ภาพรวมทำบัญชีสะดวก บันทึกรายได้ ค่าใช้จ่าย ออกเอกสารผ่าน LINE

ทำบัญชีสะดวก บันทึกรายได้ ค่าใช้จ่าย ออกเอกสารผ่าน LINE

ฟังก์ชันการใช้งาน PEAK โปรแกรมบัญชีออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชั่น LINE ดูผลประกอบการ รายงานการเงิน สร้างใบเสนอราคา ใบแจ้งหนี้ ใบเสร็จรับเงิน
บันทึกค่าใช้จ่าย พร้อมเทคโนโลยี OCR บันทึกข้อมูลผ่านการอัปโหลดภาพถ่ายได้ง่ายๆ ผ่าน LINE

24,000 บริษัท
วางใจใช้งาน PEAK

30,000

บริษัท

วางใจใช้งาน PEAK

1,400 พันธมิตรสำนักงานบัญชี

1,400

พันธมิตร

PEAK Family Partner

4  ล้านธุรกรรมต่อเดือน บน PEAK

4

ล้านธุรกรรม/เดือน

ธุรกรรมบน PEAK ต่อเดือน

40,000 ล้าน บาท/เดือน

40,000

ล้าน บาท/เดือน

มูลค่ารายการค้าต่อเดือน

จุดเด่นและฟังก์ชันของ LINE @PEAK Connect ใช้งานโปรแกรมบัญชีผ่านไลน์

สร้างเอกสารบัญชีง่ายๆ ผ่าน LINE

สร้างเอกสารบัญชีง่ายๆ ผ่าน LINE

ไม่ต้องดาวน์โหลดแอปฯ ไม่ต้องเข้าเว็บไซต์

สร้างและจัดส่งเอกสารให้ลูกค้าผ่าน LINE ได้ทันที

บันทึกค่าใช้จ่าย ไม่ตกหล่น

บันทึกค่าใช้จ่าย ไม่ตกหล่น

บันทึกค่าใช้จ่ายไม่ตกหล่น ป้องกันเอกสารสูญหาย

ป้องกันการบันทึกภาษีซ้ำซ้อน

ระบบบันทึกข้อมูลด้วยเทคโนโลยี OCR

ระบบบันทึกข้อมูลด้วยเทคโนโลยี OCR

สะดวกรวดเร็วลดขั้นตอนการทำงาน

ใช้รูปถ่ายบันทึกค่าใช้จ่ายของธุรกิจได้

เรียกดูผลประกอบการได้ทันที

สรุปรายได้ ค่าใช้จ่าย กำไร

ยอดเงินคงเหลือแยกตามบัญชีของกิจการ

LINE @PEAK Connect เหมาะกับใคร? ใช้งานโปรแกรมบัญชีผ่านไลน์ตอบโจทย์ผู้ใช้

ผู้ประกอบการ SME ที่ต้องการ ความสะดวกรวดเร็ว

ผู้ประกอบการ SME ที่ต้องการ ความสะดวกรวดเร็ว

เรียกดูผลประกอบการได้ทันที สรุปรายได้ ค่าใช้จ่าย กำไรและยอดเงินคงเหลือแยกตามบัญชีของกิจการ

พนักงานที่ทำงานนอกสถานที่ที่ต้องการสร้างเอกสารและดูรายงาน

พนักงานที่ทำงานนอกสถานที่ที่ต้องการสร้างเอกสารและดูรายงาน

ไม่ต้องดาวน์โหลดแอปฯ ไม่ต้องเข้าเว็บไซต์ สร้างและจัดส่งเอกสารให้ลูกค้าผ่าน LINE ได้ทันที ส่งเอกสารผ่านลิงก์ เปิดไฟล์ได้ ไม่มีวันหมดอายุ

มารู้จัก PEAK Payroll โปรแกรมเงินเดือน
ออนไลน์ภายใน 3 นาที

มาเรียนรู้และเริ่มต้นใช้งานโปรแกรมคำนวณเงินเดือน
ออนไลน์ได้อย่างมืออาชีพด้วยวิดีโอสอนการใช้งาน
ครบทุกเมนู เพื่อให้คุณเริ่มต้นใช้งานโปรแกรมเงินเดือน
ออนไลน์ PEAK Payroll ได้อย่างมืออาชีพ

ใช้งาน PEAK Account ผ่าน PEAK Connect

ลดขั้นตอนในการทำงาน ลดข้อผิดพลาด ข้อมูลถูกต้อง แม่นยำ และรวดเร็ว ครบทุกเรื่องบัญชี ภาษี และประกันสังคม จบในที่เดียว

ราคาเริ่มต้น 1,200 บาท/เดือน LINE @PEAK Connect ใช้งานโปรแกรมบัญชีผ่านไลน์

บริหารธุรกิจ บัญชี การเงิน
และจัดการเงินเดือนได้ครบวงจร

เริ่มต้นเพียง 1,200 บาท/เดือน

รู้จัก LINE @PEAK Connect ใช้งานโปรแกรมบัญชี
ผ่านไลน์ ใน 2 นาที

จัดการบัญชีได้ง่ายๆ ด้วย LINE @PEAK Connect

คำถามที่พบบ่อยเมื่อใช้ LINE @PEAKConnect

ระบบจะยังไม่บันทึกบัญชีให้ทันทีถ้าใช้งานโปรแกรมบัญชีผ่านไลน์ (Line@PEAK Connect)  แต่จะมี AI ในการช่วยจดจำข้อมูลจากเอกสารที่เคยสร้าง โดยจำจากเลขประจำตัวภาษี 13 หลักที่เคยบันทึกไปก่อนหน้านี้ เมื่อกดบันทึกเอกสารที่คลังเอกสารที่ถูกส่งมาจาก Line ระบบจะแนะนำผังบัญชีที่เคยบันทึกมาให้อัตโนมัติ ทางผู้ใช้งานเพียงแค่ระบุตัวเลขตามบิล และกดอนุมัติเอกสารเท่านั้น ก็ถือว่าเสร็จสิ้นในการสร้างเอกสารรายจ่าย

