โปรแกรมบัญชีออนไลน์ เห็นกำไร-ขาดทุน แบบ Real-Time

โปรแกรมบัญชีออนไลน์ ตัวช่วยผู้ประกอบการ ทำงานบัญชีง่ายขึ้น เห็นกำไร-ขาดทุน แบบ Real-Time

โปรแกรมบัญชีออนไลน์ที่มีระบบพื้นฐานครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น ด้านรายรับที่มีทั้งใบเสนอราคา ใบแจ้งหนี้ ใบเสร็จรับเงิน ใบกำกับภาษี ใบลดหนี้/เพิ่มหนี้ ใบวางบิล และด้านรายจ่ายที่มีใบสั่งซื้อ บันทึกค่าใช้จ่าย บันทึกซื้อสินค้าเป็นต้น อีกทั้งยังสามารถเก็บข้อมูลผู้ติดต่อและข้อมูลสินค้า ที่สามารถดูรายงานการเคลื่อนไหวรวมไปถึงต้นทุนขายได้ และยังไม่ระบบการเงินและบัญชี ที่ช่วยในการสร้างรายงานสำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น รายงานสมุดบัญชีรายวัน รายงานแยกประเภท งบกำไรขาดทุน งบฐานะการเงิน ได้อย่าง Real-Time

24,000 บริษัท
วางใจใช้งาน PEAK

30,000

บริษัท

วางใจใช้งาน PEAK

1,400 พันธมิตรสำนักงานบัญชี

1,400

พันธมิตร

PEAK Family Partner

4  ล้านธุรกรรมต่อเดือน บน PEAK

4

ล้านธุรกรรม/เดือน

ธุรกรรมบน PEAK ต่อเดือน

40,000 ล้าน บาท/เดือน

40,000

ล้าน บาท/เดือน

มูลค่ารายการค้าต่อเดือน

ระบบต่างๆของ PEAK Account

รายรับ

รองรับทุกกระบวนการในการขายตั้งแต่การเสนอราคา รับมัดจำ แจ้งหนี้ วางบิล แบ่งงวดชำระ ออกใบเสร็จ รับเช็ค เห็นต้นทุน/กำไรของเอกสารแต่ละใบได้ทันที พร้อมฟังก์ชันส่งเอกสารทางอีเมล ให้ลูกค้าชำระเงินผ่านออนไลน์ได้ทันที และเชื่อมส่ง e-Tax ตามมาตรฐานกรมสรรพากร

ตัวอย่างฟีเจอร์

ใบเสนอราคา

ใบส่งของ/ใบแจ้งหนี้

ใบวางบิล

ใบเสร็จรับเงิน

ใบกำกับภาษีขาย

e-Tax Invoice

ใบลดหนี้/ใบเพิ่มหนี้

สร้างเอกสารด้วยการ Import ข้อมูลจากไฟล์ Excel

สร้างเอกสารด้วยการเชื่อม API

ส่งอีเมลจากโปรแกรม PEAK

ตั้งรหัสการเข้าถึงเอกสาร

รายจ่าย

รองรับการบันทึกรายจ่ายที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายแบบมีเงินมัดจำ หรือจ่ายชำระเป็นงวดๆ อีกทั้งการบันทึกซื้อสินค้าระบบก็รับสินค้าเข้าสต็อกให้อัตโนมัติ โดยทุกรายการจ่ายสามารถแนบเอกสารไว้เป็นหลักฐานเพื่อตรวจสอบย้อนหลังได้

ตัวอย่างฟีเจอร์

ใบสั่งซื้อ

บันทึกซื้อสินค้า/ค่าใช้จ่าย/สินทรัพย์

ใบรับรองแทนใบเสร็จรับเงิน

ใบรวมจ่าย

บันทึกรับใบลดหนี้/เพิ่มหนี้

รายงานใบกำกับภาษีซื้อ

สถานะเอกสาร ช่วยป้องกันข้อมูลตกหล่น

บันทึกรายจ่ายด้วยการ Import ข้อมูลจากไฟล์ Excel

ผู้ติดต่อ

รองรับการจัดเก็บข้อมูลแบ่งตาม ลูกค้าและผู้ขาย จัดกลุ่มลูกค้าแบ่งตามหมวดหมู่ต่าง ๆ เช่น ฝ่ายขายที่ดูแล ประเภทธุรกิจ เป็นต้น พร้อมรายงานแสดงผลอายุลูกหนี้-เจ้าหนี้ รายงานสรุปยอดขาย ยอดค้างชำระ ยอดวงเงินเชื่อคงเหลือ

ตัวอย่างฟีเจอร์

รายงานอายุลูกหนี้

รายงานอายุเจ้าหนี้

ดูยอดขายตามลูกค้า

จัดกลุ่มผู้ติดต่อ

กำหนดวงเงินขายเชื่อ

วิเคราะห์ข้อมูลผู้ติดต่อรายคน

สินค้า

รองรับการสร้างรายชื่อสินค้าและบริการ ตั้งราคาขายได้หลายราคา บันทึกบัญชีได้ทั้งแบบต่อเนื่อง (Perpetual) และแบบสิ้นงวด (Periodic) พร้อมคำนวณต้นทุนขายอัตโนมัติ ด้วยวิธีเข้าก่อน-ออกก่อน (FIFO) และมีรายงานแสดงการเคลื่อนไหวสินค้า ยอดสินค้าคงเหลือ และต้นทุนขายตามช่วงเวลา

ตัวอย่างฟีเจอร์

กำหนดราคามาตรฐาน

บันทึกเข้าสต็อกอัตโนมัติ

เพิ่มหน่วยสินค้า

คำนวณต้นทุนขาย (FIFO)

