินจากแพลตฟอร์มได้ยืดหยุ่นยิ่งขึ้น โดยเลือกวิธีบันทึกส่วนลดได้ตามนโยบายกิจการ 📢ระบบเพิ่มตัวเลือกการบันทึกส่วนลดในหน้านำเข้าเอกสารใบเสร็จรับเงินจากแพลตฟอร์ม โดยมี 2 ตัวเลือก ดังนี้ เพื่อช่วยให้การจัดทำบัญชีเป็นไปตามนโยบายกิจการ และตรวจสอบรายการได้ง่ายยิ่งขึ้น ✨ 4. สร้างใบวางบิล/ใบรวมจ่ายได้ทันทีจากหน้าเอกสาร ช่วยให้สะดวกและประหยัดเวลามากยิ่งขึ้น 📢ระบบเพิ่มปุ่ม “สร้างใบวางบิล” และ “สร้างใบรวมจ่าย” ให้ใช้งานได้โดยตรงจากเอกสารรับและจ่าย โดยระบบจะดึงข้อมูลผู้ติดต่อ ประเภทเอกสาร และวันที่ออกมาให้อัตโนมัติจากเอกสารต้นทาง พร้อมเลือกเอกสารตั้งต้นไว้ให้ทันที ช่วยให้ผู้ใช้งานสร้างเอกสารต่อเนื่องได้ง่ายขึ้น ✨ 5. ปรับปรุงการคำนวณเงินได้สะสมในสลิปเงินเดือน ด้วยการอ้างอิงวันครบกำหนดชำระ พร้อมอัปเดตหลายสลิปพร้อมกันในครั้งเดียว 📢สำหรับกิจการที่ใช้ PEAK Payroll ผู้ใช้งานสามารถควบคุมการแสดงยอดเงินได้สะสมบนสลิปเงินเดือนได้แม่นยำยิ่งขึ้น โดยอัปเดตฟังก์ชัน PEAK ให้ระบบจะอ้างอิงการคำนวณจาก “วันที่ครบกำหนดชำระ” แทนการอ้างอิงจากวันที่ของเอกสาร ช่วยให้ผู้ใช้งานกำหนดช่วงเวลาการรวมยอดได้ตามจริงมากขึ้น นอกจากนี้ผู้ใช้งานสามารถอัปเดตข้อมูลเงินได้สะสมในหลายสลิปได้พร้อมกันในคลิกเดียว ไม่ต้องกดทีละใบอีกต่อไป ✨ 6. อัปเดตฟังก์ชัน PEAK ให้แก้ไขรายการสินค้าและกลุ่มจัดประเภทได้ แม้เอกสารจะกระทบยอดธนาคารไปแล้ว 📢ระบบเปิดให้สามารถแก้ไขรายการสินค้าและกลุ่มจัดประเภทได้แล้ว แม้ว่าเอกสารจะทำการกระทบยอดไปแล้วก็ตาม เพื่อลดการทำงานซ้ำและจัดการเอกสารได้ง่ายกว่าเดิม หมดปัญหากดกระทบยอดธนาคารไปก่อนแล้วเพิ่งเห็นว่ารายการสินค้าหรือกลุ่มจัดประเภทกรอกผิด ✨ 7. อัปเดตฟังก์ชัน PEAK ให้เลือกรายการจากหน้ากระทบยอดธนาคารมาสร้างเอกสาร ชำระเงิน หรือโอนเงินหลายๆรายการพร้อมกันได้ภายในคลิกเดียว 📢สำหรับนักบัญชีที่ใช้งานฟังก์ชันกระทบยอดธนาคาร ระบบเพิ่มปุ่ม “ทำรายการ” ที่หน้ากระทบยอดเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถนำหลายรายการจาก Statement มาทำรายการได้ ดังนี้ นอกจากนี้ยังสามารถคลิกขวาในแต่ละรายการ เพื่อทำรายการได้ เมื่อทำรายการเสร็จ ระบบจะทำการกระทบยอดธนาคารให้อัตโนมัติ ช่วยลดเวลาการทำงานและเพิ่มความแม่นยำในการจัดการธุรกรรมทางการเงินได้แบบมือโปร ✨ 8. อัปเดตฟังก์ชัน PEAK โดยตั้งวันที่ย้อนหลังในการสร้างเอกสารอัตโนมัติ (Recurring) ได้แล้ว ดูข้อมูลสะท้อนความเป็นจริงได้มากขึ้น 📢สำหรับกิจการที่มีการสร้างเอกสารอัตโนมัติ (Recurring) ระบบเปิดให้ผู้ใช้งานสามารถระบุวันที่เริ่มต้นเป็นอดีตได้แล้ว โดยวันที่ที่เลือกในอดีตนั้น ระบบจะไม่สร้างเอกสารย้อนหลังให้ เพื่อให้สอดคล้องกับข้อมูลในสัญญาที่ตกลงกับคู่ค้าและช่วยให้ข้อมูลในระบบสะท้อนความเป็นจริงมากขึ้น ✨ 9. ใช้เอกสารรับแจ้งหนี้ (IR) สร้างใบรวมจ่ายได้ พร้อมทั้งรองรับการกระทบยอด IR/GR ได้หลายครั้ง 📢สำหรับแพ็กเกจ Premium ที่ใช้เอกสารรับแจ้งหนี้ (IR) และเอกสารรับสินค้า/บริการ (GR) ระบบเพิ่มความยืดหยุ่นให้มากขึ้นในการใช้เอกสาร ดังนี้ เพื่อช่วยให้การจัดการเอกสารและยอดสินค้าเป็นระบบ สะดวกและมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างหน้าเอกสารใบรวมจ่าย (Online View) 👉 ลองใช้ฟังก์ชันใหม่ของ PEAK วันนี้! แล้วสัมผัสประสบการณ์การทำงานที่สะดวกและรวดเร็วกว่าเดิม ทดลองใช้งานโปรแกรมบัญชี PEAK ฟรี! 30 วัน มูลค่า 1,200 บาทคลิก (ไม่มีค่าใช้จ่าย)PEAK Call Center : 1485LINE : @peakaccountสอบถามเพิ่มเติม คลิก