หากใช้งานโปรแกรมบัญชีผ่านไลน์ (Line@PEAK Connect)  เราจะมีฟังก์ชันสำหรัการถ่ายรูป หรืออัปโหลดรูปเอกสารส่งไปที่คลังเอกสาร เพื่อให้นักบัญชีของกิจการนำข้อมูลไปใช้ต่อ แต่หากมีการอัปโหลดรูปแล้วไม่เข้าให้สังเกตุที่การเข้าสู่ระบบ ใน Line@PEAK Connect ว่าได้มีการกดเข้าสู่ระบบและเลือกกิจการเรียบร้อยแล้วหรือไม่

หากท่านต้องการ Log in ใช้งานโปรแกรมบัญชีผ่านไลน์ แล้วไม่สามารถกด Log in ได้ ระบบแจ้งว่าอีเมลและรหัสผ่านไม่ถูกต้อง สาเหตุเกิดจากตอนที่สมัครใช้งานโปรแกรมผ่านหน้าเว็บได้สมัครโดยใช้การ Sigh in with Google Account ดังนั้นต้องเข้าไปกดลืมรหัสผ่านเพื่อเปลี่ยนวิธีการ Log in ให้เป็นการเข้าสู่ระบบแบบใช้ อีเมลและรหัสผ่านแทน เพื่อเข้าใช้งานโปรแกรมบัญชีผ่านไลน์ (Line@PEAK Connect)

วิธีการกดลืมรหัสผ่านอ่านเพิ่มเติมที่นี่

สามารถใช้ได้โดยใช้งานโปรแกรมบัญชีผ่านไลน์ (Line@PEAK Connect) ซึ่งจะเป็นตัวช่วยในการสร้างเอกสารได้ง่ายๆผ่านมือถือ เอกสารที่รองรับผ่านการสร้างผ่าน Line ในมือถือได้แก่ 

  1. เอกสารรายจ่าย ประกอบไปด้วย บันทึกรายจ่าย

2. เอกสารรายรับ ประกอบไปด้วย ใบเสนอราคา ใบแจ้งหนี้ และใบเสร็จรับเงิน 

ผลิตภัณฑ์ของ PEAK

PEAK Account
โปรแกรมบัญชีออนไลน์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

PEAK Payroll
โปรแกรมเงินเดือนออนไลน์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

PEAK Board
โปรแกรมวิเคราะห์ธุรกิจ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

PEAK Asset
โปรแกรมบริหารจัดการสินทรัพย์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

PEAK Tax
โปรแกรมการจัดการภาษีออนไลน์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

Line @PEAKConnect
ใช้งานโปรแกรมผ่านไลน์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

