วิธีการ บันทึกเช่าซื้อและบันทึกค่าเสื่อมราคารถยนต์ ใน PEAK

ในบทความนี้จะกล่าวถึงวิธีการ บันทึกเช่าซื้อและบันทึกค่าเสื่อมราคารถยนต์ ในโปรแกรมบัญชีออนไลน์ PEAK

สำหรับรถยนต์นั่งไม่เกิน 10 ที่นั่ง ที่มีราคาสูงกว่า 1 ล้านบาท มีข้อกำหนดทางภาษีที่ต้องพิจารณาเป็นพิเศษ ตามประกาศของกรมสรรพากร กิจการสามารถบันทึกค่าเสื่อมราคาได้จากฐานราคาทุนไม่เกิน 1,000,000 บาท ซึ่งมีวิธีการบันทึกในโปรแกรม PEAK ดังนี้

หมายเหตุ สามารถอ่านรายละเอียดข้อกำหนดจากกรมสรรพากรได้ที่ลิงก์นี้ > 4.4เงื่อนไขการคำนวณกำไรสุทธิตามมาตรา 65 ทวิ

ตัวอย่าง ซื้อรถยนต์ราคา 1,543,710.25 บาท ภาษีมูลค่าเพิ่ม 108,059.72 บาท แต่ตามข้อกำหนดสามารถบันทึกค่าเสื่อมของทุนสินทรัพย์ ได้ไม่เกิน 1,000,000 บาท

ตัวอย่าง วันที่ 01/01/2025 บริษัทซื้อมา-ขายไป ซื้อรถยนต์ 4 ประตูมาใช้ในกิจการ ราคา 1,543,710.25 บาท โดยวางเงินดาวน์ 532,710.28 บาท ภาษีมูลค่าเพิ่ม 37,289.72 บาท มีภาษีซื้อยังไม่ถึงกำหนด 70,770 บาท (ราคาเต็ม-เงินดาวน์ X 7%) มีอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อแบบลดต้นลดดอก 8.14471% ต่อปีรวมทั้งหมด 131,949.60 บาท

โดยตัวอย่างตารางเช่าซื้อ จะเป็นดังนี้

1. เพิ่มผังบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการ บันทึกเช่าซื้อและบันทึกค่าเสื่อมราคารถยนต์

ก่อนเริ่มบันทึกรายการ ต้องทำการเพิ่มผังบัญชีที่เกี่ยวข้องก่อน โดยไปที่หน้าบัญชี > ผังบัญชี > กดปุ่ม + เพิ่มบัญชี (ดูตัวอย่างการเพิ่มผังบัญชี)

1.1. เพิ่มผังบัญชีดอกเบี้ยเช่าซื้อรอการตัดบัญชี

โดยระบุรายละเอียดดังนี้

1.2. เพิ่มผังบัญชี เจ้าหนี้เช่าซื้อ (กรณีมีเช่าซื้อหลาย Supplier)

คุณสามารถใช้ผังบัญชีที่ 212307-เจ้าหนี้เช่าซื้อ ที่ระบบมีให้ หรือ หากมีการเช่าซื้อหลาย Supplier สามารถสร้างผังบัญชีใหม่ได้ตามต้องการ

2. บันทึกสินทรัพย์ที่เช่าซื้อบน PEAK

ข้อมูลตัวอย่าง (ราคาไม่รวม VAT)

  • ราคารถยนต์ 1,543,710.28 บาท
  • เงินดาวน์ 532,710.28 บาท
  • เจ้าหนี้เช่าซื้อ 1,011,000 บาท (1,543,710.28 – 532,710.28)
  • ภาษีซื้อไม่ขอคืน 37,289.72 บาท (532,710.28 X 7%)
  • จำนวนงวดผ่อน 36 งวด (3 ปี)

ในส่วนของการผ่อนชำระต่อเดือนจะเป็นดังนี้

  • ค่างวดรถ 33,971 บาท
  • ภาษีซื้อไม่ขอคืน 2,222.40 บาท
  • ดอกเบี้ยเช่าซื้อ 6,861.92 บาท
  • ดอกเบี้ยเช่าซื้อรอการตัดบัญชี อัตราดอกแบบลดต้นลดดอก 8.14471% ต่อปีรวมทั้งหมด 131,949.60 บาท

บันทึกเช่าซื้อรถยนต์ที่ PEAK โดยเข้าเมนูรายจ่าย > บันทึกค่าใช้จ่าย > จากนั้นกด “สร้าง”

2.1. การบันทึกเช่าซื้อ

ข้อมูลตัวอย่าง (ราคาไม่รวม VAT)

