ภาพรวมของโปรแกรมวิเคราะห์ธุรกิจ ช่วยวิเคราะห์ผลประกอบการณ์ รู้กำไรขาดทุน

ตัวช่วยวิเคราะห์ข้อมูลบัญชี เห็นผลกำไร ขาดทุน บริหารธุรกิจได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ระบบวิเคราะห์ธุรกิจอย่างมืออาชีพออนไลน์ PEAK Board เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการบริหารธุรกิจภายในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นโดยสามารถเก็บข้อมูลของรายการซื้อขายเสนอราคามาวิเคราะห์กำไรขาดทุนรายสาขา โครงการ หรือหน่วยธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีรายงานสำหรับผู้บริหารที่สามารถรายงานผลของกิจการตามอัตราส่วนทางการเงินเป็นรายเดือน ไตรมาส หรือรายปีเหมือนกับเรามีนักวิเคราะห์ด้านการเงินมืออาชีพอยู่ในกิจการ

24,000 บริษัท
วางใจใช้งาน PEAK

30,000

บริษัท

วางใจใช้งาน PEAK

1,400 พันธมิตรสำนักงานบัญชี

1,400

พันธมิตร

PEAK Family Partner

4  ล้านธุรกรรมต่อเดือน บน PEAK

4

ล้านธุรกรรม/เดือน

ธุรกรรมบน PEAK ต่อเดือน

40,000 ล้าน บาท/เดือน

40,000

ล้าน บาท/เดือน

มูลค่ารายการค้าต่อเดือน

จุดเด่นและฟังก์ชันของ PEAK Board โปรแกรมวิเคราะห์ธุรกิจอย่างมืออาชีพ

เปรียบเทียบกำไร - ขาดทุน

เปรียบเทียบกำไร – ขาดทุน

สามารถรู้กำไรเป็นราย โครงการ สาขา หน่วยธุรกิจ บริหารต้นทุน ค่าใช้จ่าย แต่ละโครงการได้

รายงานสำหรับผู้บริหาร

รายงานสำหรับผู้บริหาร

รายงานสรุปข้อมูลที่สำคัญในการทำธุรกิจ เหมือนมีนักวิเคราะห์ด้านการเงินมืออาชีพอยู่ในกิจการ

ปรับแต่งข้อมูลรายงานได้

ปรับแต่งข้อมูลรายงานได้

ปรับแต่งรายงานได้อยากอิสระตามความต้องการ เช่น รายงานยอดขายตามพนักงาน สินค้า ช่องทางการขาย

PEAK Board เหมาะกับใคร?
ระบบวิเคราะห์ธุรกิจอย่างมืออาชีพที่ตอบโจทย์ธุรกิจมากที่สุด

ผู้ประกอบการใช้ PEAK board วิเคราะห์ธุรกิจ SME

ผู้ประกอบการ SME ที่ต้องการเครื่องมือด้านการวิเคราะห์ธุรกิจ

รับรู้กำไรขาดทุนในแต่ละสาขา โครงการ หน่วยงาน รู้ยอดขายตามแผนก พนักงานขายรายบุคคล หรือภูมิภาค มีรายงานสรุปตัวเลขที่สำหรับสำหรับธุรกิจ

PEAK board ใช้สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลพนักงานโดยฝ่ายบุคคลและนักบัญชี

ตัวช่วยในการวิเคราะห์ธุรกิจ สำหรับผู้จัดการการเงินและนักบัญชี

สร้างรายงานได้ตรงตามความต้องการของผู้บริหารวิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงินให้อัตโนมัติปรับแต่งรายงานได้หลากหลายรูปแบบ

มารู้จัก PEAK Payroll โปรแกรมเงินเดือน
ออนไลน์ภายใน 3 นาที

มาเรียนรู้และเริ่มต้นใช้งานโปรแกรมคำนวณเงินเดือน
ออนไลน์ได้อย่างมืออาชีพด้วยวิดีโอสอนการใช้งาน
ครบทุกเมนู เพื่อให้คุณเริ่มต้นใช้งานโปรแกรมเงินเดือน
ออนไลน์ PEAK Payroll ได้อย่างมืออาชีพ