บทความน่ารู้

หนังสือรับรองรายได้ คืออะไร? รวมทุกเรื่องที่ควรรู้

PEAK Account

13

min

หนังสือรับรองรายได้ คืออะไร? รวมทุกเรื่องที่ควรรู้

หนังสือรับรองรายได้ เป็นเอกสารจำเป็นที่ผู้ประกอบการต้องรู้ เพราะนับเป็นเอกสารสำคัญสำหรับพนักงานในการนำไปใช้ยื่นทำธุรกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเงิน หรือเพื่อเป็นการยืนยันสถานะพนักงาน แต่ถ้าผู้ประกอบการไม่รู้จักเอกสารนี้ดี ออกให้ผิด หรือข้อมูลไม่ครบถ้วน ก็อาจทำให้พนักงานไม่สามารถใช้เอกสารดังกล่าวได้ และเกิดปัญหาตามมา ในบทความนี้เราเลยขอพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับหนังสือรับรองรายได้ และข้อมูลสำคัญที่ต้องมี ทำความรู้จัก หนังสือรับรองรายได้ หนังสือรับรองรายได้ คือ หนังสือที่มักนำไปใช้เป็นหลักฐานในการยืนยันสถานะการเป็นพนักงาน หรือจำนวนเงินเดือนเพื่อแสดงสถานะความมั่นคงทางการเงิน เพราะในเอกสารจะระบุรายได้ของบุคคลดังกล่าวประกอบไปด้วย เงินเดือน เงินพิเศษ หรือโบนัส ซึ่งมักเป็นเอกสารที่จำเป็นต้องใช้เมื่อขอทำธุรกรรมทางการเงิน สมัครบัตรเครดิต กู้เงิน หรือในบางครั้งใช้เป็นหลักฐานประกอบเวลาขอวีซ่าเพื่อเดินทางไปต่างประเทศได้เช่นกัน ซึ่งหนังสือรับรองรายได้มักเป็นรูปแบบของหนังสือรับรองเงินเดือน สำหรับพนักงานประจำ หรือหนังสือรับรองการหักภาษี ณ​ ที่จ่ายสำหรับพนักงานอิสระ ข้อมูลที่ต้องมีในหนังสือรับรองรายได้ ข้อมูลในหนังสือรับรองรายได้มีความสำคัญและต้องระบุทั้งหมดให้ถูกต้องครบถ้วนเพื่อให้เอกสารนั้นสามารถใช้เป็นหลักฐานในการทำธุรกรรมต่าง ๆ ของพนักงานได้ โดยเอกสารหนังสือรับรองรายได้ ในรูปแบบที่เป็น หนังสือรับรองเงินเดือน สำหรับออกให้พนักงานประจำต้องมีข้อมูลดังนี้ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้นายจ้างสามารถทำเป็นร่างเอกสารที่เว้นพื้นที่สำหรับกรอกข้อมูลต่าง ๆ ได้ เพื่อเวลาที่ต้องออกเอกสารให้พนักงานจริง ๆ สามารถทำได้ง่ายและรวดเร็ว ไม่ต้องพิมพ์เอกสารใหม่ทุกครั้ง โดยจากตัวอย่างจะเป็น หนังสือรับรองเงินเดือน ที่เป็นเอกสารรับรองรายได้สำหรับพนักงานประจำ แต่ในกรณีที่เป็นพนักงานอิสระก็สามารถออกเอกสารรับรองรายได้ให้ได้เช่นเดียวกัน หนังสือรับรองรายได้สำหรับพนักงานอิสระ บางบริษัทที่มีการว่าจ้างพนักงานอิสระ หรือ พนักงานฟรีแลนซ์ในการทำงาน โดยพนักงานอิสระที่บริษัทดังกล่าวว่าจ้างก็มีสิทธิ์ที่จะขอหนังสือรับรองรายได้ได้เช่นเดียวกัน โดยเอกสารนี้จะเป็นรูปแบบของเอกสาร 50 ทวิ หรือหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ซึ่งสามารถใช้เป็นหลักฐานในการรับรองรายได้ของพนักงานฟรีแลนซ์ในการทำธุรกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องได้ แต่ในขณะเดียวกันก็ใช้ในการจัดการด้านภาษี อย่างการยื่นขอคืนภาษีได้เช่นเดียวกัน ซึ่งในเอกสาร 50 ทวิจะมีรูปแบบกำหนดมาโดยกรมสรรพากร สามารถนำข้อมูลไปกรอกได้เลย ทั้งนี้อย่าลืมตรวจสอบข้อมูลให้เรียบร้อยก่อนส่งมอบให้พนักงานเพื่อความถูกต้อง โดยในส่วนของวิธีการออก 50 ทวิ สามารถทำได้ผ่านโปรแกรมที่เกี่ยวข้องกับด้านการบริหารบุคคล ที่สามารถลงบันทึกบัญชีและออกเอกสาร 50 ทวิได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และสามารถส่งผ่านอีเมลได้อีกด้วย โดยปกติแล้วหากเป็นพนักงานอิสระ ผู้ประกอบการต้องออกหนังสือ 50 ทวิให้พนักงานทันทีหลังจากที่ทำการจ่ายเงินและหักภาษี ณ ที่จ่ายเรียบร้อยแล้วนั่นเอง หนังสือรับรองรายได้ต้องออกเมื่อไหร่ และใครเป็นผู้ออกหนังสือรับรองรายได้ หนังสือรับรองรายได้ ในกรณีที่เป็นหนังสือรับรองเงินเดือนออกให้พนักงานประจำสามารถออกได้เมื่อมีพนักงานขอ และเป็นหน้าที่ของผู้มีอำนาจในบริษัทสามารถเป็นฝ่ายบุคคล