ฟังก์ชันใหม่แนะนำการใช้งาน

PEAK Account

4

min

Update Function 23/04/2025

PEAK with the new function designed to enhance efficiency. ✨ 1. Manage electronic withholding tax (e-Withholding Tax: e-WHT) in documents more conveniently. 📢The system now enhances e-Withholding Tax (e-WHT) management to support a more comprehensive workflow by adjusting the display of data and allowing users to configure information as follows: The e-WHT data will not be pulled to the PEAK Tax feature. This improvement helps manage withholding documents more conveniently and accurately. Example of e-WHT submission options Example of e-WHT status Example of Withholding Tax Report ✨ 2. Send e-Withholding Tax (e-WHT) data more easily with a text file uploaded to the bank. 📢 For businesses on the Premium package who generate text files for bank transfers with multiple payments, the system now supports sending e-WHT data via the Payment File. Users can choose the type of withholding tax submission—normal or e-WHT. The system will record journal entries automatically according to the selected format and allow exporting in formats compatible with the bank system. This reduces data entry errors and allows for faster, more accurate bulk payment management. ✨ 3. Import receipt documents from platforms with greater flexibility by choosing how to record discounts according to business policy. 📢 The system adds options for recording discounts on the receipt import page from platforms. with the following two options: This supports accounting that aligns with the company’s policies and makes it easier to verify transactions. ✨ 4. Instantly create billing/payment summary documents from the document page, making it more convenient and time-saving. 📢 The system adds “Create Billing Document” and “Create Payment Summary” buttons for direct use from receipt and payment documents. The system automatically pulls contact information, document type, and issue date from the original document and allows selection of base documents instantly, helping users create follow-up documents more easily. ✨5. Improve the calculation of accumulated income in payslips by referencing the due date, with the ability to update multiple payslips at once. 📢 For businesses using PEAK Payroll, users can now control how accumulated income is shown on payslips more accurately. The system now calculates based on the “due date” instead of the document date, helping users define periods more accurately. Additionally, users can update accumulated income across multiple payslips in a single click-no need to do it one by one anymore. ✨ 6. Edit product items and category groups even if the document has already been reconciled with the bank. 📢 The system now allows editing of product items and category groups even after reconciliation, reducing redundant work and making document handling easier. No more issues where the bank reconciliation was completed but an error in product or category data was later discovered. ✨ 7. Select items from the bank reconciliation page to create payment or transfer documents for multiple items with a single click. 📢 For accountants using the bank reconciliation feature, the system adds a “Make Transaction” button on the reconciliation page. Users can now select multiple statement items to: Users can also right-click individual items to process them. Once completed, the system will reconcile them automatically-saving time and increasing accuracy in financial transactions like a pro. ✨ 8. Set past dates when creating automatic (Recurring) documents – now more reflective of real data. 📢 For businesses using recurring document creation, the system now allows users to specify a start date in the past. The system will not generate past documents, but the selected start date will align with the actual agreement with partners-making the data in the system more reflective of reality. ✨ 9. Use Invoice Receipt (IR) documents to create payment summaries, with support for multiple IR/GR reconciliations. 📢 For Premium package users using Invoice Receipt (IR) and Goods Receipt (GR) documents, the system now offers more flexibility: This helps document and product balance management become more systematic, convenient, and accurate. Example of Consolidated Payment Document Page (Online View)