บริหารธุรกิจได้ดีกว่าเดิม วิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างตรงจุด เมื่อเชื่อมต่อระบบ PEAK Board กับ PEAK Account

วิเคราะห์ข้อมูลบัญชี รายงานการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ราคาเริ่มต้น 1,200 บาท/เดือน โปรแกรมวิเคราะห์ธุรกิจ PEAK Board

บริหารธุรกิจ บัญชี การเงิน
และจัดการเงินเดือนได้ครบวงจร

เริ่มต้นเพียง 1,200 บาท/เดือน

รู้จัก PEAK Board โปรแกรมวิเคราะห์ธุรกิจ ใน 3 นาที

วิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจด้วย Dashboard โปรแกรมวิเคราะห์ธุรกิจ - PEAK Board

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโปรแกรมวิเคราะห์ธุรกิจ PEAK Board

การสร้างกลุ่มจัดประเภทเพื่อให้เหมาะกับกิจการบนโปรแกรมวิเคราะห์ธุรกิจอย่างมืออาชีพนั้น (PEAK Board) ไม่ใช่เรื่องสำหรับมือใหม่ เพียงแค่คุณมีกลุ่มที่ต้องต้องการแยกรายได้ ค่าใช้จ่ายของกิจการในใจแล้วเช่น ต้องการแยกรายได้ ค่าใช้จ่าย ตามแผนก คุณสามารถ List รายชื่อแผนกต่างๆของบริษัทออกมาก่อนจากนั้นนำรายชื่อแผนกไปสร้างกลุ่มจัดประเภทตามคู่มือนี้ได้เลย 

เมื่อสร้างเรียบร้อยแล้ว ก็จะสามารถแยกเอกสารรายรับ รายจ่ายตามแผนกที่ต้องการได้เลยค่ะ นอกจากแผนกแล้วคุณยังสามารถแยกกลุ่มได้หลากหลายตามมุมมองที่กิจการต้องการมองเห็นผ่าน โปรแกรมวิเคราะห์ธุรกิจอย่างมืออาชีพนั้น (PEAK Board) เช่น โครงการ , ยอดขายรายสาขา หรืออื่นๆ 

PEAK Board คืออะไรและช่วยธุรกิจคุณได้อย่างอย่างไรคลิกอ่านที่นี่

เมื่อคุณได้มีการสร้างกลุ่มจัดประเภทตามมุมมองที่กิจการต้องการแล้ว สามารถนำกลุ่มจัดประเภทมาระบุบนเอกสารตามคู่มือนี้ได้เลย  เมื่อติดกลุ่มจัดประเภทบนเอกสารเรียบร้อยแล้วท่านจะสามารถเข้าไปดูตัวเลขของแต่ละกลุ่มผ่านโปรแกรมวิเคราะห์ธุรกิจอย่างมืออาชีพนั้น (PEAK Board) เพื่อให้ประกอบการตัดสินใจด้านธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว

วิธีการดูรายงานผ่านโปรแกรมวิเคราะห์ธุรกิจอย่างมืออาชีพนั้น (PEAK Board)จะแบ่งเป็น 2 รายการคือ

  1. รายงานที่ดึงข้อมูลจากการหน้าเอกสารรายรับ-รายจ่าย ที่มีการระบุกลุ่มจัดประเภทเอาไว้ วิธีการพิมพ์รายงานคลิกอ่านที่นี่  (รายงานนี้จะดึงข้อมูลมาแสดงเฉพาะเอกสารที่มีการบันทึกบัญชีรายได้หมวด4 และค่าใช้จ่ายหมวด5)
  2. รายงานวิเคราะห์ธุรกิจสำหรับผู้บริหาร / Executive Summary วิธีการพิมพ์รายงานคลิกอ่านที่นี่

การระบุกลุ่มจัดประเภทในเอกสารจะไม่มีผลกระทบต่อบัญชีแยกประเภท (GL) ของกิจการ โดยใช้เพื่อแสดงผลเฉพาะในโปรแกรมวิเคราะห์ข้อมูลทางธุรกิจ (PEAK Board) เท่านั้น