หรือฝ่ายบัญชีขึ้นอยู่กับการมอบหมาย โดยการออกหนังสือรับรองรายได้ ก็เป็นอีกหนึ่งเอกสารที่ต้องให้ความสำคัญในรายละเอียดความถูกต้อง และจำเป็นต้องลงลายมือชื่อของผู้มีอำนาจ หรือลงตราประทับทุกครั้ง เพราะหากมีการปลอมแปลงเอกสารเกิดขึ้น อาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของบริษัทได้ นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้เอกสารทำให้พนักงานสามารถนำไปใช้ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น แต่ในส่วนของพนักงานอิสระ โดยปกติผู้ว่าจ้างต้องออกเอกสาร 50 ทวิให้หลังจากที่ทำการจ่ายเงินและหักภาษี​ ณ ที่จ่ายเสร็จสิ้น และในส่วนของผู้ออกเอกสารก็เป็นหน้าที่ของผู้ได้รับมอบหมาย ขึ้นอยู่กับการจัดการภายในของแต่ละธุรกิจ หลังจากออกเอกสารแล้วหนังสือรับรองรายได้มีอายุการใช้งานถึงเมื่อไหร่? รายได้ของพนักงานสามารถเปลี่ยนแปลงได้ และรวมไปถึงการเปลี่ยนงานของพนักงานเช่นกัน ดังนั้นหนังสือรับรองเงินเดือนจึงมีการกำหนดอายุการใช้งาน ที่หนังสือแต่ละฉบับนั้นสามารถนำไปใช้ในการยื่นทำธุรกรรม หรือใช้เป็นหลักฐานได้ โดยอายุของหนังสือรับรองรายได้ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการใช้งาน โดยสามารถแบ่งได้เป็นสามส่วนดังนี้ หนังสือรับรองรายได้สามารถนำไปใช้ทำอะไรได้บ้าง? โดยส่วนใหญ่การขอหนังสือรับรองรายได้ของพนักงาน มักนำไปใช้ในวัตถุประสงค์ด้านการทำธุรกรรมการเงินกับธนาคาร เพราะหนังสือรับรองรายได้ใช้เป็นหลักฐานรายได้ของพนักงานว่ามีเงินรายเดือน สามารถชำระสินเชื่อหรือบัตรเครดิตได้จริงตามที่กำหนด รวมไปถึงวงเงินบัตรเครดิตที่ทางธนาคารจะให้ก็ขึ้นอยู่กับเงินเดือนในหนังสือรับรองรายได้ของพนักงานเช่นกัน ในส่วนของกรณีการยื่นขอวีซ่า หลายครั้งก็ใช้หนังสือรับรองรายได้เช่นเดียวกัน เพราะนอกจากช่วยแสดงความมั่นคงด้านการเงิน ก็ช่วยเป็นหลักฐานยืนยันได้ด้วยว่าบุคคลดังกล่าวมีอาชีพอยู่ในประเทศไทย เพิ่มโอกาสในการพิจารณาให้วีซ่าของประเทศนั้น ๆ ได้ นอกจากนี้อาจมีเอกสารอื่นประกอบ เช่น เอกสารรับรองการทำงาน ข้อควรระวังในการออกหนังสือรับรองรายได้ หนังสือรับรองรายได้มักใช้เป็นหลักฐานในการทำธุรกรรมต่าง ๆ ของพนักงาน เพราะฉะนั้นในฐานะนายจ้างก็ควรที่จะต้องให้ความสำคัญกับรายละเอียดในเอกสาร เพื่อให้ข้อมูลได้อย่างถูกต้อง และพนักงานสามารถนำเอกสารดังกล่าวไปใช้เป็นหลักฐานตามจุดมุ่งหมายได้จริง ด้วยเหตุผลนี้ทำให้ข้อควรระวังที่ผู้ประกอบการ หรือผู้มีอำนาจในการออกเอกสารควรให้ความสำคัญ คือ ข้อมูลในเอกสารที่ต้องใส่ให้ถูกต้องทั้งหมด และมีการลงนามอย่างชัดเจนเพื่อยืนยันความถูกต้องของเอกสารสามารถนำไปใช้เป็นหลักฐานได้จริง ออกหนังสือรับรองรายได้อย่างไร ให้สะดวก รวดเร็วมากที่สุด การออกหนังสือรับรองรายได้ ถึงแม้จะดูไม่ใช่งานที่ใช้เวลาหรือซับซ้อนมาก แต่ถ้าจำเป็นต้องออกหลาย ๆ ครั้งก็กินเวลาการทำงานของผู้รับผิดชอบไปพอสมควร ดังนั้นเพื่อให้การออกเอกสารนี้ง่ายยิ่งขึ้นเราแนะนำให้มีการทำรูปแบบเตรียมไว้ สามารถกรอกข้อมูลและพิมพ์เอกสารได้สะดวกขึ้นนั้นเองในส่วนของธุรกิจที่มีการจ้างพนักงานอิสระต้องออกใบ 50 ทวิให้อยู่แล้ว และพนักงานอิสระสามารถนำเอกสารนี้ไปใช้เป็นหนังสือรับรองรายได้ แนะนำให้ใช้โปรแกรมเงินเดือนออนไลน์ PEAK ที่มีฟีเจอร์ในการออกเอกสาร 50 ทวิได้อย่างรวดเร็ว พร้อมส่งผ่านอีเมลหรือพิมพ์ออกมาเป็นเอกสาร ช่วยลดขั้นตอนการทำงานที่ยุ่งยากเพื่อประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น ทดลองใช้งานโปรแกรมบัญชี PEAK ฟรี! 30 วัน มูลค่า 1,200 บาทคลิก (ไม่มีค่าใช้จ่าย)PEAK Call Center : 1485LINE : @peakaccountสอบถามเพิ่มเติม คลิก