  • ราคารถยนต์ 1,543,710.28 บาท ( Vat 7%)
  • คงเหลือเงินต้น 1,011,000 บาท
  • ภาษีซื้อยังไม่ขอคืน 37,289.72 บาท (532,710.28 X 7%) กรณีรถยนต์ที่ไม่สามารถใช้ภาษีซื้อได้

หมายเหตุ การที่ต้องบันทึกรถยนต์เป็นบัญชีพัก เนื่องจากต้องทำการไปบันทึกซื้อสินทรัพย์ เพื่อให้ไปลิงก์กับทะเบียนสินทรัพย์ใน PEAK Asset อีกครั้ง

ข้อมูลรายการที่ต้องระบุ

ข้อมูลการชำระเงิน ให้กดปุ่มขั้นสูง > ติ๊กถูกช่องค่าธรรมเนียม หรือรายการปรับปรุง

  • รายการปรับปรุงที่ 1 หักเงินที่ต้องจ่าย | ปรับปรุงด้วยผังบัญชี เจ้าหนี้เช่าซื้อรถยนต์โตโยต้า | จำนวนเงิน 1,222,956.07 บาท (ยอด สินทรัพย์รวม VAT หลังหัก เงินดาวน์ + ดอกเบี้ยเช่าซื้อรอตัดบัญชีรวม VAT)
  • รายการปรับปรุงที่ 2 หักเงินที่ต้องจ่าย I ปรับปรุงด้วยผังบัญชี ภาษีซื้อยังไม่ถึงกำหนด I จำนวนเงิน 37,289.72 บาท

จากนั้นระบุวันที่และช่องทางการชำระเงินดาวน์มูลค่า 570,000 บาท (ราคารวม VAT) แล้วจึงอนุมัติเอกสาร
(ดูวิธีลงทะเบียนใบกำกับภาษีที่นี่)

ตัวอย่างข้อมูลการบันทึกบัญชี

2.2 การสร้างเอกสาร ชำระค่างวดรถยนต์

คลิกที่เมนูรายจ่าย > บันทึกค่าใช้จ่าย > กดสร้าง

เมื่อสร้างเอกสาร ระบุข้อมูลดังนี้

  • เจ้าหนี้เช่าซื้อโตโยต้า 33,971 บาท ( ไม่ระบุ VAT7% )
  • ภาษีซื้อไม่ขอคืน 2,222.40 บาท
  • ดอกเบี้ยจ่าย 6,861.92 บาท (ไม่ระบุ VAT 7%) ยอดบันทึกดอกเบี้ยจ่ายแต่ละเดือนจะไม่เท่ากัน สามารถดูได้ตามรายละเอียดของตารางเช่าซื้อ
  • ภาษีซื้อไม่ขอคืนดอกเบี้ยจ่าย 480.33 บาท

ข้อมูลการชำระเงิน ให้กดปุ่มขั้นสูง > ติ๊กถูกช่องค่าธรรมเนียม หรือรายการปรับปรุง

  • รายการปรับปรุงที่ 1 หักเงินที่ต้องจ่าย | ปรับปรุงด้วยผังบัญชี ภาษีซื้อยังไม่ถึงกำหนด | จำนวนเงิน 2,222.40 บาท (เพื่อกลับรายการภาษีซื้อไม่ขอคืน)
  • รายการปรับปรุงที่ 2 หักเงินที่ต้องจ่าย I ปรับปรุงด้วยผังบัญชี ดอกเบี้ยเช่าซื้อรอตัดบัญชี-โตโยต้า I จำนวนเงิน 6,861.92 บาท
  • ายการปรับปรุงที่ 3 หักเงินที่ต้องจ่าย | ปรับปรุงด้วยผังบัญชี ภาษีซื้อยังไม่ถึงกำหนด | จำนวนเงิน 480.33 บาท (เพื่อกลับรายการภาษีซื้อไม่ขอคืน)

จากนั้นระบุวันที่และช่องทางการชำระเงินดาวน์มูลค่า 33,971 บาท (ราคารวม VAT) แล้วจึงอนุมัติเอกสาร

ตัวอย่างข้อมูลการบันทึกบัญชีค่างวดรถ

3.ทำการสร้างกลุ่มสินทรัพย์เพื่อ บันทึกซื้อรถยนต์ บันทึกค่าเสื่อมราคาทุน

โดยก่อนสร้างกลุ่มสินทรัพย์ ให้คำนวณมูลค่าคงเหลือของรถยนต์ก่อน สามารถคำนวณได้ดังนี้

หลักการคำนวณค่าเสื่อมราคารถยนต์ = มูลค่าซื้อ – มูลค่าคงเหลือ / อายุการใช้งาน

3.1. การคำนวณหามูลค่าคงเหลือของรถยนต์

  • หาราคาของรถยนต์รุ่นที่ซื้อจากตลาดรถยนต์มือ 2 อย่างน้อย 3 เว็บไซต์ นำราคามา + กันและหาร 3 จะได้ยอดมูลค่าคงเหลือ
  • หากไม่สามารถหาราคารถยนต์รุ่นนั้นในเว็บไซต์ตลาดรถยนต์มือ 2 ได้ ให้นำราคาซื้อ คูณด้วย 25% เพื่อเป็นมูลค่าคงเหลือ