ผลิตภัณฑ์ของ PEAK

PEAK Account
โปรแกรมบัญชีออนไลน์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

PEAK Payroll
โปรแกรมเงินเดือนออนไลน์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

PEAK Board
โปรแกรมวิเคราะห์ธุรกิจ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

PEAK Asset
โปรแกรมบริหารจัดการสินทรัพย์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

PEAK Tax
โปรแกรมการจัดการภาษีออนไลน์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

Line @PEAKConnect
ใช้งานโปรแกรมผ่านไลน์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

บทความน่ารู้

มาตรการภาษีกระตุ้นท่องเที่ยว 2568

PEAK Account

9

min

สรุป 3 มาตรการภาษีกระตุ้นท่องเที่ยว 2568 เข้าใจง่าย ม้วนเดียวจบ

รัฐบาลประกาศ 3 มาตรการภาษีกระตุ้นท่องเที่ยวภายในประเทศในช่วงปลายปี 2568 เพื่อให้เกิดการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ และช่วยผู้ประกอบการในภาคการท่องเที่ยว โรงแรม และธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้อง โดยมาตรการทั้งหมดเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป มาตรการภาษีกระตุ้นท่องเที่ยว 2568 แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ได้แก่1. มาตรการเที่ยวดีมีคืน สำหรับประชาชนทั่วไป2. มาตรการภาษีสนับสนุนการจัดอบรม/สัมมนาในประเทศ สำหรับบริษัทและห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล 1. มาตรการ “เที่ยวดีมีคืน” สำหรับประชาชนทั่วไป มาตรการภาษีกระตุ้นท่องเที่ยว 2568 ข้อแรก คือ มาตรการเที่ยวดีมีคืน ซึ่งเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปสามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีจากการเดินทางภายในประเทศได้ผู้มีสิทธิ์:บุคคลธรรมดาที่มีเงินได้และต้องยื่นภาษีประจำปีภาษี 2568 ค่าใช้จ่ายที่ใช้สิทธิ์ได้: ช่วงเวลาที่ใช้สิทธิ์:วันที่ 29 ตุลาคม 2568 – 15 ธันวาคม 2568 เงื่อนไขการลดหย่อนภาษี: เอกสารที่ต้องใช้ประกอบการยื่นภาษี: แบบภาษีที่ใช้ยื่น:ภ.ง.ด.90 หรือ ภ.ง.ด.91 (ยื่นออนไลน์ภายในวันที่ 8 เม.ย. 69) 2. มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการจัดอบรม/สัมมนาในประเทศ สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล มาตรการภาษีกระตุ้นท่องเที่ยว 2568 กลุ่มที่สอง มุ่งช่วยภาคธุรกิจและองค์กรให้เกิดการเดินทางและกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ผู้มีสิทธิ์:บริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จัดอบรม สัมมนา หรือกิจกรรมภายในประเทศให้กับพนักงาน ค่าใช้จ่ายที่ใช้สิทธิ์ได้: ช่วงเวลาที่ใช้สิทธิ์:วันที่ 29 ตุลาคม 2568 – 15 ธันวาคม 2568 เงื่อนไขการหักรายจ่ายทางภาษี: เอกสารที่ต้องใช้ประกอบการยื่นภาษี: แบบภาษีที่ใช้ยื่น:ภ.ง.ด.50 3. มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงโรงแรมที่พัก สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม มาตรการภาษีกระตุ้นท่องเที่ยว 2568 กลุ่มสุดท้าย มุ่งส่งเสริมให้ธุรกิจโรงแรมและที่พักกลับมาฟื้นตัวหลังจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ผู้มีสิทธิ์:บริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบกิจการโรงแรม หรือที่พักที่จดทะเบียนถูกต้อง ค่าใช้จ่ายที่ใช้สิทธิ์ได้: ช่วงเวลาที่ใช้สิทธิ์:วันที่ 29 ตุลาคม 2568 – 31 มีนาคม 2569 เงื่อนไขการหักรายจ่าย: หักรายจ่ายได้ 2 เท่าของจำนวนที่จ่ายจริง เอกสารที่ใช้ประกอบการยื่นภาษี: แบบภาษีที่ใช้ยื่น:ภ.ง.ด.50 สินเชื่อเสริมจากภาครัฐ ช่วยผู้ประกอบการโรงแรมปรับปรุงกิจการ ภาครัฐได้มอบหมายให้ธนาคารออมสินจัดเตรียมสินเชื่อ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ต้องการลงทุนปรับปรุงโรงแรมในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย ข้อมูลจาก: กรมสรรพากร – ข่าวประชาสัมพันธ์ มาตรการภาษีกระตุ้นการท่องเที่ยว 2568 ออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ได้ง่าย ๆ ด้วย PEAK  ระบบ PEAK รองรับ e-Tax Invoice & e-Receipt ตามมาตรฐานกรมสรรพากร คลิกดู ตัวอย่างการส่ง e-Tax Invoice ให้ลูกค้าง่าย ๆ บน PEAK ทดลองออกใบกำกับภาษีฟรี (ไม่มีค่าใช้จ่าย)คลิก Call Center : 1485LINE : @peakaccountสอบถามเพิ่มเติม คลิก