ความรู้ธุรกิจความรู้บัญชี

รวมวิธี ออกใบเสร็จรับเงิน เลือกใช้แบบไหนให้เหมาะกับธุรกิจ

PEAK Account

16

min

รวมวิธีออก ใบเสร็จรับเงิน เลือกใช้แบบไหนให้เหมาะกับธุรกิจ

วิธีการ ออกใบเสร็จรับเงิน สามารถทำได้หลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละวิธีก็เหมาะสมกับธุรกิจที่แตกต่างกันออกไป ในบทความนี้เรารวบรวมวิธีการทำใบเสร็จรับเงินที่หลายธุรกิจนิยมใช้ พร้อมแนะนำรูปแบบที่เหมาะสมกับธุรกิจในยุคปัจจุบัน ใบเสร็จรับเงิน คืออะไร? ใบเสร็จรับเงิน คือ เอกสารที่ผู้ประกอบการต้องออกให้แก่ลูกค้าเมื่อทำการขายสินค้า โดยใบเสร็จรับเงินเป็นหลักฐานยืนยันว่าผู้ขายได้รับเงินจากผู้ซื้อเรียบร้อยแล้ว ตัวอย่างใบเสร็จรับเงินในแต่ละรูปแบบ ใบเสร็จรับเงินมีรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป ถึงแม้ว่าจะมีวัตถุประสงค์เพื่อการใช้เป็นหลักฐาน แต่ในหลายครั้งใบเสร็จรับเงินก็มักใช้ร่วมกับเอกสารอื่น เช่น ใบกำกับภาษี โดยเห็นตัวอย่างได้จากใบเสร็จที่มีการเขียนกำกับในหัวเอกสารว่า “ใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี” ซึ่งปกติแล้วจะมีเอกสารทั้งหมด 3 รูปแบบ  ซึ่งในรูปแบบที่ 2 และ 3 ที่เป็นใบเสร็จรับเงินและใบกำกับภาษี ผู้ประกอบการที่สามารถออกเอกสารได้ต้องเป็นผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว ในส่วนของรูปแบบที่ 1 มักใช้ธุรกิจที่ยังไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือร้านค้าขนาดเล็ก ไม่ได้มีการใช้ระบบ POS หรือใช้โปรแกรมบัญชีในการออกเอกสาร ส่วนมากจะเขียนเอกสารด้วยมือ ซึ่งจะมีข้อควรระวังในด้านความถูกต้องของเอกสาร เพราะหากออกผิด ไม่ครบถ้วนตามกำหนด ใบเสร็จรับเงินดังกล่าวจะไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานการรับเงินได้ ดังนั้นแล้วสำหรับผู้ประกอบการ การออกใบเสร็จรับเงินจึงเป็นขั้นตอนที่ควรให้ความสำคัญไม่แพ้กับการออกเอกสารอื่น เช่น ใบแจ้งหนี้ หรือใบวางบิล ออกใบเสร็จรับเงิน รูปแบบไหนได้บ้าง? เพื่อลดโอกาสเกิดข้อผิดพลาดในการออกเอกสารของผู้ประกอบการ ในส่วนถัดมาเราจะแนะนำวิธีการสร้างใบเสร็จรับเงินทุกรูปแบบ เพื่อให้ผู้ประกอบการเลือกใช้รูปแบบที่ตอบโจทย์ และเหมาะสมกับธุรกิจ ซึ่งวิธีที่สะดวกที่สุดสามารถทำได้ 3 รูปแบบด้วยกันดังนี้ 1. เขียนด้วยมือ อันดับแรกการเขียนด้วยมือผ่านการใช้กระดาษคาร์บอน ที่มักใช้ในการทำบิลเงินสด วิธีการทำใบเสร็จรับเงินรูปแบบนี้จะมีขั้นตอนที่ง่าย เมื่อรับเงินเสร็จสามารถเขียนให้ลูกค้าได้ทันที แต่ก็มาพร้อมปัญหาที่อาจเกิดจากความผิดพลาดในการเขียนเอกสารจนทำให้ไม่สามารถใช้เอกสารเป็นหลักฐานได้  นอกจากนี้ยังมีขั้นตอนการเก็บรักษาที่ยุ่งยากเพราะเป็นกระดาษจริง ถ้าเก็บเอกสารไม่เป็นระเบียบอาจมีเอกสารสูญหาย หรือต้องใช้เวลานานในการค้นหา โดยเฉพาะในธุรกิจที่ต้องออกใบเสร็จรับเงินเป็นประจำ รวมไปถึงเรื่องของความน่าเชื่อถือของเอกสารที่อาจน้อยกว่ารูปแบบใบเสร็จรับเงินที่พิมพ์ขึ้นมา จึงไม่เหมาะกับธุรกิจที่มีการซื้อขายบ่อย ๆ เนื่องจากอาจทำได้ช้าและจำนวนของใบเสร็จจะมีเยอะมาก หรือแม้กระทั่งธุรกิจที่ต้องติดต่อซื้อขายกับธุรกิจด้วยกันเองบ่อย ความน่าเชื่อถือเป็นเรื่องสำคัญ การใช้เอกสารบิลเงินสดแบบเขียนมือก็อาจลดความน่าเชื่อถือ เสียโอกาสทางธุรกิจไปได้ 2. ใช้โปรแกรมสำนักงานทั่วไป หนึ่งในรูปแบบที่หลายคนมักใช้คือการออกเอกสารผ่านโปรแกรมสำนักงานทั่วไป เช่น Excel หรือ Word ที่สามารถออกเอกสารได้เช่นเดียวกัน ซึ่งจะมีความน่าเชื่อถือมากกว่าการเขียนบิลเงินสดด้วยมือ แต่ก็มักมาพร้อมความยุ่งยากเนื่องจากโปรแกรมเหล่านี้ไม่ได้ถูกคิดค้นมาเพื่อการออกเอกสารประเภทนี้โดยเฉพาะ และถึงแม้ว่าจะเป็นการทำเอกสารผ่านรูปแบบไฟล์ แต่ก็ยังยากในการบันทึกข้อมูล หรือเชื่อมข้อมูลของระบบบัญชี ทำให้อาจยังไม่เหมาะสำหรับการใช้ในธุรกิจมากเท่าที่ควร 3. ใช้โปรแกรมบัญชี โปรแกรมบัญชีเป็นวิธีการสร้างใบเสร็จรับเงินที่เหมาะสมสำหรับการทำธุรกิจมากที่สุด เพราะเป็นโปรแกรมที่เกี่ยวข้องกับด้านการเงินโดยเฉพาะอยู่แล้ว สามารถเชื่อมต่อข้อมูลกับระบบบัญชี นอกจากนี้คือหน้าตาของเอกสารที่สามารถใส่โลโก้ของธุรกิจของเราเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเอกสารได้ นอกจากนี้ในโปรแกรมบัญชีมักสามารถใช้ในการออกเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในขั้นตอนการทำธุรกรรมได้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น ใบเสนอราคา ใบแจ้งหนี้ ใบวางบิล นอกจากนี้หากต้องการออกเอกสารใบเสร็จรับเงินที่เป็นใบกำกับภาษีด้วยก็สามารถทำได้เช่นกัน ผู้ประกอบการ SME เลือกใช้วิธีไหนในการสร้างใบเสร็จรับเงินได้ดีที่สุด? น่าจะสามารถเดาได้ไม่ยากว่ารูปแบบที่เหมาะสมมากที่สุดคือการใช้ โปรแกรมบัญชี ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการ SME ที่ทำธุรกิจแบบ B2B (Business to Business) หรือ B2C (Business to Customer) การมีโปรแกรมบัญชีที่ไม่เพียงแค่การสร้างใบเสร็จรับเงิน แต่ยังสามารถนำไปใช้การจัดการระบบบัญชีหลังบ้านที่เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการเติบโตของธุรกิจโดยเฉพาะก็เป็นเรื่องที่ ยิ่งธุรกิจที่อยู่ในช่วงเริ่มต้น