เพิ่มบาร์โค้ด รูปภาพสินค้า

วิเคราะห์ประวัติสินค้ารายตัว

การเงิน

รองรับการเชื่อมต่อธนาคาร แพลตฟอร์มการชำระเงิน และ e-Wallet พร้อมฟังก์ชันกระทบยอดอัตโนมัติ เพียง Import รายการธุรกรรม ประหยัดเวลาและสะดวกยิ่งขึ้น

ตัวอย่างฟีเจอร์

เงินสดย่อย/ธนาคาร/e-wallet

กระทบยอดธนาคารอัตโนมัติ

เชื่อมต่อกับธนาคารได้

เช็ครับ-เช็คจ่าย

สำรองรับ-จ่าย

ตารางเงินเข้า-ออก

บัญชี

บันทึกบัญชีอัตโนมัติ (เดบิตและเครดิต) พร้อมรายงานแยกประเภท เรียกดูงบทดลอง งบฐานะการเงิน งบกำไร ขาดทุน และงบกระแสเงินสดได้ตามช่วงเวลาที่ต้องการ เปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงได้ และมี AI ตรวจสอบความถูกต้องของรายการบัญชี

ตัวอย่างฟีเจอร์

งบฐานะการเงิน

งบกำไรขาดทุน

งบกระแสเงินสด

งบทดลอง

ผังบัญชี บัญชีรายวัน

บัญชีแยกประเภท

AI ตรวจสอบสมุดบัญชีรายวัน

AI ตรวจสอบยอดคงเหลือ

จุดเด่นของ PEAK Account
โปรแกรมบัญชีออนไลน์ที่ใช้งานง่ายที่สุด

โปรแกรมบัญชี สวยงาม ใช้งานง่าย

สวยงาม ใช้งานง่าย

สร้างเอกสารได้หลายวิธี รองรับสกุลเงินตราต่างประเทศ

เลือกธีมสี หรือใส่โลโก้ของธุรกิจได้

บันทึกบัญชีอัตโนมัติ

บันทึกบัญชีอัตโนมัติ

รองรับการบันทึกทั้ง “แบบต่อเนื่อง” และ “แบบสิ้นงวด”

อัปเดทรายการเคลื่อนไหวสต็อกสินค้าแบบ
Real-Time

ดูรายงานได้อย่างสุดปัง

ดูรายงานได้อย่างสุดปัง

มีรายงานหลายรูปแบบที่รองรับทุกความต้องการ

ดูรายงานได้ทุกเวลาเนื่องจากเป็นระบบ Real-Time

การรับชำระ - จ่ายชำระ

การรับชำระ – จ่ายชำระ

รองรับเงินมัดจำ หรือแบ่งเป็นงวดๆได้

รองรับการชำระออนไลน์, เช็ค, e-Wallet ก็ได้

การตรวจสอบอัตโนมัติ

การตรวจสอบอัตโนมัติ

กระทบยอดธนาคารอัตโนมัติเพียง import file

AI ช่วยตรวจสอบการบันทึกบัญชีที่ผิดพลาด

เชื่อมต่อกับระบบการทำงานอื่น

เชื่อมต่อกับระบบการทำงานอื่น

PEAK Payroll, PEAK Asset, PEAK Tax, PEAK Board

รองรับ e-Tax Invoice ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์

PEAK Account เหมาะกับใคร?
โปรแกรมบัญชีออนไลน์ที่ตอบโจทย์มากที่สุด

โปรแกรมบัญชีออนไลน์สำหรับผู้ประกอบการและเจ้าของธุรกิจ SME

ผู้ประกอบการที่ต้องการ
เครื่องมือช่วยบริหารธุรกิจ

PEAK Account เป็นมากกว่าโปรแกรมบัญชีออนไลน์ ด้วยการรวมข้อมูลสำคัญทางธุรกิจไว้ในที่เดียว อีกทั้งยังสามารถใช้งานร่วมกันได้หลายแผนก ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายขาย ฝ่ายจัดซื้อ ฝ่ายบัญชี-การเงิน ฝ่ายบุคคล ที่จะช่วยให้ผู้ใช้ข้อมูลสามารถการตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

โปรแกรมบัญชีออนไลน์สำหรับฝ่ายบุคคลและนักบัญชี

ธุรกิจ e-Commerce

เชื่อมต่อแพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์ Shopee, Lazada, TikTok Shop, LINE Shopping และอื่นๆ

logo PEAK Account โปรแกรมบัญชีออนไลน์

PEAK Account เป็นได้มากกว่าโปรแกรมบัญชีออนไลน์ ปลดล็อคขีดจำกัดในการทำธุรกิจด้วยการเชื่อมต่อกับ PEAK Ecosystem

logo PEAK Payroll โปรแกรมเงินเดือนออนไลน์

โปรแกรมเงินเดือนออนไลน์

logo PEAK Board โปรแกรมวิเคราะห์ธุรกิจ

โปรแกรมวิเคราะห์ธุรกิจออนไลน์

logo PEAK Asset โปรแกรมบริหารจัดการสินทรัพย์

โปรแกรมบริหารจัดการสินทรัพย์

logo PEAK Tax โปรแกรมการจัดการภาษีออนไลน์

โปรแกรมบริหารจัดการภาษี

ราคาเริ่มต้น 1,200 บาท/เดือน โปรแกรมบัญชีออนไลน์ PEAK Account

บริหารธุรกิจ บัญชี การเงิน
และจัดการเงินเดือนได้ครบวงจร

เริ่มต้นเพียง 1,200 บาท/เดือน

รู้จัก PEAK Account โปรแกรมบัญชีออนไลน์ ใน 3 นาที

จัดการบัญชีง่ายๆ ด้วยโปรแกรมบัญชีออนไลน์ครบวงจร - PEAK Account

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโปรแกรมบัญชีออนไลน์ PEAK Account