อัปเดตฟังก์ชัน PEAK 29/10/2025

PEAK Account

7

min

อัปเดตฟังก์ชัน PEAK 29/10/2025

เอาใจผู้ใช้งานโปรแกรม PEAK ด้วยฟังก์ชันใหม่ที่ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น 1. ปรับแถบ “ล่าสุด” ให้เห็นทุกการอัปเดตของเอกสารแบบเรียลไทม์ เหมาะสำหรับ : ผู้ใช้งานทุกแพ็กเกจ ที่ต้องการดูความเคลื่อนไหวของเอกสารครบทุกขั้นตอน Highlight:  แถบ “ล่าสุด” ถูกปรับใหม่ให้แสดงการ อัปเดตล่าสุดของเอกสาร ตามเวลาจริง โดยจะมีการแสดงว่าใครเป็นคนแก้ไขเอกสาร และแสดงเวลาที่แก้ไขเอกสารนั้น ๆ ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบสถานะล่าสุดของเอกสารได้สะดวกมากยิ่งขึ้น หมายเหตุ 2. เพิ่มการแสดงผลเอกสาร PR/IR/GR ในหน้าภาพรวมของผู้ติดต่อแต่ละราย เหมาะสำหรับ : ผู้ใช้งานแพ็กเกจ Premium Highlight: ระบบเพิ่มให้แสดงเอกสารในหน้าภาพรวมของผู้ติดต่อแต่ละราย ที่อยู่ในฝั่งรายจ่ายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ใบขอซื้อ (PR) บันทึกรับสินค้า/บริการ (GR) บันทึกรับเอกสารแจ้งหนี้ (IR) ช่วยให้ติดตามเอกสารภายในได้สะดวกและเห็นทุกความเคลื่อนไหวในหน้าเดียว 3. ตั้งค่าการแสดงผลปุ่ม “ชำระเงิน” สำหรับการส่งอีเมลในเอกสารฝั่งรายรับได้หลากหลายยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับ: ผู้ใช้งานที่มีการเชื่อมต่อระบบการรับชำระเงิน Highlight: ระบบเปิดให้ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าการแสดงผลปุ่ม “ชำระเงิน” เมื่อส่งเอกสารผ่านอีเมลได้หลากหลายเอกสาร จากเดิมที่สามารถตั้งค่าได้เฉพาะการส่งอีเมลด้วย ใบแจ้งหนี้ เท่านั้น ช่วยให้ผู้ใช้งานรับชำระเงินจากการส่งเอกสารผ่านทางอีเมลได้สะดวกมากยิ่งขึ้น เอกสารที่สามารถตั้งค่าได้ 4. PEAK TAX สามารถดูประวัติการเปิด-ปิดดึงข้อมูลอัตโนมัติได้แล้ว เหมาะสำหรับ: ผู้ใช้งาน PEAK TAX ที่มีการใช้งานการดึงข้อมูลอัตโนมัติ Highlight: ฟีเจอร์ PEAK TAX