เตรียมข้อมูลเพื่อเชื่อมต่อ PEAK x Shopee

Shopee เป็นแพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ยอดนิยม เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ขายมากยิ่งขึ้น PEAK จึงรองรับการเชื่อมต่อเพื่อส่งข้อมูลยอดขายจาก Shopee มาบันทึกบัญชีโดยอัตโนมัติ การ เตรียมข้อมูลเพื่อเชื่อมต่อ PEAK x Shopee ให้พร้อมตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้กระบวนการเชื่อมต่อราบรื่นและลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้ คู่มือนี้จะแนะนำ 4 เรื่องหลักที่คุณต้องเตรียมให้พร้อมก่อนเริ่มการเชื่อมต่อ

การเตรียมข้อมูลเพื่อเชื่อมต่อ PEAK x Shopee (4 ส่วนหลัก)

1. การเตรียมข้อมูลผู้ติดต่อ

เนื่องจาก Shopee มีนโยบายเพิ่มความปลอดภัยและปกปิดข้อมูลผู้ซื้อบางส่วน (ดูประกาศ ที่นี่) ทำให้ PEAK ไม่สามารถดึงข้อมูลชื่อ-ที่อยู่จริงของลูกค้าได้ทุกกรณี ดังนั้น ก่อนเริ่มเชื่อมต่อ ควรสร้างผู้ติดต่อกลางสำหรับบันทึกเอกสาร เช่น “ลูกค้า Shopee” ดังตัวอย่าง

วิธีสร้างผู้ติดต่อแบบละเอียด 

  1. กดเลือกเมนู “ผู้ติดต่อ” > คลิก “+ เพิ่มผู้ติดต่อใหม่”
  2. ระบบจะแสดงกล่องสำหรับเพิ่มผู้ติดต่อ
  3. กำหนดข้อมูลผู้ติดต่อตามตัวอย่างด้านล่างนี้ > จากนั้นกดปุ่ม “เพิ่ม” เพื่อสร้างผู้ติดต่อ

2. การเตรียมข้อมูลสินค้าและรหัส SKU (ส่วนสำคัญในการ เตรียมข้อมูลเพื่อเชื่อมต่อ PEAK x Shopee)

ขั้นตอนนี้เป็นการเตรียมฐานข้อมูลสินค้าบน PEAK ให้มีข้อมูลตรงกับ Shopee เพื่อให้ระบบสามารถจับคู่ข้อมูลและตัดสต็อกได้อย่างถูกต้อง โดยจะอ้างอิงจากรหัส Shopee SKU เทียบกับรหัสสินค้าใน PEAK

ข้อควรรู้: ระบบ PEAK ยังไม่รองรับการขายแบบจัดชุดสินค้า หรือสินค้าที่มีหลายตัวเลือกใน SKU เดียว ดังนั้นจะต้องทำการสร้างรหัสสินค้าบน PEAK แบบ 1 รหัส ต่อ 1 SKU เช่น หากขายเสื้อมี 3 ไซส์ (S, M, L) จะต้องสร้างสินค้าบน PEAK ทั้งหมด 3 รหัส แยกตามไซส์

วิธีดูข้อมูลรหัส Shopee SKU 

ในหน้า Shopee Seller Centre > จัดการสินค้า คุณสามารถดูรหัส SKU ของสินค้าแต่ละรายการได้ หรือ Export ข้อมูลสินค้าทั้งหมดออกมาเป็นไฟล์ Excel เพื่อดูข้อมูลใน Column “เลข SKU” และ “Parent SKU” (สำหรับสินค้าไม่มีตัวเลือก)

หากสินค้าของคุณยังไม่มีเลข SKU สามารถดูวิธีการแก้ไขสินค้าเป็นชุดได้ที่ คู่มือของ Shopee

