สร้างแบบ ภ.พ.30 เพื่อยื่นเพิ่มเติม ภายในเวลาที่กรมสรรพากรกำหนด (PRO Plus)

        สร้างแบบ ภ.พ.30 เพื่อยื่นเพิ่มเติม ใช้ในกรณี ยื่นแบบ ภ.พ.30 ไปแล้วแต่พบว่ามีรายการตกหล่นหรือมีเพิ่มเติม และยังอยู่ในช่วงก่อนวันที่ครบกำหนดการยื่นแบบ สามารถยื่นเพิ่มเติมได้ เพื่อให้ข้อมูลครบถ้วนก่อนปิดรอบภาษี

แนะนำสัมมนา: หากคุณอยากยื่นภาษีรายเดือนผ่าน e-filing ด้วยตนเองได้
หลักสูตร “Workshop การจัดการภาษีรายเดือนสำหรับเจ้าของธุรกิจ”
แม้ไม่เคยใช้ PEAK Tax หรือไม่เคยยื่นภาษีด้วยตนเองมาก่อนก็สามารถทำได้ใน 1 วัน
ใครที่กำลังปวดหัวกับการจัดการภาษีรายเดือน ห้ามพลาด!! ลงทะเบียนรุ่นถัดไปคลิก

ขั้นตอนการสร้างแบบ ภ.พ.30 กรณียื่นเพิ่มเติม ภายในกำหนดเวลา มี 5 ขั้นตอน ดังนี้

  1. ดึงข้อมูลรายการภาษีขายและภาษีซื้อ

  2. สร้างแบบ ภ.พ.30

  3. บันทึกปิดบัญชีภาษีซื้อ ภาษีขาย

  4. ยื่นแบบฟอร์มและชำระเงิน

  5. ดูการบันทึกบัญชี

1. ดึงข้อมูลรายการภาษีขายและภาษีซื้อ สำหรับ สร้างแบบ ภ.พ.30 เพื่อยื่นเพิ่มเติม

คู่มือการดึงข้อมูลแบบ ภ.พ.30

หมายเหตุ: หากกิจการใดมีการตั้งค่าการดึงข้อมูลอัตโนมัติ (Auto Fecth) มาแล้ว ให้ข้ามไปทำรายการขั้นตอนที่ 2 ได้เลย

2. สร้างแบบ ภ.พ.30 เพื่อยื่นเพิ่มเติม

ไปที่เมนูภาษีมูลค่าเพิ่ม > แบบ ภ.พ.30 > ดูภาพรวม

สร้างแบบ ภ.พ.30 เพื่อยื่นเพิ่มเติม โดยเข้าที่ PEAK TAX เข้าภาษีมูลค่าเพิ่ม เลือกแบบ ภ.พ. 30 แล้วกดดูภาพรวม

เลือกงวดภาษี > กด ยื่นเพิ่มเติม

สร้างแบบ ภ.พ.30 เพื่อยื่นเพิ่มเติม โดยเลือกงวดภาษี กดยื่นเพิ่มเติม

2.1 รายการภาษีขาย

ดึงใบกำกับภาษีขายอัตโนมัติ > ตรวจสอบข้อมูล > กด”ต่อไป”

หมายเหตุ : ระบบจะแสดงเลขแบบภ.พ.30 ใหม่ต่อท้ายด้วย “-1” เพื่อแยกจากแบบเดิม

สร้างแบบ ภ.พ.30 เพื่อยื่นเพิ่มเติม ส่วนหน้าแสดงรายการภาษีขาย

หากพบรายการผิดปกติ > แสดงธงแดง/เหลือง > ตรวจสอบซ้ำ > พิมพ์ยืนยันถ้าถูกต้อง > กด “ถัดไป”

สร้างแบบ ภ.พ.30 เพื่อยื่นเพิ่มเติม หน้าแสดงรายการตรวจสอบรายการภาษีโดย AI
สร้างแบบ ภ.พ.30 เพื่อยื่นเพิ่มเติม ส่วนตัวอย่างรายการที่พบข้อผิดพลาด