ฟังก์ชันใหม่แนะนำการใช้งาน

โปรแกรม Payroll

PEAK Account

16

min

โปรแกรม Payroll คืออะไร? ทำอะไรได้บ้าง? ทำไมทุกองค์กรควรมี!

การจ่ายเงินเดือนอาจดูเหมือนงานประจำที่ไม่มีอะไรซับซ้อน แต่จริง ๆ แล้วมีรายละเอียดที่ต้องใส่ใจเยอะมาก ตั้งแต่การคำนวณค่าล่วงเวลา ค่าคอม ประกันสังคม ภาษี ไปจนถึงการบันทึกบัญชี ถ้าทำด้วยมือหรือ Excel อาจทำให้เสียเวลา หรือผิดพลาดได้ง่าย ดังนั้นโปรแกรมสำหรับทำ Payroll ที่ดีจึงไม่ใช่แค่เรื่องของความสะดวก แต่เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณบริหารงานเงินเดือนอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นมืออาชีพมากขึ้น มาดูกันว่า โปรแกรม Payroll ที่ตอบโจทย์ SME ควรมีอะไรบ้าง โปรแกรม Payroll คืออะไร? โปรแกรม Payroll หรือ โปรแกรมเงินเดือน คือโปรแกรมที่ช่วยจัดการเรื่องการจ่ายเงินเดือน จัดการบริหารเกี่ยวกับเงินเดือน การจ่ายค่าจ้าง ค่านอกเวลา เบี้ยเลี้ยง ค่าคอมมิชชันของพนักงานทุกคนภายในองค์กร ซึ่งโปรแกรม Payroll จะช่วยดูแลทุกขั้นตอนตั้งแต่การช่วยคำนวณด้านภาษี ไปจนถึงการออกเอกสารที่ต้องมอบให้พนักงานหลังจากจ่ายเงินเรียบร้อยแล้วอีกด้วย ทำให้โปรแกรมประเภทนี้เข้ามาเป็นส่วนช่วยให้การทำงานของผู้ที่รับหน้าที่ตรงนี้ได้ง่ายดายขึ้น ช่วยลดปัญหาข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น สามารถใช้งานได้ทั้งองค์กรขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ การนำเครื่องมือนี้เข้ามา จะสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้แก่พนักงานในองค์กรได้  ทำไมผู้ประกอบการทุกคนควรมี โปรแกรม Payroll  ผู้ประกอบการหลายท่านอาจคิดว่า รอพนักงานเยอะ ๆ ก่อนค่อยหาโปรแกรม Payroll มาใช้ แต่ตามจริงแล้วไม่จำเป็นต้องรอพนักงานหลักร้อยคนก็สามารถเริ่มใช้ได้เลย เพราะจะช่วยอำนวยความสะดวก ลดงานของผู้ที่เกี่ยวข้อง และเป็นการวางระบบแผนงานการจ่ายเงินอย่างเป็นระเบียบ ไม่ต้องกังวลเรื่องเอกสารที่วุ่นวาย ทำให้การจัดการเรื่องเงินเป็นเรื่องง่ายมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้จึงแนะนำให้ผู้ประกอบการเริ่มใช้ตั้งแต่เนิ่น ๆ  โปรแกรม Payroll ที่ดีเป็นอย่างไร? โปรแกรม Payroll หรือโปรแกรมเงินเดือน คือเครื่องมือสำคัญในการบริหารจัดการด้านการจ่ายค่าตอบแทนให้กับพนักงาน ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือน ค่าล่วงเวลา ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าคอมมิชชัน หรือสวัสดิการอื่น ๆ ซึ่งล้วนเป็นต้นทุนที่ทุกกิจการต้องบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ โปรแกรม Payroll ที่ดีจะช่วยให้งานด้านนี้เป็นเรื่องง่ายและแม่นยำมากยิ่งขึ้น