ผลิตภัณฑ์ของ PEAK

PEAK Account
โปรแกรมบัญชีออนไลน์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

PEAK Payroll
โปรแกรมเงินเดือนออนไลน์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

PEAK Board
โปรแกรมวิเคราะห์ธุรกิจ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

PEAK Asset
โปรแกรมบริหารจัดการสินทรัพย์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

PEAK Tax
โปรแกรมการจัดการภาษีออนไลน์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

Line @PEAKConnect
ใช้งานโปรแกรมผ่านไลน์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

บทความน่ารู้

PEAK Account

7

min

Update Function 11/12/2024

PEAK with the new function designed to enhance efficiency. ✨ 1. Developed the bank reconciliation function to enhance work efficiency and convenience. 1.1 Improved the display of information on the reconciliation page for better readability. 📢 For businesses using the bank reconciliation function, the system has been updated to enhance the display on the reconciliation page, allowing more information to be shown. The updates include: These improvements aim to boost efficiency and make data review more convenient and faster. 1.2 Ability to create new transactions directly from the reconciliation page. 📢 For businesses using the Premium, PRO Plus, and Trial packages, that perform bank reconciliation and need to make transactions, the system now offers additional options to create transactions directly from each deposit/payment entry. Users can click the options button (three dots) or right-click to perform actions immediately through the bank reconciliation page. The available options include: These features are designed to streamline document management and enhance efficiency in bank reconciliation processes. ✨ 2. Added the PEAK Payroll system to streamline payroll processing and reduce manual steps. 2.1 Add new employees directly on the payroll processing page. 📢 The system now includes an “Add New Employee” button on the payroll processing page. Users can conveniently add new employee information directly from the payroll page, streamlining the workflow and improving efficiency. 2.2 Adjust accumulated income calculations to be based on a cash basis. 📢 The system now adjusts the calculation of accumulated income displayed on payroll slips. It will calculate based only on payroll payment documents with a “Paid” status. Additionally, a notification has been added to the payroll payment page to inform users about the new calculation criteria. This enhancement ensures that the information is accurate and aligns more closely with the cash-based principle. Example of a Notification Regarding Cumulative Income Calculation. 2.3 Add the option “Income Type 40(2)” on the additional income adjustment page and display it in Form 50 Bis on the payroll summary page. 📢 The system now includes an option for income type 40(2) on the Additional Income page. Users can edit each additional income item by specifying whether it falls under income type 40(1) or 40(2). When generating the year-end payroll summary, the system will automatically pull the data and display income type 40(2) items on the Withholding Tax Certificate (Form 50 Bis) page. This enhancement ensures greater accuracy in managing tax data. Example of Form 50 Bis with income type 40(2). 2.4 Support displaying “Income Type 40(2)” in the tax submission file. (PND.1 Text File) 📢 The system now updates the tax filing Text File for P.N.D. 1 to support income type 40(2) in addition to 40(1). This improvement enables users to file taxes more conveniently and accurately by including both income types in the submission. Example of a Text File with income type 40(2). ✨ 3. Developed the functionality to apply deposit receipts/payments for settling more than one document. 📢 For businesses using deposit receipts/payments, the system now supports applying these documents to offset payment/receipt transactions. Users can choose to apply deposit receipts/payments in two ways: When selecting deposit receipts/payments for offsetting, users can modify the amount and related tax values. On the deposit details page, the system will display the number of deposit documents applied for offsetting, the applied amounts, and the remaining deposit balance for future use. For example, if a deposit receipt is issued and the customer makes partial payments in multiple installments, the system will accurately track these payments.This feature enhances convenience and flexibility in managing deposit receipts and offsetting payments, ensuring efficient financial operations. Example of Deposit Information Display on the Document Page. ✨ 4. Improved the Product/Service Import functionality to simplify data management. 4.1 Add the option “Update Existing Products” to modify current data. 📢 For businesses that need to modify product/service information already in the system, you can now import the “Edit Existing Products” file. This feature allows users to update product/service information efficiently, and the system will automatically update the records. The imported file consists of 3 Sheets: For the products/services you modify, the Product ID must match an existing ID in the system. If a product/service ID does not exist in the system, the file import will fail. This ensures accurate and seamless product/service data management, helping reduce errors and maintain operational efficiency. Example of the “Edit Existing Products” Import File. 4.2 Add new columns in the product/service import file to align with system data requirements. 📢 The system now clarifies the descriptions and required information for importing files, ensuring better accuracy and transparency. Additionally, the product/service import file now includes an SKU column for integration with popular platforms like Shopee, Lazada, and TikTok Shop. If you input an SKU from these platforms—even if it hasn’t yet been configured—the system will automatically activate the SKU upon import. To ensure smooth and efficient data management, the system limits imports to 1,000 items per batch. This helps prevent errors and ensures reliable handling of large datasets. ✨ 5. Improved the Contact Import functionality to make data management more convenient. 5.1 Add the option “Update Existing Contacts” to modify current data. 📢 For businesses that need to modify contact information already in the system, you can now use the “Edit Existing Contacts” import file. This allows users to efficiently update contact details, and the system will automatically refresh the contact information. The imported file is divided into 3 sheets: Contact ID: Must match an existing ID in the system for updates to work correctly. If the contact ID does not exist, the system will reject the file import. By requiring matching IDs, this ensures accurate and seamless management of contact information while minimizing errors. Example of the “Edit Existing Contacts” Import File. 5.2 Add new columns in the contact import file to align with system data requirements. 📢 The system now clarifies descriptions and specifies the required information for importing files to ensure better accuracy. Additionally, the import file for contacts now includes new columns for Contact […]