หากมีระบบหลังบ้านที่แข็งแรง เตรียมความพร้อมสู่การเติบโตได้มั่นคงและยั่งยืนวิธีการปรับใช้โปรแกรมบัญชีในการสร้างใบเสร็จรับเงินสำหรับผู้ประกอบการ การปรับใช้โปรแกรมบัญชีในการสร้างใบเสร็จสำหรับธุรกิจเป็นขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อน เพราะโปรแกรมที่ดีมักออกแบบโดยผู้ที่เข้าใจการทำงานด้านบัญชีจริง ๆ และผ่านการออกแบบให้ผู้ประกอบการที่อาจไม่คุ้นเคยกับระบบของบัญชีสามารถเข้าใจได้ง่าย และนอกจากนี้โปรแกรมที่ดีควรมาพร้อมคู่มือการใช้งานที่ครบถ้วนเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถปรับใช้ได้อย่างรวดเร็วมากที่สุด ในส่วนของขั้นตอนการสร้างใบเสร็จรับเงินผ่านโปรแกรมนั้นสามารถทำตามขั้นตอนได้ง่าย ๆ โดยเราขอยกตัวอย่างจากโปรแกรม PEAK ที่สามารถทำตามได้ดังนี้ วิธีการปรับใช้โปรแกรมบัญชีในการสร้างใบเสร็จรับเงินสำหรับผู้ประกอบการ การปรับใช้โปรแกรมบัญชีในการสร้างใบเสร็จสำหรับธุรกิจเป็นขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อน เพราะโปรแกรมที่ดีมักออกแบบโดยผู้ที่เข้าใจการทำงานด้านบัญชีจริง ๆ และผ่านการออกแบบให้ผู้ประกอบการที่อาจไม่คุ้นเคยกับระบบของบัญชีสามารถเข้าใจได้ง่าย และนอกจากนี้โปรแกรมที่ดีควรมาพร้อมคู่มือการใช้งานที่ครบถ้วนเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถปรับใช้ได้อย่างรวดเร็วมากที่สุด ในส่วนของขั้นตอนการสร้างใบเสร็จรับเงินผ่านโปรแกรมนั้นสามารถทำตามขั้นตอนได้ง่าย ๆ โดยเราขอยกตัวอย่างจากโปรแกรม PEAK ที่สามารถทำตามได้ดังนี้ 1. สร้างใบเสร็จรับเงิน ขั้นตอนแรกสามารถคลิกสร้างใบเสร็จรับเงิน โดยการไปที่เมนู รายรับ > ใบเสร็จรับเงิน > +สร้าง 2. ระบุข้อมูลการซื้อขาย ถัดมาเป็นขั้นตอนการกรอกข้อมูลการซื้อขาย รวมไปถึงเลือกว่าต้องการให้ใบเสร็จรับเงินฉบับนั้นเป็น ใบกำกับภาษีด้วยหรือไม่ นอกจากนี้ ผู้ประกอบการควรตรวจสอบข้อมูลการซื้อขายทั้ง ข้อมูลลูกค้า การออกใบกำกับภาษี รายการสินค้า/บริการ จำนวน และราคา ให้ถูกต้องเพื่อลดโอกาสเกิดข้อผิดพลาด 3. อนุมัติใบเสร็จรับเงิน เมื่อระบุข้อมูลและตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว หลังจากนั้นเลือกช่องทางการรับเงิน และกดอนุมัติใบเสร็จรับเงิน เพื่อทำการออกเอกสารได้เลย โดยข้อมูลของการออกใบเสร็จรับเงินจะบันทึกสู่ระบบ สามารถเรียกดูย้อนหลังได้ วิธีตรวจสอบความถูกต้องของใบเสร็จรับเงิน ความถูกต้องของใบเสร็จรับเงินเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ ในส่วนนี้เราพาผู้ประกอบการทุกท่านมาดูกันว่า ก่อนออกใบเสร็จรับเงิน ผู้ประกอบการควรตรวจสอบข้อมูลอะไรบ้าง 1. ข้อมูลผู้ซื้อ และผู้ขาย ไม่ว่าจะเป็นชื่อบริษัท ที่อยู่ หรือเลขประจำตัวผู้เสียภาษี เพราะเป็นข้อมูลที่ใช้ในการระบุถึงตัวตนระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ควรสอบถามข้อมูลที่อยู่ของผู้ซื้อให้ชัดเจน อย่างไรก็ตาม หากเป็นการออกใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษีอย่างย่อ ข้อมูลของผู้ซื้ออาจไม่จำเป็นต้องระบุในเอกสารส่วนนี้ 2. วัน เดือน ปี และลำดับที่ของเอกสาร วัน เดือน ปี และลำดับของเอกสาร เป็นข้อมูลที่หลายคนอาจมองข้าม แต่หากก็เป็นข้อมูลที่สามารถใช้อ้างอิงได้ในกรณีที่ต้องมีการตรวจสอบเอกสารเกิดขึ้น 3. รายละเอียดของสินค้า ในส่วนสำคัญของเอกสารใบเสร็จรับเงิน คือ รายละเอียดของสินค้าหรือบริการ ที่จะระบุถึงข้อมูลการซื้อขาย รวมไปถึงราคาของสินค้า และหากใบเสร็จรับเงินที่ออกเป็นใบกำกับภาษีด้วย ตรวจส่วนนี้ก็ต้องระบุจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มด้วยเช่นเดียวกัน โดยหลักแล้วข้อมูลที่จำเป็นในใบเสร็จรับเงินจะมีทั้งหมด 3 ส่วนด้วยกัน และผู้ประกอบการควรที่จะตรวจสอบทั้ง 3 ส่วนนี้ให้ละเอียด และถูกต้อง เพื่อให้เอกสารถูกต้องและสามารถนำไปใช้งานเป็นหลักฐานการรับเงินได้จริง ทั้งนี้หากเอกสารใบเสร็จรับเงินนั้นเป็นใบกำกับภาษีด้วย ก็จะมีรายละเอียดอื่น ๆ เช่น จำนวนภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมไปถึงการระบุอย่างชัดเจนว่าเอกสารดังกล่าวเป็น ใบกำกับภาษี เริ่มต้นใช้โปรแกรมบัญชีในธุรกิจ เพื่อการออกใบเสร็จรับเงินและการจัดการระบบบัญชีที่ง่ายยิ่งขึ้น ตอนนี้ทุกท่านน่าจะมองเห็นถึงความน่าสนใจ และประโยชน์ของการใช้โปรแกรมบัญชีในการออกใบเสร็จรับเงินกันแล้ว ซึ่งความน่าสนใจคือ การปรับใช้โปรแกรมบัญชีในธุรกิจไม่เพียงแค่การออกใบเสร็จรับเงินเพียงอย่างเดียว แต่ยังช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถจัดการบัญชีอย่างเป็นระบบ ลดโอกาสเกิดข้อผิดพลาดในการบันทึกบัญชี ไปจนถึงการจัดการเอกสารต่าง ๆ ซึ่งโปรแกรมบัญชี PEAK ก็เป็นหนึ่งในโปรแกรมแบบครบวงจรที่สามารถออกใบเสร็จรับเงิน จัดการระบบบัญชี สามารถปรับใช้ในองค์กรได้อย่างรวดเร็ว มาพร้อมคู่มือการใช้งานทุกขั้นตอน เริ่มต้นเตรียมความพร้อมให้ธุรกิจ ด้วยการจัดการบัญชีอย่างเป็นระบบเพื่อรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืน ทดลองใช้งานโปรแกรมบัญชี PEAK ฟรี! 30 วัน มูลค่า 1,200 บาทคลิก (ไม่มีค่าใช้จ่าย)PEAK Call Center : 1485LINE : @peakaccountสอบถามเพิ่มเติม คลิก

