วิธีการ ตรวจสอบภาษี กรณีไม่ตรงกับงบทดลอง ใน PEAK Tax (ภ.ง.ด. 1, 3 53 และ ภ.พ. 30 และงบทดลองไม่ตรงกัน)

     การ ตรวจสอบภาษี กรณีไม่ตรงกับงบทดลอง ใน PEAK Tax เป็นปัญหาที่นักบัญชีอาจพบเจอได้บ่อย ซึ่งอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ คู่มือนี้จะแนะนำวิธีการตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุของผลต่าง โดยแบ่งเป็น 2 ประเด็นหลักคือ ภาษีหัก ณ ที่จ่าย (ภ.ง.ด.) และภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.30)

เมื่อยอดภาษีหัก ณ ที่จ่าย (ภ.ง.ด.1, 3 และ 53) บน PEAK Tax ไม่ตรงกับงบทดลอง สามารถตรวจสอบได้ 2 กรณี ดังนี้

1. ตรวจสอบภาษี กรณีไม่ตรงกับงบทดลอง ใน PEAK Tax กรณียอดในงบทดลอง > ยอดในรายงานภาษีหัก ณ ที่จ่าย

1.1. เตรียมข้อมูล: พิมพ์รายงานที่เกี่ยวข้อง 3 ฉบับ สำหรับ ตรวจสอบภาษี กรณีไม่ตรงกับงบทดลอง ใน PEAK Tax

1.2. ตรวจสอบข้อมูลเพื่อหาผลต่าง:

นำข้อมูลทั้ง 3 ไฟล์มาเปรียบเทียบกันใน Excel โดยใช้สูตร VLOOKUP เพื่อจับคู่เอกสารจากรายงานภาษี (จากเมนูการเงินและ PEAK Tax) กับรายงานบัญชีแยกประเภท

จากนั้นกรองข้อมูล (Filter) เพื่อหารายการที่ขึ้น #N/A ซึ่งหมายถึงรายการที่มีอยู่ในบัญชีแยกประเภท (งบทดลอง) แต่ไม่มีในรายงานภาษี สาเหตุส่วนใหญ่มักเกิดจากการบันทึกที่สมุดรายวันโดยตรง ทำให้ข้อมูลไม่ถูกส่งไปที่รายงานภาษี

2. ตรวจสอบภาษี กรณีไม่ตรงกับงบทดลอง ใน PEAK Tax กรณียอดในงบทดลอง < ยอดในรายงานภาษีหัก ณ ที่จ่าย

2.1. เตรียมข้อมูล: พิมพ์รายงานที่เกี่ยวข้อง 3 ฉบับ (เช่นเดียวกับกรณีก่อนหน้า)

2.2. ตรวจสอบข้อมูลเพื่อหาผลต่าง:

นำข้อมูลมาเปรียบเทียบใน Excel แต่ครั้งนี้จะใช้รายงานจาก PEAK Tax เป็นหลัก แล้วใช้ VLOOKUP เพื่อจับคู่กับข้อมูลจากบัญชีแยกประเภท

กรองข้อมูลเพื่อหารายการที่ขึ้น #N/A ซึ่งหมายถึงรายการที่มีการบันทึกบน PEAK Tax โดยตรง แต่ไม่มีการบันทึกบัญชีในระบบ PEAK ทำให้ยอดไม่ปรากฏในงบทดลอง

หากต้องการลงบันทึกบัญชีสำหรับรายการเหล่านี้ สามารถดูวิธีการได้จาก การบันทึกบัญชีที่สมุดรายวันโดยตรง

เมื่อยอดภาษีซื้อ-ขาย (ภ.พ.30) บน PEAK Tax ไม่ตรงกับงบทดลอง สามารถตรวจสอบได้ 2 กรณี ดังนี้

3. ตรวจสอบภาษี กรณีไม่ตรงกับงบทดลอง ใน PEAK Tax กรณียอดในงบทดลอง > ยอดในรายงานภาษีซื้อ-ขาย

3.1. เตรียมข้อมูล: พิมพ์รายงาน บัญชีแยกประเภท ของภาษีซื้อหรือภาษีขาย และรายงานภาษีที่เกี่ยวข้องจาก PEAK Tax

3.2. ตรวจสอบข้อมูลเพื่อหาผลต่าง:

นำข้อมูลมาเปรียบเทียบใน Excel โดยใช้บัญชีแยกประเภทเป็นหลัก และใช้ VLOOKUP เพื่อจับคู่กับรายงานภาษีจาก PEAK Tax รายการที่ขึ้น #N/A คือรายการที่บันทึกบัญชีใน PEAK แต่ข้อมูลไม่ถูกดึงไปแสดงที่ PEAK Tax ซึ่งอาจต้องทำการดึงข้อมูลภาษีใหม่อีกครั้ง (วิธีดึงข้อมูล ภ.พ.30)

4. ตรวจสอบภาษี กรณีไม่ตรงกับงบทดลอง ใน PEAK Tax กรณียอดในงบทดลอง < ยอดในรายงานภาษีซื้อ-ขาย

4.1. เตรียมข้อมูล: พิมพ์รายงานเช่นเดียวกับกรณีก่อนหน้า

4.2. ตรวจสอบข้อมูลเพื่อหาผลต่าง:

นำข้อมูลมาเปรียบเทียบใน Excel โดยใช้รายงานภาษีจาก PEAK Tax เป็นหลัก และใช้ VLOOKUP เพื่อจับคู่กับบัญชีแยกประเภท รายการที่ขึ้น #N/A คือรายการที่ถูกสร้างบน PEAK Tax โดยตรง ทำให้ไม่มีการบันทึกบัญชีในระบบ PEAK และไม่ปรากฏในงบทดลอง

– จบขั้นตอน วิธีการตรวจสอบภาษี ภ.ง.ด. 1, 3 53 และ ภ.พ. 30 ที่ PEAK Tax และงบทดลองไม่ตรงกัน –