หมายเหตุ จากตัวอย่างนี้จะเป็นการคำนวณหามูลค่าคงเหลือโดยใช้สูตรดังนี้ (1,543,710.28 * 25%) = มูลค่าคงเหลือ 385,927.57 บาท

3.2. เมื่อได้มูลค่าคงเหลือของรถยนต์แล้ว ให้ไปที่ PEAK Asset เพื่อสร้างกลุ่มสินทรัพย์

ไปที่ศูนย์รวมแอปพลิเคชัน > เลือก PEAK Asset

บันทึกซื้อรถยนต์ บันทึกค่าเสื่อมราคาราคาทุน ทำการสร้างกลุ่มสินทรัพย์ ไปที่ศูนย์รวมแอปพลิเคชั่น > เลือก PEAK Asset

เข้าที่เมนูทะเบียนสินทรัพย์ > ยานพาหนะ > รถยนต์นั่งไม่เกิน 10 ที่นั่ง > คลิกปุ่ม “เพิ่มกลุ่มสินทรัพย์”

บันทึกซื้อรถยนต์ บันทึกค่าเสื่อมราคาราคาทุน เข้าที่เมนูทะเบียนสินทรัพย์ > ยานพาหนะ > รถยนต์นั่งไม่เกิน 10 ที่นั่ง > คลิกปุ่ม "เพิ่มกลุ่มสินทรัพย์"

ทำการเพิ่มรายละเอียดกลุ่มสินทรัพย์ โดยระบุเป็นรถยนต์ และใส่ยอดมูลค่าคงเหลือไว้ที่ มูลค่าซาก 385,927.57 บาทที่คำนวณไว้เมื่อสักครู่

ระบบจะแสดงกลุ่มสินทรัพย์ที่เพิ่มเข้าไป

ระบบจะแสดงกลุ่มสินทรัพย์ที่เพิ่มเข้าไป

4. ทำการบันทึกซื้อสินทรัพย์เข้ากลุ่มสินทรัพย์รถยนต์

ไปที่เมนูรายจ่าย > ซื้อสินทรัพย์ > สร้าง

ไปที่เมนูรายจ่าย > ซื้อสินทรัพย์ > สร้าง

บันทึกซื้อสินทรัพย์ด้วยราคาเต็ม 1,543,710.28 บาท

ข้อมูลการชำระเงิน ให้กดปุ่มขั้นสูง > ติ๊กถูกช่องค่าธรรมเนียม หรือรายการปรับปรุง

ายการปรับปรุงที่ 1 หักเงินที่ต้องจ่าย | ปรับปรุงด้วยผังบัญชี บัญชีพัก | จำนวนเงิน 1,543,710.28 บาท (เพื่อกลับรายการเอกสารค่าใช้จ่ายที่บันทึกเจ้าหนี้เช่าซื้อ)

ข้อมูลการบันทึกบัญชี

เมื่อบันทึกซื้อสินทรัพย์ ระบบจะลิงก์ไปบันทึกที่ทะเบียนสินทรัพย์บน PEAK ASSET ให้อัตโนมัติ โดยคลิกที่เลขกลุ่มสินทรัพย์

คลิกที่เลขที่สินทรัพย์

ระบบจะแสดงรายละเอียดดังภาพ

5. วิธีการคำนวณค่าเสื่อมราคาส่วนเกินจากมูลค่าราคาทุน 1 ล้านบาท

เนื่องจากเราได้มีการคำนวณหามูลค่าคงเหลือของรถยนต์อยู่ที่ยอด 385,927.57 บาท ดังนั้นยอดที่ระบบจาก PEAK จะนำมาคำนวณค่าเสื่อมราคาจะเท่ากับยอด 1,158,412.71 บาท

  • 1,158,412.71 * 20% ค่าเสื่อมราคาจะเท่ากับ 231,682.54 บาทต่อปี
  • ซึ่งในส่วนที่เกินจากค่าเสื่อมราคา ที่นำมาเป็นค่าใช้จ่ายได้ 31,682.54 บาท จะต้องถูกบวกกลับในการคำนวณ กำไรสุทธิภาษีเงินได้นิติบุคคล

ดูคู่มือการบันทึกสินทรัพย์ยกมาได้ที่ คู่มือบันทึกสินทรัพย์ยกมา

– จบขั้นตอนการบันทึกซื้อรถยนต์ บันทึกค่าเสื่อมราคาราคาทุน –