ความรู้ธุรกิจความรู้บัญชี

หนังสือรับรองรายได้ คืออะไร? รวมทุกเรื่องที่ควรรู้

PEAK Account

13

min

หนังสือรับรองรายได้ คืออะไร? รวมทุกเรื่องที่ควรรู้

หนังสือรับรองรายได้ เป็นเอกสารจำเป็นที่ผู้ประกอบการต้องรู้ เพราะนับเป็นเอกสารสำคัญสำหรับพนักงานในการนำไปใช้ยื่นทำธุรกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเงิน หรือเพื่อเป็นการยืนยันสถานะพนักงาน แต่ถ้าผู้ประกอบการไม่รู้จักเอกสารนี้ดี ออกให้ผิด หรือข้อมูลไม่ครบถ้วน ก็อาจทำให้พนักงานไม่สามารถใช้เอกสารดังกล่าวได้ และเกิดปัญหาตามมา ในบทความนี้เราเลยขอพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับหนังสือรับรองรายได้ และข้อมูลสำคัญที่ต้องมี ทำความรู้จัก หนังสือรับรองรายได้ หนังสือรับรองรายได้ คือ หนังสือที่มักนำไปใช้เป็นหลักฐานในการยืนยันสถานะการเป็นพนักงาน หรือจำนวนเงินเดือนเพื่อแสดงสถานะความมั่นคงทางการเงิน เพราะในเอกสารจะระบุรายได้ของบุคคลดังกล่าวประกอบไปด้วย เงินเดือน เงินพิเศษ หรือโบนัส ซึ่งมักเป็นเอกสารที่จำเป็นต้องใช้เมื่อขอทำธุรกรรมทางการเงิน สมัครบัตรเครดิต กู้เงิน หรือในบางครั้งใช้เป็นหลักฐานประกอบเวลาขอวีซ่าเพื่อเดินทางไปต่างประเทศได้เช่นกัน ซึ่งหนังสือรับรองรายได้มักเป็นรูปแบบของหนังสือรับรองเงินเดือน สำหรับพนักงานประจำ หรือหนังสือรับรองการหักภาษี ณ​ ที่จ่ายสำหรับพนักงานอิสระ ข้อมูลที่ต้องมีในหนังสือรับรองรายได้ ข้อมูลในหนังสือรับรองรายได้มีความสำคัญและต้องระบุทั้งหมดให้ถูกต้องครบถ้วนเพื่อให้เอกสารนั้นสามารถใช้เป็นหลักฐานในการทำธุรกรรมต่าง ๆ ของพนักงานได้ โดยเอกสารหนังสือรับรองรายได้ ในรูปแบบที่เป็น หนังสือรับรองเงินเดือน สำหรับออกให้พนักงานประจำต้องมีข้อมูลดังนี้ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้นายจ้างสามารถทำเป็นร่างเอกสารที่เว้นพื้นที่สำหรับกรอกข้อมูลต่าง ๆ ได้ เพื่อเวลาที่ต้องออกเอกสารให้พนักงานจริง ๆ สามารถทำได้ง่ายและรวดเร็ว ไม่ต้องพิมพ์เอกสารใหม่ทุกครั้ง โดยจากตัวอย่างจะเป็น หนังสือรับรองเงินเดือน ที่เป็นเอกสารรับรองรายได้สำหรับพนักงานประจำ แต่ในกรณีที่เป็นพนักงานอิสระก็สามารถออกเอกสารรับรองรายได้ให้ได้เช่นเดียวกัน หนังสือรับรองรายได้สำหรับพนักงานอิสระ บางบริษัทที่มีการว่าจ้างพนักงานอิสระ หรือ พนักงานฟรีแลนซ์ในการทำงาน โดยพนักงานอิสระที่บริษัทดังกล่าวว่าจ้างก็มีสิทธิ์ที่จะขอหนังสือรับรองรายได้ได้เช่นเดียวกัน โดยเอกสารนี้จะเป็นรูปแบบของเอกสาร 50 ทวิ หรือหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ซึ่งสามารถใช้เป็นหลักฐานในการรับรองรายได้ของพนักงานฟรีแลนซ์ในการทำธุรกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องได้ แต่ในขณะเดียวกันก็ใช้ในการจัดการด้านภาษี อย่างการยื่นขอคืนภาษีได้เช่นเดียวกัน ซึ่งในเอกสาร 50 ทวิจะมีรูปแบบกำหนดมาโดยกรมสรรพากร สามารถนำข้อมูลไปกรอกได้เลย ทั้งนี้อย่าลืมตรวจสอบข้อมูลให้เรียบร้อยก่อนส่งมอบให้พนักงานเพื่อความถูกต้อง โดยในส่วนของวิธีการออก 50 ทวิ สามารถทำได้ผ่านโปรแกรมที่เกี่ยวข้องกับด้านการบริหารบุคคล ที่สามารถลงบันทึกบัญชีและออกเอกสาร 50 ทวิได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และสามารถส่งผ่านอีเมลได้อีกด้วย โดยปกติแล้วหากเป็นพนักงานอิสระ ผู้ประกอบการต้องออกหนังสือ 50 ทวิให้พนักงานทันทีหลังจากที่ทำการจ่ายเงินและหักภาษี ณ ที่จ่ายเรียบร้อยแล้วนั่นเอง หนังสือรับรองรายได้ต้องออกเมื่อไหร่ และใครเป็นผู้ออกหนังสือรับรองรายได้ หนังสือรับรองรายได้ ในกรณีที่เป็นหนังสือรับรองเงินเดือนออกให้พนักงานประจำสามารถออกได้เมื่อมีพนักงานขอ และเป็นหน้าที่ของผู้มีอำนาจในบริษัทสามารถเป็นฝ่ายบุคคล