ฟังก์ชันใหม่แนะนำการใช้งาน

อัปเดตฟังก์ชัน PEAK 11/12/2024

PEAK Account

14

min

อัปเดตฟังก์ชัน PEAK 11/12/2024

เอาใจผู้ใช้งานโปรแกรม PEAK ด้วยฟังก์ชันใหม่ที่ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ✨ 1. พัฒนาฟังก์ชันการกระทบยอดธนาคาร เพื่อเพิ่มความสะดวกในการทำงาน 1.1 ปรับการแสดงข้อมูลที่หน้ากระทบยอดให้อ่านง่ายมากขึ้น 📢สำหรับกิจการที่ใช้ฟังก์ชันกระทบยอดธนาคาร ระบบมีการปรับปรุงการแสดงข้อมูลหน้ากระทบยอดใหม่ให้แสดงข้อมูลได้มากขึ้น โดยระบบมีการปรับการแสดงข้อมูล ดังนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและช่วยให้การตรวจสอบข้อมูลสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น 1.2 สร้างรายการใหม่ได้จากหน้ากระทบยอดธนาคาร 📢สำหรับกิจการแพ็กเกจ Premium, PRO Plus และ Trial ที่กระทบยอดธนาคารและต้องการทำรายการต่างๆ ระบบเพิ่มตัวเลือกการสร้างรายการในแต่ละรายการเงินเข้า-เงินออก กดปุ่มตัวเลือก (จุด 3 จุด) หรือคลิกเมาส์ขวาเพื่อทำรายการได้ทันทีผ่านหน้ากระทบยอดธนาคาร โดยมีรายการที่สามารถทำได้ ดังนี้ เพื่อช่วยลดขั้นตอนในการจัดการเอกสารและเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการกระทบยอดธนาคาร ✨ 2. เพิ่มฟังก์ชันระบบเงินเดือน PEAK Payroll ช่วยลดขั้นตอนในการทำข้อมูลเงินเดือน 2.1 เพิ่มปุ่ม “พนักงานใหม่” ได้ที่หน้าทำจ่ายเงินเดือน 📢ระบบเพิ่มปุ่ม “เพิ่มพนักงานใหม่” หน้าการทำจ่ายเงินเดือน ผู้ใช้งานสามารถเพิ่มข้อมูลพนักงานใหม่ได้ทันทีจากหน้าทำจ่ายเงินเดือน ช่วยเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการทำงาน 2.2 ปรับการคำนวณเงินได้สะสมในสลิปเงินเดือนให้อิงตามเกณฑ์เงินสด 📢ระบบปรับการคำนวณเงินได้สะสมที่แสดงในสลิปเงินเดือน โดยจะคำนวณจากเอกสารทำจ่ายเงินเดือนที่มีสถานะ “ชำระเงิน” แล้วเท่านั้น โดยที่หน้าทำจ่ายเงินเดือนระบบจะเพิ่มข้อความแจ้งเตือนเกี่ยวกับการคำนวณเงินได้สะสมตามหลักเกณฑ์ใหม่ เพื่อช่วยให้ข้อมูลมีความถูกต้องและสอดคล้องกับเกณฑ์เงินสดมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างข้อความแจ้งเตือนเกี่ยวกับการคำนวณเงินได้สะสม 2.3 เพิ่มตัวเลือก “ประเภทเงินได้ 40(2)” หน้าการแก้ไขเงินเพิ่มและแสดงประเภทเงินได้ 40(2) ในเอกสารใบ 50 ทวิหน้าสรุปจ่ายเงินเดือน 📢ระบบเพิ่มตัวเลือกประเภทเงินได้ 40(2) ที่หน้าเงินเพิ่ม ผู้ใช้งานสามารถแก้ไขได้ที่เงินเพิ่มในแต่ละรายการ โดยระบุว่าเงินเพิ่มนั้นต้องการเป็นเงินได้ประเภท 40(1) หรือ 40(2) เมื่อทำสรุปจ่ายเงินเดือนสิ้นปี ระบบจะดึงข้อมูลและแสดงรายการประเภทเงินได้ 40(2) ที่หน้าหนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่าย (ใบ 50 ทวิ) ให้อัตโนมัติ ช่วยให้การจัดการข้อมูลภาษีมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างใบ 50 ทวิ กรณีมีประเภทเงินได้ 40(2) 2.4 เพิ่มการรองรับการแสดงประเภทเงินได้ 40(2) ในไฟล์ยื่นภาษี ภ.ง.ด.1 (Text File) 📢ระบบปรับให้ Text File ยื่นภาษีของ ภ.ง.ด.1 รองรับการแสดงยอดเงินได้จากประเภท 40(2) เพิ่มเติมจาก 40(1) ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถยื่นภาษีได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ตัวอย่าง Text File ที่มีประเภทเงินได้ 40(2) ✨ 3. พัฒนาฟังก์ชันการนำใบรับเงินมัดจำ/ใบจ่ายเงินมัดจำไปตัดรับ/จ่ายชำระหน้าเอกสารได้มากกว่า 1 เอกสาร 📢สำหรับกิจการที่ใช้ใบรับมัดจำ/ใบจ่ายมัดจำ ระบบเพิ่มฟังก์ชันการนำใบรับมัดจำ/ใบจ่ายมัดจำไปตัดรับ/จ่ายชำระเอกสาร โดยการเลือกนำใบรับมัดจำ/ใบจ่ายมัดจำไปตัดรับ/จ่ายชำระ สามารถทำได้ 2 แบบ ในการเลือกเอกสารใบรับมัดจำ/ใบจ่ายมัดจำมาตัดรับ/จ่ายชำระ ผู้ใช้งานสามารถแก้ไขยอดเงิน รวมถึงมูลค่าภาษีที่เกี่ยวข้องได้ โดยที่หน้าข้อมูลใบมัดจำ ระบบจะแสดงจำนวนเอกสารใบมัดจำที่นำมาตัดชำระเงิน พร้อมทั้งแสดงข้อมูลการนำใบมัดจำไปรับ/จ่ายชำระ ครั้งละกี่บาท และแสดงยอดมูลค่าคงเหลือของเงินมัดจำค้างตัด