ลดข้อผิดพลาดจากการทำงานแบบแมนนวล ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการด้านการเงินขององค์กรอย่างมีระบบและเป็นมืออาชีพ แล้วโปรแกรม Payroll ที่ดีเป็นอย่างไร? มาดูกันเลย 1. ออกสลิปเงินเดือนได้ทันทีได้ง่าย รวดเร็ว และแม่นยำ เจ้าของกิจการหลายคนต้องเสียเวลากับการจัดทำสลิปเงินเดือนให้พนักงานทีละคน ซึ่งยิ่งมีพนักงานหลายคนก็ยิ่งใช้เวลานาน โปรแกรมที่ดีควรช่วยให้คุณสร้างสลิปเงินเดือนได้ในไม่กี่ขั้นตอน โดยดึงข้อมูลจากการคำนวณที่ระบบทำไว้แล้วมาใส่ในฟอร์มสลิปให้อัตโนมัติ พร้อมระบุรายการต่าง ๆ อย่างชัดเจน เช่น ฐานเงินเดือน โบนัส หรือรายการหักต่าง ๆ จากนั้นก็สามารถดาวน์โหลดหรือส่งให้พนักงานได้เลยทันที ไม่ต้องทำซ้ำหลายรอบ โปรแกรมเงินเดือนที่ดีควรมีระบบสร้างสลิปจากข้อมูลที่มีในระบบ และคำนวณเงินเดือนให้อัตโนมัติ สามารถปรับรูปแบบ สีหรือใส่โลโก้บริษัทได้ สามารถ export เป็นไฟล์ PDF หรือส่งให้พนักงานผ่าน E-mail ได้ทันที โปรแกรมสลิปเงินเดือนที่ดีระบุรายการหัก-จ่ายอย่างชัดเจน เช่น ฐานเงินเดือน โบนัส หักประกันสังคม ภาษี เป็นต้น สมมุติว่าคุณมีพนักงาน 15 คน แต่ละคนมีค่าล่วงเวลาและโบนัสต่างกัน หากไม่มีระบบช่วย คงต้องนั่งกรอก Excel ทีละคน แล้วพิมพ์สลิปด้วยมือ แต่ถ้าใช้โปรแกรม Payroll คุณกรอกข้อมูลหรืออัปโหลด Excel แล้วกด “สร้างสลิป” ได้เลยภายในไม่กี่วินาที 2. เชื่อมต่อกับระบบประกันสังคมออนไลน์ พร้อมยื่นในระบบ SSO e-service ได้เลย การยื่นประกันสังคมผ่านระบบ SSO e-service ทุกเดือนถือเป็นภาระที่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ และถ้าทำแบบแมนนวลอาจใช้เวลามาก โปรแกรมที่ดีควรมีระบบเตรียมไฟล์สำหรับยื่นแบบอัตโนมัติ โดยดึงข้อมูลจากเงินเดือนของพนักงานมาแปลงเป็นรูปแบบที่ประกันสังคมกำหนดไว้ ช่วยลดเวลาการกรอกข้อมูลและมั่นใจได้ว่าส่งครบ ถูกต้อง และทันเวลา ดังนั้นควรเลือกโปรแกรมที่สามารถดึงข้อมูลค่าจ้างจากเงินเดือนที่คำนวณไว้แล้ว มาสร้างไฟล์นำส่งที่ตรงตามรูปแบบของประกันสังคม พร้อมมีลิงก์หรือปุ่มเชื่อมตรงเข้าสู่ระบบ SSO ได้เลย เพื่อให้คุณสามารถยื่นข้อมูลเข้าสู่ระบบ SSO e-service ได้ทันทีจากในระบบ ไม่ต้องเสียเวลาสลับไปกรอกข้อมูลใหม่ทีละช่อง ช่วยลดโอกาสผิดพลาดจากการคีย์ข้อมูลซ้ำ และยังทำให้การยื่นงานในแต่ละเดือนกลายเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็วขึ้นมาก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเจ้าของธุรกิจหรือฝ่ายบุคคลที่ต้องดูแลพนักงานจำนวนมาก หรือมีหลายสาขา เพราะระบบจะช่วยรวมข้อมูลทุกอย่างไว้ให้ในที่เดียว พร้อมใช้งานทันที และมั่นใจได้ว่าทำตามรูปแบบที่ประกันสังคมกำหนดอย่างถูกต้องครบถ้วนทุกครั้ง 3. คำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่ายอัตโนมัติ การคำนวณภาษีเงินเดือนเป็นงานที่ต้องเป๊ะ เพราะถ้าคำนวณผิด ไม่ว่าจะน้อยหรือมาก ก็อาจกระทบกับพนักงานหรือทำให้คุณต้องเสียเวลายื่นแก้ไขย้อนหลัง โปรแกรมทำเงินเดือนที่ดีควรคำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่ายให้อัตโนมัติ โดยอิงตามฐานเงินเดือนและสิทธิลดหย่อนที่กฎหมายกำหนด พร้อมสร้างรายงานหรือเอกสารประกอบการยื่นแบบภาษีให้ครบถ้วน ลดงานซ้ำซ้อนและลดความเสี่ยงจากความผิดพลาดในการคำนวณ โปรแกรมเงินเดือนที่ดีควรรองรับการคำนวณภาษีแบบขั้นบันไดตามอัตรากฎหมาย เช่น ลดหย่อนต่าง ๆ เช่น ค่าลดหย่อนส่วนตัว เบี้ยประกันชีวิต ฯลฯ สามารถสรุปยอดนำส่งภาษีและสร้างไฟล์นำส่งแบบ ภ.ง.ด.1 และสร้างใบแนบภาษีและรายงานภาษีประจำเดือนได้ ยกตัวอย่างเช่น หากพนักงานมีเบี้ยเลี้ยงพิเศษ โบนัส หรือค่าคอมมิชชันเพิ่มขึ้นในเดือนใด ระบบต้องสามารถคำนวณภาษีได้ถูกต้องแบบ real-time โดยที่คุณไม่ต้องใช้เครื่องคิดเลขหรือเปิดตารางภาษีดูเอง 4. เชื่อมต่อกับโปรแกรมบัญชี เพื่อบันทึกบัญชีอัตโนมัติ เมื่อจ่ายเงินเดือนแล้ว ก็ต้องมีการบันทึกบัญชีตามมา เช่น บันทึกค่าใช้จ่าย เงินหักภาษี หรือประกันสังคม ถ้าต้องทำแยกกันจะเสียเวลามาก โปรแกรมที่ดีควรเชื่อมต่อกับระบบบัญชีโดยตรง เมื่อคำนวณ Payroll เสร็จ สามารถสั่งบันทึกรายการบัญชีได้เลยทันที ข้อมูลจะถูกลงบัญชีแยกประเภทอย่างถูกต้องตามมาตรฐาน ทำให้งานบัญชีและงานเงินเดือนไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ต้องทำซ้ำสองรอบ ลดโอกาสผิดพลาด ทำงบการเงินประจำเดือนเร็วขึ้น และทำให้ระบบบัญชี-เงินเดือน “คุยกันรู้เรื่อง” ซึ่งสำคัญมากสำหรับ SME ที่มีทีมงานเล็กและเวลาจำกัด กิจการไหนที่ควรใช้โปรแกรม Payroll สำหรับผู้ประกอบการท่านไหนที่ยังตัดสินใจว่าจะใช้โปรแกรม Payroll ดีหรือไม่ ในส่วนนี้เรามาดูกันว่าองค์กร กิจการไหนบ้างที่ควรเริ่มต้นนำโปรแกรมเหล่านี้มาปรับใช้โดยทันที กิจการที่มีพนักงานจำนวนมาก แน่นอนว่าเมื่อจำนวนพนักงานที่เยอะ ทำให้การจัดการเรื่องเงินเดือนกลายเป็นเรื่องยาก วุ่นวาย เพราะนอกจากต้องมาคอยนั่งคำนวณเงินให้ทีละคนแล้ว พนักงานแต่ละคนอาจยังมีค่าล่วงเวลา เบี้ยเลี้ยงอื่น ๆ เพิ่มเติมเข้ามาอีกด้วย นอกจากนี้หลังจากที่คำนวณเสร็จต้องออกสลิปเงินเดือนให้พนักงานส่งให้แต่ละคนอีกต่างหาก ด้วยเหตุนี้เราจึงขอแนะนำให้ผู้ประกอบการที่มีจำนวนพนักงานเยอะ ต้องเริ่มต้นใช้โปรแกรม Payroll โดยทันที กิจการที่ต้องการทำระบบบัญชีให้เรียบร้อย การจัดการเรื่องบัญชีในองค์กรให้เป็นระบบกลายเป็นเรื่องสำคัญที่บางครั้งอาจเป็นจุดพาไปสู่ความสำเร็จขององค์กรเลยก็ได้ เพราะองค์กรที่มีระบบบัญชีดี ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถตัดสินใจได้ดีขึ้น ซึ่งการจ่ายเงินเดือนพนักงานก็เป็นอีกหนึ่งส่วนที่เกี่ยวข้องกับระบบบัญชี ซึ่งโปรแกรม Payroll ก็เข้ามาช่วยในการจัดเก็บข้อมูลการจ่ายเงินให้เป็นระเบียบมากขึ้น เรียกดูข้อมูลได้ง่าย อีกทั้งยังสามารถเรียกดูตามแผนก เพื่อให้เห็นภาพรวมการจ่ายเงินเดือนขององค์กร ให้ผู้ประกอบการนำไปใช้ในการตัดสินใจได้ ที่สำคัญคือข้อมูลจะไม่หายไปไหนเพราะอยู่ในโปรแกรม และที่สำคัญคือมีความปลอดภัยสูง ไม่ต้องกลัวข้อมูลรั่วไหล เพราะหลาย ๆ โปรแกรมสามารถเลือกผู้ที่มีสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลได้ กิจการที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน ก่อนที่ AI จะเป็นกระแสทุกวันนี้ โปรแกรมช่วยทำงานอย่าง โปรแกรมจัดการเงินเดือน ก็ขึ้นชื่อเรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน เพราะเข้ามาช่วยจัดการลดขั้นตอนการทำงานที่กินเวลา แต่ไม่จำเป็นมาก ช่วยให้การทำงานหลายอย่างในองค์กรง่ายมากยิ่งขึ้น อันเป็นส่วนช่วยให้พนักงานสามารถใช้เวลากับงานที่จำเป็นมากกว่าได้ แนะนำ PEAK Payroll สำหรับคำนวณค่าจ้างเพื่อผู้ประกอบการ โปรแกรมบัญชี PEAK ไม่ได้ดูแลเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับบัญชีอย่างเดียว แต่ยังมี PEAK Payroll เป็นโปรแกรม Payroll ที่ช่วยให้เจ้าหน้าที่บัญชี หรือ HR จัดการกับระบบ Payroll ได้อย่างง่ายดาย ลดขั้นตอนการทำงาน และด้วยการออกแบบโปรแกรมที่เข้าใจผู้ใช้งานจริง ๆ จึงใช้งานง่าย ไม่ว่ากิจการของคุณจะให้พนักงานบัญชีดูแลเรื่องเงินเดือน หรือเจ้าหน้าที่บุคคลก็รับรองว่าเข้าใจการใช้งานได้ไม่ยากแน่นอน  ซึ่งตัวโปรแกรม Payroll ของ PEAK สามารถดูแลเรื่องระบบการจ่ายเงินเดือนได้ครบวงจรตั้งแต่การคำนวณเงินเดือน เก็บข้อมูล ออกสลิปเงินเดือน ไปจนถึงการทำรายงานต่าง ๆ เรียกได้ว่าโปรแกรมเดียวจบ ยิ่งองค์กรไหนอย่างจัดการระบบบัญชี PEAK คือคำตอบแน่นอน สำหรับผู้ประกอบการที่กำลังตัดสินใจ มองหาโปรแกรมดูแลเรื่องการจ่ายเงินเดือนพนักงานอยู่ บอกเลยว่าห้ามพลาดโปรแกรมบัญชี PEAK เริ่มต้นใช้งาน PEAK Payroll วันนี้ เพื่อการจัดการบัญชีอย่างเป็นระบบ ไม่ว่ากิจการของคุณจะมีพนักงานหลัก 10 หรือหลัก 100 การเริ่มต้นใช้โปรแกรม Payroll ในการจ่ายเงินเดือนให้พนักงานตั้งแต่ตอนนี้ก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะจะเป็นการช่วยลดขั้นตอนการทำงาน แถมยังเป็นการวางรากฐานด้านระบบบัญชีให้ดีตั้งแต่เริ่มต้น ดังนั้นอย่ามัวลังเลแล้วมาเริ่มต้นใช้กันได้เลย! ทดลองใช้งานโปรแกรมบัญชี PEAK ฟรี! 30 วัน มูลค่า 1,200 บาทคลิก (ไม่มีค่าใช้จ่าย)PEAK Call Center : 1485LINE : @peakaccountสอบถามเพิ่มเติม คลิก