2.2 รายการภาษีซื้อ

หากมีภาษีซื้อที่ยังไม่ใช้ > ติ๊กออกช่องรายการ > กดปุ่ม “ต่อไป”สร้างแบบ ภ.พ.30 เพื่อยื่นเพิ่มเติม หน้ารายการภาษีซื้อ

หมายเหตุ : ตัวอย่างรูปภาพดังกล่าว ไม่มีการใช้ภาษีซื้อ

3. แบบ ภ.พ. 30

การแสดงผลในแบบจะเป็นการยื่นเพิ่มเติมครั้งที่ 1 > ตรวจสอบความถูกต้อง > กดอนุมัติ

หมายเหตุ : หากเป็นการยื่นเพิ่มเติมภายในกำหนดเวลา จะไม่มีเบี้ยปรับหรือเงินเพิ่ม

3. บันทึกปิดบัญชีภาษีซื้อ ภาษีขาย สำหรับสร้างแบบ ภ.พ.30 เพื่อยื่นเพิ่มเติม

กดบันทึกปิดบัญชี

เลือกวันที่ที่ต้องการบันทึกปิดบัญชี ภ.พ.30 > ยืนยัน

หมายเหตุ: ระบบจะดึงวันที่ปิดบัญชีเป็นวันที่ของงวดภาษีนั้น

4. ยื่นแบบฟอร์มและชำระเงิน

กรณีต้องการยื่นแบบฟอร์ม > กดยื่นแบบฟอร์มแล้ว

เลือกวิธีการยื่นแบบฟอร์ม

  • ยื่นแบบกระดาษ: ใช้กรณีต้องการพิมพ์แบบยื่นภาษีเป็นแบบกระดาษ เพื่อนำไปยื่นกรมสรรพากรตามพื้นที่หรือเก็บเข้าแฟ้ม

  • ยื่นแบบแล้ว: ใช้กรณีงวดภาษีได้มีการยื่นแบบภาษีแล้วเรียบร้อย เพียงสร้างแบบยื่นภาษีย้อนหลังใน PEAK Tax เท่านั้น

จากนั้นกดยืนยัน

กดชำระเงินแล้ว > ระบบจะ Pop-up เพื่อให้ระบุข้อมูล ดังนี้

  • ระบุวันที่บันทึก: วันที่ที่มีการจ่ายชำระเงินค่าภาษี

  • ช่องทางชำระ: ช่องทางการเงินที่ได้มีการจ่ายชำระ

  • กรณีค่าภาษีมีการปรับเศษทศนิยม: ระบุจำนวนเงินที่ต้องการปรับปรุง

กรณีจ่ายชำระค่าภาษีและได้รับใบเสร็จรับเงินการกรมสรรพากร กด “รับใบเสร็จแล้ว

ระบบจะให้เลือกการอัปโหลดใบเสร็จ

  • อัปโหลดใบเสร็จ: สามารถสแกน ถ่ายรูปหรือแนบไฟล์ใบเสร็จเพื่อเก็บเอกสารได้ทันที

  • ไม่อัปโหลดใบเสร็จ: กรณีแบบยื่นภาษีที่สร้างเป็นการสร้างแบบย้อนหลัง ไม่ต้องการอัปโหลดใบเสร็จ สามารถเลือกสถานะไม่อัปโหลดได้

จากนั้นกด ยืนยัน

5. ดูการบันทึกบัญชี

เมื่อได้ทำตามขั้นตอนที่ 4 ยื่นแบบฟอร์มและชำระเงิน หากต้องการดูจากบันทึกบัญชีที่ระบบบันทึกให้อัตโนมัติ สามารถกดที่เลขที่สมุดรายวัน JVTX หรือเลขที่เอกสาร EXP ได้ ระบบจะแสดงข้อมูลให้ทันที

ตัวอย่างการบันทึกปิดบัญชีภาษีซื้อและภาษีขาย

ตัวอย่างการบันทึกค่าใช้จ่าย การชำระเงิน

– จบขั้นตอนวิธีการสร้างแบบ ภ.พ.30 ประเภทยื่นเพิ่มเติม ภายในเวลากำหนด –