เช่น กรณีออกใบรับเงินมัด 1 ฉบับ และลูกค้าได้มีการแบ่งจ่ายชำระเงินมัดจำหลายๆงวด เป็นต้น ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถจัดการใบมัดจำและการตัดชำระได้สะดวกและยืดหยุ่นมากขึ้น  ตัวอย่างการแสดงข้อมูลเงินมัดจำหน้าเอกสาร ✨ 4. เพิ่มฟังก์ชันการนำเข้าสินค้า/บริการ (Import Product/Service) 4.1 เพิ่มตัวเลือก “แก้ไขสินค้าเดิม” สำหรับอัปเดตข้อมูลที่มีอยู่ 📢สำหรับกิจการที่ต้องการแก้ไขข้อมูลสินค้า/บริการที่มีอยู่ในระบบ สามารถนำเข้าไฟล์ “แก้ไขสินค้าเดิม” โดยผู้ใช้งานสามารถแก้ไขหรืออัปเดตข้อมูลสินค้า/บริการได้จากไฟล์ “แก้ไขสินค้าเดิม” และนำเข้าไฟล์ ระบบจะอัปเดตข้อมูลสินค้าให้อัตโนมัติ ซึ่งในไฟล์นำเข้าจะแบ่งออกเป็น 3 Sheet ดังนี้ โดยข้อมูลสินค้า/บริการที่แก้ไขนั้น รหัสสินค้าจะต้องเป็นรหัสที่มีอยู่ในระบบเท่านั้น หากไม่มีข้อมูลดังกล่าว จะไม่สามารถนำเข้าไฟล์ได้ ซึ่งจะช่วยลดความผิดพลาดและเพิ่มความมั่นใจในการจัดการข้อมูลสินค้าเดิมได้อย่างราบรื่นและแม่นยำ ตัวอย่างไฟล์การแก้ไขสินค้าเดิม 4.2 เพิ่มคอลัมน์ในไฟล์นำเข้าสินค้า/บริการ เพื่อให้ครอบคลุมข้อมูลในระบบ 📢ระบบปรับคำอธิบายและระบุข้อมูลที่จำเป็นในการนำเข้าไฟล์ให้มีความชัดเจนมากขึ้น นอกจากนี้ในไฟล์นำเข้าสินค้า/บริการ ระบบได้มีการเพิ่มคอลัมน์หมายเลข SKU จากแพลตฟอร์ม Shopee, Lazada, และ TikTok Shop หากมีการใส่ข้อมูล SKU เข้าไปแม้ว่ายังไม่ได้ตั้งค่าเปิดใช้งาน เมื่อนำเข้าระบบ ระบบจะเปิดการใช้งาน SKU ให้อัตโนมัติ โดยในการนำเข้าสินค้า/บริการ ระบบจำกัดรายการนำเข้า 1,000 รายการต่อครั้ง เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดและรองรับการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่  ✨ 5. เพิ่มฟังก์ชันการนำเข้าผู้ติดต่อไฟล์ (Import Contact) 5.1 เพิ่มตัวเลือก “แก้ไขผู้ติดต่อเดิม” สำหรับอัปเดตข้อมูลที่มีอยู่ 📢สำหรับกิจการที่ต้องการแก้ไขข้อมูลผู้ติดต่อที่มีอยู่ในระบบ สามารถนำเข้าไฟล์ “แก้ไขผู้ติดต่อเดิม” โดยผู้ใช้งานสามารถแก้ไขหรืออัปเดตข้อมูลผู้ติดต่อได้จากไฟล์ “แก้ไขผู้ติดต่อเดิม” และนำเข้าไฟล์ ระบบจะอัปเดตข้อมูลผู้ติดต่อให้อัตโนมัติ ซึ่งในไฟล์นำเข้าจะแบ่งออกเป็น 3 Sheet ดังนี้ โดยข้อมูลผู้ติดต่อที่แก้ไขนั้น รหัสผู้ติดต่อจะต้องเป็นรหัสที่มีอยู่ในระบบเท่านั้น หากไม่มีข้อมูลดังกล่าว จะไม่สามารถนำเข้าไฟล์ได้ ซึ่งจะช่วยลดความผิดพลาดและเพิ่มความมั่นใจในการจัดการข้อมูลผู้ติดต่อเดิมได้อย่างราบรื่นและแม่นยำ ตัวอย่างไฟล์การแก้ไขผู้ติดต่อเดิม 5.2 เพิ่มคอลัมน์ในไฟล์นำเข้าผู้ติดต่อ เพื่อให้ครอบคลุมข้อมูลในระบบ 📢ระบบปรับคำอธิบายและระบุข้อมูลที่จำเป็นในการนำเข้าไฟล์ให้มีความชัดเจนมากขึ้น นอกจากนี้ในไฟล์นำเข้าผู้ติดต่อ ระบบได้มีการเพิ่มคอลัมน์ให้ระบุประเภทผู้ติดต่อ, สัญชาติ, ข้อมูลที่อยู่จัดส่งเอกสาร, ครบกำหนดชำระ, บุคคลที่ติดต่อได้หลายคน และเพิ่มกลุ่มผู้ติดต่อได้ หากนำเข้าผู้ติดต่อเกิดข้อผิดพลาด กรณีรายชื่อซ้ำ ระบบจะทำการแจ้งเตือนให้ทันที ในการนำเข้าผู้ติดต่อ ระบบจำกัดรายการนำเข้า 1,000 รายการต่อครั้ง ช่วยลดข้อจำกัดและเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้งาน ✨ 6. เพิ่มความยืดหยุ่นในการตั้งราคาโดยกำหนดราคาสินค้า/บริการได้สูงสุด 10 ราคา 📢สำหรับธุรกิจ E-commerce ที่ต้องการจัดการราคาซื้อ-ขายหลายรายการ ระบบเพิ่มการรองรับระบุราคาซื้อ-ขายได้มากขึ้นในหน้าแต่ละสินค้า/บริการ โดยรองรับการเพิ่มรายการได้สูงสุด 10 ราคา ช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้งานในการจัดราคาและทำงานได้สะดวกมากขึ้น ✨ 7. รองรับการชำระเงินผ่าน xplORe Wallet เพื่อเพิ่มความสะดวกในการรับชำระเงิน 📢 สำหรับทุกกิจการ ระบบเพิ่มการรองรับช่องทางการเงิน xplORe Wallet เพื่อรองรับช่องทางการเงินที่หลากหลายมากขึ้น ขอขอบคุณข้อเสนอแนะ จากคุณPrapatsara, บริษัท คงคาแมนูแฟคเจอร์เรอร์ จำกัด