ความรู้ธุรกิจความรู้บัญชี

PEAK Account

10

min

อัปเดตฟังก์ชัน PEAK 23/04/2025

เอาใจผู้ใช้งานโปรแกรม PEAK ด้วยการ ‘อัปเดตฟังก์ชัน PEAK’ ใหม่ที่ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ✨ 1. PEAK อัปเดตฟังก์ชัน ให้จัดการภาษีหัก ณ ที่จ่ายแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Withholding Tax: e-WHT) ในเอกสารได้สะดวกขึ้น 📢ระบบเพิ่มการจัดการภาษีหัก ณ ที่จ่ายแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Withholding Tax: e-WHT) ให้รองรับการทำงานแบบครบวงจรมากขึ้น โดยระบบปรับการแสดงข้อมูลและผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าข้อมูลได้ ดังนี้ โดยภาษีหัก ณ ที่จ่ายแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-WHT) นี้ระบบจะไม่ดึงข้อมูลไปที่ฟีเจอร์ PEAK Tax ช่วยให้จัดการเอกสารหัก ณ ที่จ่ายได้สะดวกและแม่นยำยิ่งขึ้น ตัวอย่างตัวเลือกการนำส่งภาษี e-WHT ตัวอย่างสถานะ e-WHT ตัวอย่างรายงานภาษีหัก ณ ที่ จ่าย ✨ 2. ส่งข้อมูลหัก ณ ที่จ่ายอิเล็กทรอนิกส์ (e-WHT) ง่ายขึ้น ด้วย Text File อัปโหลดธนาคาร 📢สำหรับกิจการแพ็กเกจ Premium ที่สร้าง Text File โอนเงินหลายรายการผ่านระบบธนาคาร ระบบเพิ่มการรองรับการส่งข้อมูล e-WHT ผ่าน Payment File แล้ว ผู้ใช้งานสามารถเลือกประเภทการนำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่ายได้เองในระบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบปกติหรือแบบ e-WHT โดยระบบจะบันทึกบัญชีให้อัตโนมัติตามรูปแบบที่เลือก และสามารถ export ข้อมูลในรูปแบบที่รองรับกับระบบของธนาคารได้ทันที ลดความผิดพลาดจากการกรอกข้อมูลเอง และช่วยให้จัดการการจ่ายเงินจำนวนมากได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น ✨ 3. นำเข้าเอกสารใบเสร็จรับเงินจากแพลตฟอร์มได้ยืดหยุ่นยิ่งขึ้น โดยเลือกวิธีบันทึกส่วนลดได้ตามนโยบายกิจการ 📢ระบบเพิ่มตัวเลือกการบันทึกส่วนลดในหน้านำเข้าเอกสารใบเสร็จรับเงินจากแพลตฟอร์ม โดยมี 2 ตัวเลือก ดังนี้ เพื่อช่วยให้การจัดทำบัญชีเป็นไปตามนโยบายกิจการ และตรวจสอบรายการได้ง่ายยิ่งขึ้น ✨ 4. สร้างใบวางบิล/ใบรวมจ่ายได้ทันทีจากหน้าเอกสาร ช่วยให้สะดวกและประหยัดเวลามากยิ่งขึ้น 📢ระบบเพิ่มปุ่ม “สร้างใบวางบิล” และ “สร้างใบรวมจ่าย” ให้ใช้งานได้โดยตรงจากเอกสารรับและจ่าย โดยระบบจะดึงข้อมูลผู้ติดต่อ ประเภทเอกสาร และวันที่ออกมาให้อัตโนมัติจากเอกสารต้นทาง พร้อมเลือกเอกสารตั้งต้นไว้ให้ทันที ช่วยให้ผู้ใช้งานสร้างเอกสารต่อเนื่องได้ง่ายขึ้น ✨ 5. ปรับปรุงการคำนวณเงินได้สะสมในสลิปเงินเดือน ด้วยการอ้างอิงวันครบกำหนดชำระ พร้อมอัปเดตหลายสลิปพร้อมกันในครั้งเดียว 