เชื่อมต่อระบบ e-Tax invoice by Time Stamp กับ PEAK

วิธีการ เชื่อมต่อระบบ e-Tax invoice by Time Stamp ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจที่ต้องการออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ตามข้อกำหนดของกรมสรรพากร การเชื่อมต่อนี้จะช่วยให้การส่งเอกสารทางภาษีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและถูกต้องตามกฎหมาย ก่อนการเชื่อมต่อกิจการจะต้องทำการยื่นขออนุมัติการใช้ระบบ e-Tax invoice by Time Stamp กับทางกรมสรรพากรก่อน และเมื่อได้รับการอนุมัติให้ใช้แล้ว สามารถเข้าตั้งค่าการใช้งานได้ตามตัวอย่างด้านล่าง โดยแนะนำในตอนทำการสมัครใช้งาน e-Tax invoice by Time Stamp ให้ใช้เป็น Gmail หรือ อีเมลบริษัทที่ใช้บริการ G-Suit เพื่อทำการ Sign in with Google

หลังจากที่ท่านได้รับการอนุมัติให้ใช้ระบบ e-Tax invoice by Time Stamp จากกรมสรรพากรแล้ว การตั้งค่าใน PEAK จะช่วยให้ท่านสามารถออกและส่งใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างง่ายดายและเป็นระบบ ขั้นตอนมีดังนี้

1. เชื่อมต่อระบบ e-Tax invoice by Time Stamp โดยไปที่เมนูตั้งค่า

ไปที่เมนูตั้งค่า > ตั้งค่าเชื่อมต่อระบบภายนอก > เชื่อมต่อ e-Tax Invoice

เชื่อมต่อระบบ e-Tax invoice by Time Stamp ไปที่เมนูตั้งค่า

1.1. เลือก Google

เมื่อเข้ามาที่หน้าตั้งค่า e-Tax Invoice ให้เลือก Google

เชื่อมต่อระบบ e-Tax invoice by Time Stamp เมื่อเข้ามาที่หน้าตั้งค่า e-Tax Invoice ให้เลือก Google

1.2. เชื่อมต่อ Google

คลิกปุ่ม “เชื่อมต่อ” เพื่อเชื่อมต่อ Google

เชื่อมต่อระบบ e-Tax invoice by Time Stamp คลิกปุ่ม "เชื่อมต่อ" เพื่อเชื่อมต่อ Google

1.3. เลือก Email ที่ลงทะเบียนกับทางกรมสรรพากร

เลือก Email ที่ลงทะเบียนกับทางกรมสรรพากร ซึ่งสกุล Mail จะต้องเป็น G-Suite เท่านั้น

เชื่อมต่อระบบ e-Tax invoice by Time Stamp เลือก Email ที่ลงทะเบียนกับทางกรมสรรพากร

1.4. คลิกปุ่ม “Continue”

ทำการคลิกปุ่ม “Continue”

เชื่อมต่อระบบ e-Tax invoice by Time Stamp ทำการคลิกปุ่ม "Continue"

จะเข้ามาที่หน้าขอ access ให้คลิกปุ่ม “Continue”

จะเข้ามาที่หน้าขอ access ให้คลิกปุ่ม "Continue"

เมื่อเชื่อมต่อสำเร็จจะขึ้นตามรูปภาพตามตัวอย่างด้านล่าง
ระบบ PEAK จะใช้ข้อมูล Email ที่มีการตั้งค่าเชื่อมต่อกับ PEAK ไว้ที่เมนู e-Tax Invoice > Google เป็น Email ของผู้ส่งเอกสาร

เมื่อเชื่อมต่อสำเร็จจะขึ้นตามรูปภาพตามตัวอย่างด้านล่าง

2. วิธีการส่งเอกสารใบกำกับภาษี

หลังจากที่ท่านได้ทำการตั้งค่าระบบ e-Tax invoice by Time Stamp ใน PEAK เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการส่งเอกสารใบกำกับภาษี ในหน้าเอกสารใบกำกับภาษีที่ต้องการ
ให้คลิกที่เครื่องหมาย Drop Down ที่ปุ่ม “ส่งเอกสาร” > เลือก e-Tax Invoice

วิธีการส่งเอกสารใบกำกับภาษี

จะมี Pop-up หน้าระบุข้อมูลเพื่อส่ง e-Tax ขึ้นมา
ให้ระบุอีเมลผู้รับใบกำกับภาษีฉบับนี้ตามที่ต้องการ (อีเมลผู้รับจะได้รับได้เพียง 1 อีเมลเท่านั้น ตามข้อมูลการส่งใบกำกับภาษีที่ Etda กำหนด) > จากนั้นคลิกปุ่ม “ส่ง”

จะมี Pop-up หน้าระบุข้อมูลเพื่อส่ง e-Tax ขึ้นมา

3. วิธี การตรวจสอบว่าส่ง e-Tax invoice by Time Stamp สำเร็จหรือไม่

เมื่อกดส่ง e-Tax invoice by Time Stamp ในอีเมลที่ลงทะเบียนการตั้งค่า ท่านจะได้รับอีเมลตอบกลับจากทาง Etda แจ้งการประทับรับรองทางเวลา โดยอีเมลที่ได้รับจากทาง Etda จะมีการส่งถึงผู้ออกใบกำกับภาษี (ผู้ขาย) และผู้รับใบกำกับภาษี (ลูกค้า)

วิธี การตรวจสอบว่าส่ง e-Tax invoice by Time Stamp สำเร็จหรือไม่

นอกจากนี้ เอกสารใบกำกับภาษีใน PEAK จะขึ้นไอคอนสีเขียว แสดงการส่ง e-Tax สำเร็จ ซึ่งช่วยให้ท่านตรวจสอบสถานะการส่งเอกสารได้อย่างง่ายดาย ซึ่งการเชื่อมต่อระบบ e-Tax invoice by Time Stamp ที่สมบูรณ์แบบจะช่วยให้การทำงานของท่านเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

เอกสารใบกำกับภาษีใน PEAK จะขึ้นไอคอนสีเขียว แสดงการส่ง e-Tax สำเร็จ

4. การตรวจสอบเอกสารใบกำกับภาษีว่ามีเอกสารฉบับไหนที่ยังไม่ส่ง e-Tax

สามารถตรวจสอบว่าเอกสารใบกำกับภาษีว่ามีเอกสารฉบับไหนที่ยังไม่ส่ง e-Tax ได้
โดยเข้าตรวจสอบที่เมนูรายรับ > ใบกำกับภาษีขาย > e-Tax Invoice

การตรวจสอบเอกสารใบกำกับภาษีว่ามีเอกสารฉบับไหนที่ยังไม่ส่ง e-Tax

ระบบจะแสดงใบกำกับภาษีขาย และมีคอลัมน์สถานะ ที่แสดงการส่ง e-Tax ว่ามีการส่ง e-Tax หรือยัง
หากสถานะเป็นยังไม่ส่ง ต้องการให้เป็น ส่งสำเร็จ ให้เข้าไปในใบกำกับภาษีฉบับนั้น เพื่อกดส่ง e-Tax

ระบบจะแสดงใบกำกับภาษีขาย และมีคอลัมน์สถานะ ที่แสดงการส่ง e-Tax ว่ามีการส่ง e-Tax หรือยัง

สามารถดูวิดิโอการเชื่อมต่อการส่ง e-Tax Invoice By Email ผ่าน YouTube

– จบขั้นตอนการเชื่อมต่อระบบ e-Tax invoice by Time Stamp –