ฟังก์ชันใหม่แนะนำการใช้งาน

3 ขั้นตอนในการจัดทำงบประมาณ

จักรพงษ์

9

min

3 ขั้นตอนพื้นฐานในการจัดทำงบประมาณ

คุณเคยทำธุรกิจไปอย่างไรเป้าหมายไหม? ทำไปเรื่อยๆ รายได้เติบโตขึ้นก็ดีใจ รายได้ลดลงก็เสียใจแต่ธุรกิจก็ยังไปต่อได้ คำถาม คือ ธุรกิจโตแค่ไหนที่เราจะถือว่าปีนั้นประสบความสำเร็จหรือทำได้ตามเป้าหมาย หรือรายได้ลดลงแค่ไหนที่ถือว่าธุรกิจอยู่ในภาวะเสี่ยง คำถามเหล่านี้สามารถตอบได้ด้วยการกำหนดตัวเลขหนึ่งขึ้นมาเพื่อเป็นเป้าหมายที่จะต้องบรรลุให้ได้ในปีนั้น เช่น รายได้ปีนี้ต้องมากกว่าปีที่แล้ว 200% ถ้าเราทำได้ก็ถือว่าบรรลุเป้าหมายขององค์กรและยังสามารถใช้เป็น KPI ของฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการสร้างรายได้ได้ เช่น แผนกขาย แผนกหาลูกค้า เป็นต้น ที่เราพูดกันไปข้างต้นไม่ได้มีแค่มิติในมุมของรายได้ แต่ยังสามารถประยุกต์ใช้กับรายจ่ายได้เช่นกัน รายจ่ายปีนี้ต้องน้อยกว่าปีที่แล้ว หรือให้เพิ่มขึ้นได้ตามสัดส่วนของยอดขาย ถ้ารายจ่ายที่เกิดขึ้นจริงเกินกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ถือว่าแผนกที่เกี่ยวข้องไม่สามารถบรรลุเป้าหมายด้านรายจ่ายนั้นๆ ได้ เช่น แผนกการตลาด แผนกผลิต เป็นต้น สิ่งที่พูดมาข้างต้นคือส่วนหนึ่งของการทำงบประมาณ หรือที่เราเรียกว่าการทำ Budgeting นั่นเอง เชื่อว่าพอเฉลยมาถึงจุดนี้ทุกคนก็น่าจะร้อง อ๋อ มากขึ้น การจัดทำงบประมาณ (Budgeting) คืออะไร? การจัดทำงบประมาณ (ฺBudgeting) คือ การวางแผนรายได้-รายจ่ายล่วงหน้าเป็นตัวเลข ไม่ว่าจะอยู่ในรูปของตัวเงินหรือปริมาณ เช่น กำหนดเป็นจำนวนเงินบาท ปริมาณชิ้นที่ขายได้ หรือจำนวนครั้งที่ใช้ เป็นต้น ซึ่งตัวเลขจะถูกกำหนดตามรอบที่ใช้วัดผล เช่น เป็นรายเดือน รายไตรมาส รายครึ่งหรือ หรือรายปีก็ได้ ไม่ว่าจะวัดผลเป็นรายใดก็ตาม เมื่อครบกำหนดรอบการวัดผล ผู้บริหารจะต้องนำตัวเลขที่เกิดขึ้นจริงมาเทียบกับงบประมาณที่วางแผนไว้ว่าเป็นไปตามแผนที่วางไว้หรือไม่ ซึ่งอาจจะดีหรือแย่กว่าที่ประมาณการไว้ก็ได้ แต่ตัวเลขที่แตกต่างจากผลที่วางไว้ จะต้องหาสาเหตุให้ได้ว่าเกิดจากปัจจัยใดเพื่อวิเคราะห์สาเหตุและใช้ช่วยวางแผนในการจัดทำงบประมาณในครั้งถัดไปได้ 3 ขั้นตอนพื้นฐานในการจัดทำงบประมาณ 1. กำหนดตัวเลขที่อยากได้และเป็นไปได้ เริ่มจากกำหนดเป้าหมาย และกลยุทธ์ของกิจการก่อนว่าอยากไปไกลแค่ไหน เร็วแค่ไหน ด้วยวิธีอะไร เช่น ฝั่งรายได้ ถ้าอยากเติบโตเร็ว ต้องกำหนดเป้าที่ท้าทาย เช่น ยอดขายเพิ่มขึ้น 200-300% พร้อมกำหนดวิธีการที่จะทำให้ยอดขายเป็นไปตามที่กำหนดได้จริง 2. รู้ว่าอะไรที่ขับเคลื่อน (Driver) รายได้และรายจ่าย เช่น ยอดขายอาจถูกขับเคลื่อนด้วยจำนวนชิ้นของสินค้าที่ขายได้ หรือจำนวนตัวแทนจำหน่ายที่หาได้ในแต่ละปี ส่วนค่าใช้จ่ายอาจกำหนดจากจำนวนวัตถุดิบที่ควรใช้ในการผลิตสินค้า 1 ชิ้น หรือจำนวนต้นทุนค่ายิงโฆษณาต่อลูกค้า 