จะแสดงประวัติในการตั้งค่าเปิด-ปิดการดึงข้อมูลอัตโนมัติ (Auto Fetch) ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบได้ว่าผู้ใช้งานคนไหนได้มีการแก้ไขตั้งค่าการดึงข้อมูล และแสดงเวลาที่มีการแก้ไข ช่วยให้ติดตามการตั้งค่าของข้อมูลได้ง่ายขึ้น ลดข้อสงสัยเมื่อข้อมูลมีการเปลี่ยนแปลง หมายเหตุ 5. ปรับการแสดงผลรายงานในหน้าสินค้า/บริการ ให้สามารถแสดงผลจุดทศนิยมได้สูงสุด 4 ตำแหน่ง เหมาะสำหรับ: ผู้ใช้งานที่มีการพิมพ์รายงานสินค้า/บริการ Highlight: ระบบปรับให้รายงานสินค้า/บริการแสดงตัวเลขได้แม่นยำยิ่งขึ้น โดยจะแสดงทศนิยมได้สูงสุดถึง 4 ตำแหน่ง ซึ่งในการอัปเดตครั้งนี้จะแสดงผลในรายงานภาพรวมสินค้า/บริการและรายงานเคลื่อนไหวสินค้า/บริการรายตัว ช่วยให้ผู้ใช้งานเห็นข้อมูลของรายงานสินค้า/บริการที่ละเอียดมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างรายงาน 2. รายงานการเคลื่อนไหวสินค้า/บริการแบบรายตัว จะแสดงผลในทุกคอลัมน์ 6. ปรับการแสดงผลเอกสารในหน้าผู้ติดต่อแต่ละรายให้แสดงเฉพาะเอกสาร 100 รายการล่าสุด และเลือกสถานะเอกสารได้มากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับ : ผู้ใช้งานทุกแพ็กเกจ Highlight: ระบบปรับให้ Dashboard ในหน้าผู้ติดต่อแสดงเฉพาะเอกสาร 100 รายการล่าสุด และสามารถเลือกสถานะในการแสดงผลได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น ช่วยให้สามารถตรวจสอบเอกสารของผู้ติดต่อแต่ละรายได้ละเอียดมากยิ่งขึ้น เดิม : เป็นการแสดงผลเอกสารทั้งหมดที่มีการออกให้ผู้ติดต่อแต่ละราย 7. ปรับหน้า “ผู้ใช้งาน” ให้เห็นเฉพาะข้อมูลของตัวเอง ตามสิทธิ์การใช้งานที่ได้รับ เหมาะสำหรับ : ผู้ใช้งานทุกแพ็กเกจ  Highlight: ระบบได้ปรับหน้า “ผู้ใช้งาน” ให้ผู้ที่ไม่ได้รับสิทธิ์เพิ่มผู้ใช้งาน สามารถเข้ามาดูได้เฉพาะข้อมูลของตนเองเท่านั้น และปิดการแสดงผลปุ่ม “เพิ่มผู้ใช้งานใหม่” เพื่อให้ป้องกันการแสดงข้อมูลให้กับผู้ใช้งานอื่นที่ไม่มีสิทธิ์

