บันทึกซื้อรถยนต์ และ บันทึกค่าเสื่อมราคา(กรณีซื้อเงินสด) ใน PEAK
การ บันทึกซื้อรถยนต์ บันทึกค่าเสื่อมราคา สำหรับรถยนต์นั่งไม่เกิน 10 ที่นั่ง ที่มีราคาสูงกว่า 1 ล้านบาท มีข้อกำหนดทางภาษีที่ต้องพิจารณาเป็นพิเศษ ตามประกาศของกรมสรรพากร กิจการสามารถบันทึกค่าเสื่อมราคาได้จากฐานราคาทุนไม่เกิน 1,000,000 บาท ซึ่งมีวิธีการบันทึกในโปรแกรม PEAK ดังนี้
หมายเหตุ:คุณสามารถอ่านรายละเอียดข้อกำหนดจากกรมสรรพากรได้ที่ลิงก์นี้ >> 4.4เงื่อนไขการคำนวณกำไรสุทธิตามมาตรา 65 ทวิ
ตัวอย่าง ซื้อรถยนต์ราคา 1,800,000.00 บาท (รวมภาษี) แต่ตามข้อกำหนดสามารถบันทึกค่าเสื่อมของทุนสินทรัพย์ ได้ไม่เกิน 1,000,000 บาท
หลักการคำนวณค่าเสื่อมราคารถยนต์ =มูลค่าซื้อ – มูลค่าคงเหลือ / อายุการใช้งาน
1. การคำนวณหามูลค่าคงเหลือของรถยนต์
1.1 หาราคาของรถยนต์รุ่นที่ซื้อจากตลาดรถยนต์มือ 2 อย่างน้อย 3 เว็บไซต์ นำราคามา + กันและหาร 3 จะได้ยอดมูลค่าคงเหลือ
1.2 หากไม่สามารถหาราคารถยนต์รุ่นนั้นในเว็บไซต์ตลาดรถยนต์มือ 2 ได้ ให้นำราคาซื้อ คูณด้วย 25% เพื่อเป็นมูลค่าคงเหลือ
หมายเหตุ: จากตัวอย่างนี้จะเป็นการคำนวณหามูลค่าคงเหลือโดยใช้สูตรดังนี้ (1,800,000*25%) = มูลค่าคงเหลือ 450,000 บาท
2. เมื่อได้มูลค่าคงเหลือของรถยนต์แล้ว ให้ไปสร้างกลุ่มสินทรัพย์ ตามขั้นตอนดังนี้
2.1 ให้ทำการเพิ่มกลุ่มสินทรัพย์ โดยระบุเป็นรถยนต์ และใส่ยอดมูลค่าคงเหลือไว้ที่ “มูลค่าซาก” 450,000 บาทที่คำนวณไว้เมื่อสักครู่

2.2 จากนั้น ไปที่เมนูรายจ่าย-ซื้อสินทรัพย์ และบักทึกซื้อสินทรัพย์ด้วยราคาเต็ม 1,800,000 บาท

2.3 เมื่อบันทึกซื้อสินทรัพย์ ระบบจะลิงค์ไปบันทึกที่ทะเบียนสินทรัพย์บน PEAK ASSET ให้อัตโนมัติ โดยมีรายละเอียดดังภาพ

3. วิธีการคำนวณค่าเสื่อมราคาส่วนเกินจากมูลค่าราคาทุน 1 ล้านบาท
เนื่องจากเราได้มีการคำนวณหามูลค่าคงเหลือของรถยนต์อยู่ที่ยอด 450,000 บาท ดังนั้นยอดที่ระบบจาก PEAK จะนำมาคำนวณค่าเสื่อมราคาจะเท่ากับยอด 1,350,000 บาท
- 1,350,000 * 20% ค่าเสื่อมราคาจะเท่ากับ 270,000 บาทต่อปี
- ซึ่งในส่วนที่เกินจากค่าเสื่อมราคา ที่นำมาเป็นค่าใช้จ่ายได้ 70,000 บาท จะต้องถูกบวกกลับในการคำนวณ กำไรสุทธิภาษีเงินได้นิติบุคคล
ดูคู่มือการบันทึกสินทรัพย์ยกมาได้ที่ คู่มือบันทึกสินทรัพย์ยกมา
– จบขั้นตอนการบันทึกซื้อรถยนต์ บันทึกค่าเสื่อมราคาราคาทุน –