1 คนที่หาได้ เป็นต้น สิ่งที่ควรรู้ คือ ตัวขับเคลื่อน(driver)รายได้และรายจ่ายของแต่ละประเภทธุรกิจมีไม่เหมือนกัน ไม่สามารถเลียนแบบของคนอื่นได้ แต่โดยทั่วไปในอุตสาหกรรมเดียวกันจะใช้ตัวขับเคลื่อนคล้ายๆ กัน เช่น ธุรกิจโรงแรมตัวขับเคลื่อนรายได้ คือ จำนวนห้องที่ลูกค้าใช้บริการ แต่ในธุรกิจขายสินค้า จะใช้จำนวนสินค้าที่ขายได้ เป็นต้น 3. ทบทวนภาพรวม เมื่อกำหนดตัวเลขประมาณการของรายได้และรายจ่ายเสร็จแล้ว ให้ทำการทบทวนว่ารายได้ที่กำหนดสอดคล้องกับรายจ่ายที่กำหนดหรือไม่ บางครั้งอาจพบว่าตั้งเป้ายอดขายจากจำนวนชิ้นที่ขายได้สูงขึ้นมาก แต่รายจ่ายด้านการขายและการตลาดเท่าเดิมหรือลดลง ทำให้เราอาจพบความไม่สอดคล้องระหว่างรายได้และรายจ่ายในบางกรณีได้ จริงๆ แล้วขั้นตอนการจัดทำงบประมาณแบบสมบูรณ์มีรายละเอียดที่เยอะกว่านี้มาก แต่ในซีรีย์บทความนี้เราเน้นเรื่องที่เป็นพื้นฐานสำหรับผู้ประกอบการมือใหม่ให้สามารถนำไปใช้ได้โดยง่ายและเข้าใจเร็วที่สุด จึงไม่ได้อธิบายขั้นตอนการจัดทำแบบละเอียดนั่นเอง ตัวอย่างงบประมาณการในระยะเวลา 1 ปี ในฝั่งรายได้ อาจจะไม่ค่อยมีความซับซ้อน เพราะมักมีรายได้หลักของกิจการประเภทเดียว ทำให้การประมาณการจะง่าย เช่น กำหนดเป็นยอดรายได้ที่ต้องการ หรือ% ที่เพิ่มขึ้นของแต่ละไตรมาส เป็นต้น สำหรับส่วนของรายจ่าย มักจะไม่สามารถกำหนดยอดประมาณการเป็นก้อนเดียวได้ เพราะรายจ่ายมีหลายประเภท และแต่ละประเภทจะมีตัวขับเคลื่อน(driver) ที่แตกต่างกัน การจัดทำงบประมาณ (ฺBudgeting) คือ การวางแผนรายได้-รายจ่ายล่วงหน้าเป็นตัวเลขสำหรับรอบระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง เช่น ตัวเลขสำหรับรายได้ รายจ่ายที่ต้องทำได้ภายใน 3 เดือน 6 เดือน หรือ 12 เดือน การวางแผนตัวเลขล่วงหน้า จะช่วยให้การทำธุรกิจสนุก เพราะมีเป้าหมาย และจะหาวิธีเพื่อทำให้เป้าหมายนั้นบรรลุให้ได้ สุดท้ายเมื่อครบกำหนดรอบการวัดผล ผู้บริหารจะต้องนำตัวเลขที่เกิดขึ้นจริงมาเทียบกับตัวเลขที่วางแผนว่าเป็นไปตามแผนที่วางไว้หรือไม่ พร้อมหาสาเหตุว่าอะไรเป็นปัจจัยเชิงบวกและเชิงลบของตัวเลขเหล่านั้น เพื่อใช้ในการวางแผนงบประมาณในครั้งถัดไป สำหรับในตอนถัดไป เราจะคุยกันในเรื่องการใช้เงินให้ถูกประเภท เช่น เงินกู้ที่มาระยะสั้นเพียง 3 เดือน แต่บริษัทนำไปลงทุนก่อสร้างสินทรัพย์ที่ใช้เวลานาน 1 ปี หรือเงินที่กู้มาระยะยาวแต่ใช้สำหรับใช้จ่ายในระยะสั้น ดีหรือไม่ดี และจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของธุรกิจอย่างไรบ้าง เราจะมาไขคำตอบกันในตอนหน้า โปรแกรมบัญชีออนไลน์ PEAK ช่วยผู้ประกอบการจัดการบัญชีอย่างเป็นระบบ รองรับการเติบโต ช่วยให้ธุรกิจก้าวไปสู่ความสำเร็จ ทดลองใช้งานโปรแกรมบัญชี PEAK ฟรี! 30 วัน มูลค่า 1,200 บาทคลิก (ไม่มีค่าใช้จ่าย)PEAK Call Center : 1485LINE : @peakaccountสอบถามเพิ่มเติม คลิก