หรือฝ่ายบัญชีขึ้นอยู่กับการมอบหมาย โดยการออกหนังสือรับรองรายได้ ก็เป็นอีกหนึ่งเอกสารที่ต้องให้ความสำคัญในรายละเอียดความถูกต้อง และจำเป็นต้องลงลายมือชื่อของผู้มีอำนาจ หรือลงตราประทับทุกครั้ง เพราะหากมีการปลอมแปลงเอกสารเกิดขึ้น อาจส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของบริษัทได้ นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้เอกสารทำให้พนักงานสามารถนำไปใช้ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น แต่ในส่วนของพนักงานอิสระ โดยปกติผู้ว่าจ้างต้องออกเอกสาร 50 ทวิให้หลังจากที่ทำการจ่ายเงินและหักภาษี​ ณ ที่จ่ายเสร็จสิ้น และในส่วนของผู้ออกเอกสารก็เป็นหน้าที่ของผู้ได้รับมอบหมาย ขึ้นอยู่กับการจัดการภายในของแต่ละธุรกิจ หลังจากออกเอกสารแล้วหนังสือรับรองรายได้มีอายุการใช้งานถึงเมื่อไหร่? รายได้ของพนักงานสามารถเปลี่ยนแปลงได้ และรวมไปถึงการเปลี่ยนงานของพนักงานเช่นกัน ดังนั้นหนังสือรับรองเงินเดือนจึงมีการกำหนดอายุการใช้งาน ที่หนังสือแต่ละฉบับนั้นสามารถนำไปใช้ในการยื่นทำธุรกรรม หรือใช้เป็นหลักฐานได้ โดยอายุของหนังสือรับรองรายได้ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการใช้งาน โดยสามารถแบ่งได้เป็นสามส่วนดังนี้ หนังสือรับรองรายได้สามารถนำไปใช้ทำอะไรได้บ้าง? โดยส่วนใหญ่การขอหนังสือรับรองรายได้ของพนักงาน มักนำไปใช้ในวัตถุประสงค์ด้านการทำธุรกรรมการเงินกับธนาคาร เพราะหนังสือรับรองรายได้ใช้เป็นหลักฐานรายได้ของพนักงานว่ามีเงินรายเดือน สามารถชำระสินเชื่อหรือบัตรเครดิตได้จริงตามที่กำหนด รวมไปถึงวงเงินบัตรเครดิตที่ทางธนาคารจะให้ก็ขึ้นอยู่กับเงินเดือนในหนังสือรับรองรายได้ของพนักงานเช่นกัน ในส่วนของกรณีการยื่นขอวีซ่า หลายครั้งก็ใช้หนังสือรับรองรายได้เช่นเดียวกัน เพราะนอกจากช่วยแสดงความมั่นคงด้านการเงิน ก็ช่วยเป็นหลักฐานยืนยันได้ด้วยว่าบุคคลดังกล่าวมีอาชีพอยู่ในประเทศไทย เพิ่มโอกาสในการพิจารณาให้วีซ่าของประเทศนั้น ๆ ได้ นอกจากนี้อาจมีเอกสารอื่นประกอบ เช่น เอกสารรับรองการทำงาน ข้อควรระวังในการออกหนังสือรับรองรายได้ หนังสือรับรองรายได้มักใช้เป็นหลักฐานในการทำธุรกรรมต่าง ๆ ของพนักงาน เพราะฉะนั้นในฐานะนายจ้างก็ควรที่จะต้องให้ความสำคัญกับรายละเอียดในเอกสาร เพื่อให้ข้อมูลได้อย่างถูกต้อง และพนักงานสามารถนำเอกสารดังกล่าวไปใช้เป็นหลักฐานตามจุดมุ่งหมายได้จริง ด้วยเหตุผลนี้ทำให้ข้อควรระวังที่ผู้ประกอบการ หรือผู้มีอำนาจในการออกเอกสารควรให้ความสำคัญ คือ ข้อมูลในเอกสารที่ต้องใส่ให้ถูกต้องทั้งหมด และมีการลงนามอย่างชัดเจนเพื่อยืนยันความถูกต้องของเอกสารสามารถนำไปใช้เป็นหลักฐานได้จริง ออกหนังสือรับรองรายได้อย่างไร ให้สะดวก รวดเร็วมากที่สุด การออกหนังสือรับรองรายได้ ถึงแม้จะดูไม่ใช่งานที่ใช้เวลาหรือซับซ้อนมาก แต่ถ้าจำเป็นต้องออกหลาย ๆ ครั้งก็กินเวลาการทำงานของผู้รับผิดชอบไปพอสมควร ดังนั้นเพื่อให้การออกเอกสารนี้ง่ายยิ่งขึ้นเราแนะนำให้มีการทำรูปแบบเตรียมไว้ สามารถกรอกข้อมูลและพิมพ์เอกสารได้สะดวกขึ้นนั้นเองในส่วนของธุรกิจที่มีการจ้างพนักงานอิสระต้องออกใบ 50 ทวิให้อยู่แล้ว และพนักงานอิสระสามารถนำเอกสารนี้ไปใช้เป็นหนังสือรับรองรายได้ แนะนำให้ใช้โปรแกรมเงินเดือนออนไลน์ PEAK ที่มีฟีเจอร์ในการออกเอกสาร 50 ทวิได้อย่างรวดเร็ว พร้อมส่งผ่านอีเมลหรือพิมพ์ออกมาเป็นเอกสาร ช่วยลดขั้นตอนการทำงานที่ยุ่งยากเพื่อประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น ทดลองใช้งานโปรแกรมบัญชี PEAK ฟรี! 30 วัน มูลค่า 1,200 บาทคลิก (ไม่มีค่าใช้จ่าย)PEAK Call Center : 1485LINE : @peakaccountสอบถามเพิ่มเติม คลิก

ความรู้ธุรกิจความรู้บัญชี