การตั้งค่ารหัสสินค้าบน PEAK ให้จับคู่กับ Shopee SKU ได้ มี 2 รูปแบบ ดังนี้

รูปแบบที่ 1: ตั้งค่ารหัสสินค้า PEAK เป็นรหัสเดียวกับ Shopee SKU

คุณสามารถนำรหัส Shopee SKU มาตั้งเป็น “เลขที่สินค้า” บน PEAK ได้โดยตรง เมื่อตั้งค่าการเชื่อมต่อ ให้เลือกจับคู่ข้อมูลระหว่าง PEAK: “เลขที่สินค้า” กับ Shopee: “เลข SKU”

(ดูวิธีเพิ่มสินค้าอย่างละเอียดได้ที่: การเพิ่มสินค้า NI001)

รูปแบบที่ 2: เปิดใช้งานฟังก์ชัน “รหัสสินค้า (SKU)” บน PEAK

วิธีนี้เหมาะสำหรับกรณีที่ต้องการใช้รหัสสินค้าบน PEAK คนละรหัสกับ Shopee SKU หรือขายหลายแพลตฟอร์มและต้องการตัดสต็อกที่เดียวกัน โดยคุณต้องเปิดใช้งานฟังก์ชัน “รหัสสินค้า (SKU)” ในหน้าตั้งค่านโยบายบัญชีของ PEAK ก่อน จากนั้นเข้าไปที่หน้ารายละเอียดสินค้าแต่ละรายการเพื่อระบุ Shopee SKU ในช่องสำหรับ Shopee

เมื่อตั้งค่าการเชื่อมต่อ ให้เลือกจับคู่ข้อมูลระหว่าง PEAK: “เลข Shopee SKU” กับ Shopee: “เลข SKU”

(ดูวิธีเพิ่มสินค้าอย่างละเอียดได้ที่: การเพิ่มสินค้า NI001)

3. การเตรียมข้อมูลช่องทางการเงิน (e-Wallet)

เมื่อลูกค้าชำระเงินให้ร้านค้าผ่าน Shopee ยอดเงินจะถูกพักไว้ในกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Wallet) ของแพลตฟอร์มก่อน คุณจึงควรสร้างช่องทางการเงินประเภท e-Wallet สำหรับ Shopee ไว้ใน PEAK เพื่อใช้บันทึกยอดขายให้ถูกต้อง

4. การเตรียมข้อมูลผังบัญชี (ขั้นตอนสุดท้ายเพื่อ เตรียมข้อมูลเพื่อเชื่อมต่อ PEAK x Shopee)

สำหรับผังบัญชีเบื้องต้นที่ระบบ PEAK มีให้ และสามารถนำมาใช้บันทึกบัญชีจากการขายผ่าน Shopee ได้ มีดังนี้

  • การบันทึกรายได้จากการขาย: ใช้ผังบัญชี 410101 – รายได้จากการขายสินค้า
  • การบันทึกส่วนลด: ใช้ผังบัญชี 410302 – ส่วนลดจ่าย
  • การบันทึกรายได้ค่าส่ง: ใช้ผังบัญชี 420108 – รายได้อื่น

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรับรู้รายได้และภาษีมูลค่าเพิ่มของค่าส่ง

ค่าส่งสินค้าที่ร้านค้าสามารถรับรู้เป็นรายได้ของกิจการได้ จะมีเฉพาะยอดส่วนต่างที่ลูกค้าชำระค่าส่งเข้ามาเท่านั้น ส่วนคูปองส่งฟรีที่ลูกค้าใช้ถือเป็นค่าใช้จ่ายของทาง Shopee และไม่สามารถนำมารับรู้เป็นรายได้ของร้านค้าได้

สำหรับการรับรู้ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ของค่าส่ง จะขึ้นอยู่กับว่ากิจการได้จดทะเบียนประกอบการขนส่งเป็นปกติธุระหรือไม่ สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จาก ข้อหารือของกรมสรรพากร

– จบขั้นตอนเตรียมข้อมูลเพื่อเชื่อมต่อ PEAK x Shopee –