ฟังก์ชันใหม่แนะนำการใช้งาน

มาตรการภาษีกระตุ้นท่องเที่ยว 2568

PEAK Account

9

min

สรุป 3 มาตรการภาษีกระตุ้นท่องเที่ยว 2568 เข้าใจง่าย ม้วนเดียวจบ

รัฐบาลประกาศ 3 มาตรการภาษีกระตุ้นท่องเที่ยวภายในประเทศในช่วงปลายปี 2568 เพื่อให้เกิดการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ และช่วยผู้ประกอบการในภาคการท่องเที่ยว โรงแรม และธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้อง โดยมาตรการทั้งหมดเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป มาตรการภาษีกระตุ้นท่องเที่ยว 2568 แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ได้แก่1. มาตรการเที่ยวดีมีคืน สำหรับประชาชนทั่วไป2. มาตรการภาษีสนับสนุนการจัดอบรม/สัมมนาในประเทศ สำหรับบริษัทและห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล 1. มาตรการ “เที่ยวดีมีคืน” สำหรับประชาชนทั่วไป มาตรการภาษีกระตุ้นท่องเที่ยว 2568 ข้อแรก คือ มาตรการเที่ยวดีมีคืน ซึ่งเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปสามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีจากการเดินทางภายในประเทศได้ผู้มีสิทธิ์:บุคคลธรรมดาที่มีเงินได้และต้องยื่นภาษีประจำปีภาษี 2568 ค่าใช้จ่ายที่ใช้สิทธิ์ได้: ช่วงเวลาที่ใช้สิทธิ์:วันที่ 29 ตุลาคม 2568 – 15 ธันวาคม 2568 เงื่อนไขการลดหย่อนภาษี: เอกสารที่ต้องใช้ประกอบการยื่นภาษี: แบบภาษีที่ใช้ยื่น:ภ.ง.ด.90 หรือ ภ.ง.ด.91 (ยื่นออนไลน์ภายในวันที่ 8 เม.ย. 69) 2. มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการจัดอบรม/สัมมนาในประเทศ สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล มาตรการภาษีกระตุ้นท่องเที่ยว 2568 กลุ่มที่สอง มุ่งช่วยภาคธุรกิจและองค์กรให้เกิดการเดินทางและกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ผู้มีสิทธิ์:บริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จัดอบรม สัมมนา หรือกิจกรรมภายในประเทศให้กับพนักงาน ค่าใช้จ่ายที่ใช้สิทธิ์ได้: ช่วงเวลาที่ใช้สิทธิ์:วันที่ 29 ตุลาคม 2568 – 15 ธันวาคม 2568 เงื่อนไขการหักรายจ่ายทางภาษี: เอกสารที่ต้องใช้ประกอบการยื่นภาษี: แบบภาษีที่ใช้ยื่น:ภ.ง.ด.50 3. มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงโรงแรมที่พัก สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม มาตรการภาษีกระตุ้นท่องเที่ยว 2568 กลุ่มสุดท้าย มุ่งส่งเสริมให้ธุรกิจโรงแรมและที่พักกลับมาฟื้นตัวหลังจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ผู้มีสิทธิ์:บริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบกิจการโรงแรม หรือที่พักที่จดทะเบียนถูกต้อง ค่าใช้จ่ายที่ใช้สิทธิ์ได้: ช่วงเวลาที่ใช้สิทธิ์:วันที่ 29 ตุลาคม 2568 – 31 มีนาคม 2569 เงื่อนไขการหักรายจ่าย: หักรายจ่ายได้ 2 เท่าของจำนวนที่จ่ายจริง เอกสารที่ใช้ประกอบการยื่นภาษี: แบบภาษีที่ใช้ยื่น:ภ.ง.ด.50 สินเชื่อเสริมจากภาครัฐ ช่วยผู้ประกอบการโรงแรมปรับปรุงกิจการ ภาครัฐได้มอบหมายให้ธนาคารออมสินจัดเตรียมสินเชื่อ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ต้องการลงทุนปรับปรุงโรงแรมในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย ข้อมูลจาก: กรมสรรพากร – ข่าวประชาสัมพันธ์ มาตรการภาษีกระตุ้นการท่องเที่ยว 2568 ออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ได้ง่าย ๆ ด้วย PEAK  ระบบ PEAK รองรับ e-Tax Invoice & e-Receipt ตามมาตรฐานกรมสรรพากร คลิกดู ตัวอย่างการส่ง e-Tax Invoice ให้ลูกค้าง่าย ๆ บน PEAK ทดลองออกใบกำกับภาษีฟรี (ไม่มีค่าใช้จ่าย)คลิก Call Center : 1485LINE : @peakaccountสอบถามเพิ่มเติม คลิก