ความรู้บัญชี

PEAK Account

7

min

Update Function 11/12/2024

PEAK with the new function designed to enhance efficiency. ✨ 1. Developed the bank reconciliation function to enhance work efficiency and convenience. 1.1 Improved the display of information on the reconciliation page for better readability. 📢 For businesses using the bank reconciliation function, the system has been updated to enhance the display on the reconciliation page, allowing more information to be shown. The updates include: These improvements aim to boost efficiency and make data review more convenient and faster. 1.2 Ability to create new transactions directly from the reconciliation page. 📢 For businesses using the Premium, PRO Plus, and Trial packages, that perform bank reconciliation and need to make transactions, the system now offers additional options to create transactions directly from each deposit/payment entry. Users can click the options button (three dots) or right-click to perform actions immediately through the bank reconciliation page. The available options include: These features are designed to streamline document management and enhance efficiency in bank reconciliation processes. ✨ 2. Added the PEAK Payroll system to streamline payroll processing and reduce manual steps. 2.1 Add new employees directly on the payroll processing page. 📢 The system now includes an “Add New Employee” button on the payroll processing page. Users can conveniently add new employee information directly from the payroll page, streamlining the workflow and improving efficiency. 2.2 Adjust accumulated income calculations to be based on a cash basis. 📢 The system now adjusts the calculation of accumulated income displayed on payroll slips. It will calculate based only on payroll payment documents with a “Paid” status. Additionally, a notification has been added to the payroll payment page to inform users about the new calculation criteria. This enhancement ensures that the information is accurate and aligns more closely with the cash-based principle. Example of a Notification Regarding Cumulative Income Calculation. 2.3 Add the option “Income Type 40(2)” on the additional income adjustment page and display it in Form 50 Bis on the payroll summary page. 📢 The system now includes an option for income type 40(2) on the Additional Income page. Users can edit each additional income item by specifying whether it falls under income type 40(1) or 40(2). When generating the year-end payroll summary, the system will automatically pull the data and display income type 40(2) items on the Withholding Tax Certificate (Form 50 Bis) page. This enhancement ensures greater accuracy in managing tax data. Example of Form 50 Bis with income type 40(2). 2.4 Support displaying “Income Type 40(2)” in the tax submission file. (PND.1 Text File) 📢 The system now updates the tax filing Text File for P.N.D. 1 to support income type 40(2) in addition to 40(1). This improvement enables users to file taxes more conveniently and accurately by including both income types in the submission. Example of a Text File with income type 40(2). ✨ 3. Developed the functionality to apply deposit receipts/payments for settling more than one document. 📢 For businesses using deposit receipts/payments, the system now supports applying these documents to offset payment/receipt transactions. Users can choose to apply deposit receipts/payments in two ways: When selecting deposit receipts/payments for offsetting, users can modify the amount and related tax values. On the deposit details page, the system will display the number of deposit documents applied for offsetting, the applied amounts, and the remaining deposit balance for future use. For example, if a deposit receipt is issued and the customer makes partial payments in multiple installments, the system will accurately track these payments.This feature enhances convenience and flexibility in managing deposit receipts and offsetting payments, ensuring efficient financial operations. Example of Deposit Information Display on the Document Page. ✨ 4. Improved the Product/Service Import functionality to simplify data management. 4.1 Add the option “Update Existing Products” to modify current data. 📢 For businesses that need to modify product/service information already in the system, you can now import the “Edit Existing Products” file. This feature allows users to update product/service information efficiently, and the system will automatically update the records. The imported file consists of 3 Sheets: For the products/services you modify, the Product ID must match an existing ID in the system. If a product/service ID does not exist in the system, the file import will fail. This ensures accurate and seamless product/service data management, helping reduce errors and maintain operational efficiency. Example of the “Edit Existing Products” Import File. 4.2 Add new columns in the product/service import file to align with system data requirements. 📢 The system now clarifies the descriptions and required information for importing files, ensuring better accuracy and transparency. Additionally, the product/service import file now includes an SKU column for integration with popular platforms like Shopee, Lazada, and TikTok Shop. If you input an SKU from these platforms—even if it hasn’t yet been configured—the system will automatically activate the SKU upon import. To ensure smooth and efficient data management, the system limits imports to 1,000 items per batch. This helps prevent errors and ensures reliable handling of large datasets. ✨ 5. Improved the Contact Import functionality to make data management more convenient. 5.1 Add the option “Update Existing Contacts” to modify current data. 📢 For businesses that need to modify contact information already in the system, you can now use the “Edit Existing Contacts” import file. This allows users to efficiently update contact details, and the system will automatically refresh the contact information. The imported file is divided into 3 sheets: Contact ID: Must match an existing ID in the system for updates to work correctly. If the contact ID does not exist, the system will reject the file import. By requiring matching IDs, this ensures accurate and seamless management of contact information while minimizing errors. Example of the “Edit Existing Contacts” Import File. 5.2 Add new columns in the contact import file to align with system data requirements. 📢 The system now clarifies descriptions and specifies the required information for importing files to ensure better accuracy. Additionally, the import file for contacts now includes new columns for Contact […]

ฟังก์ชันใหม่แนะนำการใช้งาน