📢สำหรับกิจการที่ใช้ PEAK Payroll ผู้ใช้งานสามารถควบคุมการแสดงยอดเงินได้สะสมบนสลิปเงินเดือนได้แม่นยำยิ่งขึ้น โดยอัปเดตฟังก์ชัน PEAK ให้ระบบจะอ้างอิงการคำนวณจาก “วันที่ครบกำหนดชำระ” แทนการอ้างอิงจากวันที่ของเอกสาร ช่วยให้ผู้ใช้งานกำหนดช่วงเวลาการรวมยอดได้ตามจริงมากขึ้น นอกจากนี้ผู้ใช้งานสามารถอัปเดตข้อมูลเงินได้สะสมในหลายสลิปได้พร้อมกันในคลิกเดียว ไม่ต้องกดทีละใบอีกต่อไป ✨ 6. อัปเดตฟังก์ชัน PEAK ให้แก้ไขรายการสินค้าและกลุ่มจัดประเภทได้ แม้เอกสารจะกระทบยอดธนาคารไปแล้ว 📢ระบบเปิดให้สามารถแก้ไขรายการสินค้าและกลุ่มจัดประเภทได้แล้ว แม้ว่าเอกสารจะทำการกระทบยอดไปแล้วก็ตาม เพื่อลดการทำงานซ้ำและจัดการเอกสารได้ง่ายกว่าเดิม หมดปัญหากดกระทบยอดธนาคารไปก่อนแล้วเพิ่งเห็นว่ารายการสินค้าหรือกลุ่มจัดประเภทกรอกผิด ✨ 7. อัปเดตฟังก์ชัน PEAK ให้เลือกรายการจากหน้ากระทบยอดธนาคารมาสร้างเอกสาร ชำระเงิน หรือโอนเงินหลายๆรายการพร้อมกันได้ภายในคลิกเดียว 📢สำหรับนักบัญชีที่ใช้งานฟังก์ชันกระทบยอดธนาคาร ระบบเพิ่มปุ่ม “ทำรายการ” ที่หน้ากระทบยอดเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถนำหลายรายการจาก Statement มาทำรายการได้ ดังนี้ นอกจากนี้ยังสามารถคลิกขวาในแต่ละรายการ เพื่อทำรายการได้ เมื่อทำรายการเสร็จ ระบบจะทำการกระทบยอดธนาคารให้อัตโนมัติ ช่วยลดเวลาการทำงานและเพิ่มความแม่นยำในการจัดการธุรกรรมทางการเงินได้แบบมือโปร ✨ 8. อัปเดตฟังก์ชัน PEAK โดยตั้งวันที่ย้อนหลังในการสร้างเอกสารอัตโนมัติ (Recurring) ได้แล้ว ดูข้อมูลสะท้อนความเป็นจริงได้มากขึ้น 📢สำหรับกิจการที่มีการสร้างเอกสารอัตโนมัติ (Recurring) ระบบเปิดให้ผู้ใช้งานสามารถระบุวันที่เริ่มต้นเป็นอดีตได้แล้ว โดยวันที่ที่เลือกในอดีตนั้น ระบบจะไม่สร้างเอกสารย้อนหลังให้ เพื่อให้สอดคล้องกับข้อมูลในสัญญาที่ตกลงกับคู่ค้าและช่วยให้ข้อมูลในระบบสะท้อนความเป็นจริงมากขึ้น ✨ 9. ใช้เอกสารรับแจ้งหนี้ (IR) สร้างใบรวมจ่ายได้ พร้อมทั้งรองรับการกระทบยอด IR/GR ได้หลายครั้ง 📢สำหรับแพ็กเกจ Premium ที่ใช้เอกสารรับแจ้งหนี้ (IR) และเอกสารรับสินค้า/บริการ (GR) ระบบเพิ่มความยืดหยุ่นให้มากขึ้นในการใช้เอกสาร ดังนี้ เพื่อช่วยให้การจัดการเอกสารและยอดสินค้าเป็นระบบ สะดวกและมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างหน้าเอกสารใบรวมจ่าย (Online View) 👉 ลองใช้ฟังก์ชันใหม่ของ PEAK วันนี้! แล้วสัมผัสประสบการณ์การทำงานที่สะดวกและรวดเร็วกว่าเดิม ทดลองใช้งานโปรแกรมบัญชี PEAK ฟรี! 30 วัน มูลค่า 1,200 บาทคลิก (ไม่มีค่าใช้จ่าย)PEAK Call Center : 1485LINE : @peakaccountสอบถามเพิ่มเติม คลิก

ฟังก์ชันใหม่แนะนำการใช้งาน