ผู้ให้ส่วนลด Rebate ใน PEAK

       ผู้ให้ส่วนลด Rebate คือ ส่วนลดที่ส่งเสริมการขายของกิจการ ซึ่งส่วนลด Rebate ไม่ถือเป็นมูลค่าของฐานภาษีมูลค่าเพิ่มในการคำนวณ ซึ่งทางผู้จ่ายเงินจะต้องมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 3.00 ของรางวัล ส่วนลด หรือประโยชน์ใด ๆ เนื่องจากการส่งเสริมการขาย รางวัล ส่วนลด หรือประโยชน์ใด ๆ เนื่องจากการส่งเสริมการขาย ตามคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 118/2545 ในข้อ 1 ตัวอย่างที่ 8

สำหรับกิจการที่เป็น ผู้ให้ส่วนลด Rebate จะมีรูปแบบการให้ส่วนลด 2 กรณี คือ

แบบที่ 1 : ให้ส่วนลด Rebate เป็นเงินสด

แบบที่ 2 : ให้ส่วนลด Rebate เป็นเครดิตการชำระเงินครั้งถัดไป

ตัวอย่างสถานการณ์

กิจการได้ขายสินค้าให้บริษัท บีบี จำกัด (สำนักงานใหญ่) ตามสัญญาซื้อขายจะได้รับส่วนลด Rebate 5% ของยอดซื้อ และจ่ายคืนทุกสิ้นเดือน

  • เดือนพฤศจิกายน ค.ศ.2022 บริษัท บีบี จำกัด มียอดซื้อ 150,000 บาท ได้รับส่วนลด 7,500 บาท

1. กรณี ผู้ให้ส่วนลด Rebate เป็นเงินสด

เมื่อกิจการให้ส่วนลดเป็นเงินสด สร้างเอกสารใบลดหนี้ฝั่งรายรับ แบบไม่อ้างอิงเอกสาร

1.1. ผู้ให้ส่วนลด Rebate ไปที่รายรับ > ใบลดหนี้ > สร้าง

1.2. เลือกรูปแบบใบลดหนี้แบบ ไม่อ้างอิงเอกสารเดิม 

1.3. ผู้ให้ส่วนลด Rebate ขั้นตอนระบุรายละเอียดใบลดหนี้

  • ชื่อผู้ซื้อ

  • วันที่ออก

  • ข้อมูลราคาและภาษี

1.4. ข้อมูลการลดหนี้

  • สาเหตุการลดหนี้

  • คำอธิบายเพิ่มเติม

  • ไม่มีการคืนสินค้า

1.5. รายการลดหนี้ ระบุผังบัญชี 520213 – ค่าส่งเสริมการขาย

  • ภาษี: ไม่มีภาษีมูลค่าเพิ่ม

  • หัก ณ ที่จ่าย 3% ตามคำสั่งกรมสรรพากร

ระบุมูลค่าตามเอกสารเดิมในระบบ

1.6. ข้อมูลการรับชำระเงิน

  • วันที่รับชำระ

  • ช่องทางและยอดเงิน

  • ยอดหัก ณ ที่จ่าย

1.7. เมื่อข้อมูลครบถ้วน กดอนุมัติบันทึกรับใบลดหนี้

ตัวอย่างบันทึกรับใบลดหนี้และการลงบัญชี

ตัวอย่างหนังสือหัก ณ ที่จ่าย

2. กรณีให้ ผู้ให้ส่วนลด Rebate เป็นเครดิต

ขั้นตอนเหมือนการสร้างใบลดหนี้ข้างต้นทุกประการ

แตกต่างในขั้นตอนการนำใบลดหนี้ไปตัดชำระกับใบแจ้งหนี้

2.1. เลือกตัดชำระกับใบแจ้งหนี้เดิมที่ยังค้างยอด

2.2. ระบุเลขที่เอกสาร จำนวนยอดชำระ และยืนยันการตัดชำระ

2.4. เมื่อข้อมูลถูกต้อง กดอนุมัติบันทึกรับใบลดหนี้

ตัวอย่างการลงบันทึกบัญชีและเอกสาร

ตัวอย่างหนังสือหัก ณ ที่จ่าย

– จบขั้นตอนการบันทึกผู้ให้ส่วนลด Rebate –