
รัฐบาลประกาศ 3 มาตรการภาษีกระตุ้นท่องเที่ยวภายในประเทศในช่วงปลายปี 2568 เพื่อให้เกิดการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ และช่วยผู้ประกอบการในภาคการท่องเที่ยว โรงแรม และธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้อง โดยมาตรการทั้งหมดเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป
มาตรการภาษีกระตุ้นท่องเที่ยว 2568 แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ได้แก่
1. มาตรการเที่ยวดีมีคืน สำหรับประชาชนทั่วไป
2. มาตรการภาษีสนับสนุนการจัดอบรม/สัมมนาในประเทศ สำหรับบริษัทและห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล

1. มาตรการ “เที่ยวดีมีคืน” สำหรับประชาชนทั่วไป
มาตรการภาษีกระตุ้นท่องเที่ยว 2568 ข้อแรก คือ มาตรการเที่ยวดีมีคืน ซึ่งเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปสามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีจากการเดินทางภายในประเทศได้
ผู้มีสิทธิ์:
บุคคลธรรมดาที่มีเงินได้และต้องยื่นภาษีประจำปีภาษี 2568
ค่าใช้จ่ายที่ใช้สิทธิ์ได้:
- ค่าที่พักจากโรงแรม รีสอร์ท โฮมสเตย์ ที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย
- ค่าอาหารและเครื่องดื่มจากร้านอาหารที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
- ค่าใช้จ่ายต้องเป็นรายการที่ชำระให้กับผู้ประกอบการภายในประเทศเท่านั้น
ช่วงเวลาที่ใช้สิทธิ์:
วันที่ 29 ตุลาคม 2568 – 15 ธันวาคม 2568
เงื่อนไขการลดหย่อนภาษี:
- หากท่องเที่ยวใน “เมืองรอง” สามารถหักลดหย่อนได้ 1.5 เท่าของจำนวนเงินที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 30,000 บาท
- หากท่องเที่ยว “นอกจากเมืองรอง” สามารถหักลดหย่อนได้ 1 เท่าของจำนวนเงินที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 20,000 บาท
เอกสารที่ต้องใช้ประกอบการยื่นภาษี:
- ค่าที่พักและค่าบริการของร้านอาหารไม่เกิน 20,000 บาท
- 10,000 บาทแรก: ใช้ใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบได้ทั้งแบบกระดาษและแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice)
- 10,000 บาทถัดไป: ต้องใช้ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) เท่านั้น
แบบภาษีที่ใช้ยื่น:
ภ.ง.ด.90 หรือ ภ.ง.ด.91 (ยื่นออนไลน์ภายในวันที่ 8 เม.ย. 69)
2. มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการจัดอบรม/สัมมนาในประเทศ สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
มาตรการภาษีกระตุ้นท่องเที่ยว 2568 กลุ่มที่สอง มุ่งช่วยภาคธุรกิจและองค์กรให้เกิดการเดินทางและกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ
ผู้มีสิทธิ์:
บริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จัดอบรม สัมมนา หรือกิจกรรมภายในประเทศให้กับพนักงาน
ค่าใช้จ่ายที่ใช้สิทธิ์ได้:
- ค่าเช่าสถานที่จัดอบรมหรือสัมมนา
- ค่าห้องพักพนักงาน
- ค่าอาหาร เครื่องดื่ม และบริการที่เกี่ยวข้องกับการจัดกิจกรรม
- ค่าขนส่งและบริการนำเที่ยว ที่เกี่ยวข้องกับการอบรมโดยตรง
- รายจ่ายต้องเป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการจัดอบรมหรือสัมมนาภายในประเทศเท่านั้น
ช่วงเวลาที่ใช้สิทธิ์:
วันที่ 29 ตุลาคม 2568 – 15 ธันวาคม 2568
เงื่อนไขการหักรายจ่ายทางภาษี:
- หากจัดกิจกรรมใน “เมืองรอง” สามารถหักรายจ่ายได้ 2 เท่าของจำนวนที่จ่ายจริง
- หากจัดกิจกรรมใน “นอกจากเมืองรอง” สามารถหักรายจ่ายได้ 1.5 เท่าของจำนวนที่จ่ายจริง
เอกสารที่ต้องใช้ประกอบการยื่นภาษี:
- ต้องมีหลักฐานการชำระเงินในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) เท่านั้น
- สำหรับค่าขนส่ง สามารถใช้หลักฐาน e-Receipt ได้
- ต้องระบุชื่อบริษัทผู้จัดกิจกรรมชัดเจน และเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นภายในช่วงเวลาที่กำหนด
แบบภาษีที่ใช้ยื่น:
ภ.ง.ด.50
3. มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงโรงแรมที่พัก สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม
มาตรการภาษีกระตุ้นท่องเที่ยว 2568 กลุ่มสุดท้าย มุ่งส่งเสริมให้ธุรกิจโรงแรมและที่พักกลับมาฟื้นตัวหลังจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
ผู้มีสิทธิ์:
บริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบกิจการโรงแรม หรือที่พักที่จดทะเบียนถูกต้อง
ค่าใช้จ่ายที่ใช้สิทธิ์ได้:
- รายจ่ายเพื่อการปรับปรุง ต่อเติม หรือขยายพื้นที่ของโรงแรม
- รายจ่ายในการติดตั้งหรือเปลี่ยนแปลงทรัพย์สินถาวร เช่น ระบบไฟฟ้า สุขาภิบาล เฟอร์นิเจอร์ที่ติดตั้งถาวร
- รายจ่ายที่ทำให้ทรัพย์สินเกิดมูลค่าเพิ่ม ไม่ใช่การซ่อมแซมเพื่อคงสภาพเดิม
- รายจ่ายต้องเกี่ยวข้องโดยตรงกับการปรับปรุงโรงแรม และไม่ใช่การซ่อมแซมทั่วไป
ช่วงเวลาที่ใช้สิทธิ์:
วันที่ 29 ตุลาคม 2568 – 31 มีนาคม 2569
เงื่อนไขการหักรายจ่าย:
หักรายจ่ายได้ 2 เท่าของจำนวนที่จ่ายจริง
- เท่าที่ 1: หักเป็นค่าเสื่อมราคาตามหลักเกณฑ์ปกติ
- เท่าที่ 2: ทะยอยหักรายจ่ายเป็นระยะเวลา 20 รอบบัญชี ในจำนวนเท่ากันทุกปี
เอกสารที่ใช้ประกอบการยื่นภาษี:
- ใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ (กระดาษหรือ e-Tax Invoice)
- ใบเสร็จรับเงิน หลักฐานการชำระเงินในนามของกิจการโรงแรม
- เอกสารการอนุญาตหรือแบบแปลนการปรับปรุง เพื่อยืนยันว่าเป็นการปรับปรุงต่อเติมจริง
แบบภาษีที่ใช้ยื่น:
ภ.ง.ด.50
สินเชื่อเสริมจากภาครัฐ ช่วยผู้ประกอบการโรงแรมปรับปรุงกิจการ
ภาครัฐได้มอบหมายให้ธนาคารออมสินจัดเตรียมสินเชื่อ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ต้องการลงทุนปรับปรุงโรงแรมในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย
ข้อมูลจาก: กรมสรรพากร – ข่าวประชาสัมพันธ์ มาตรการภาษีกระตุ้นการท่องเที่ยว 2568
ออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ได้ง่าย ๆ ด้วย PEAK
ระบบ PEAK รองรับ e-Tax Invoice & e-Receipt ตามมาตรฐานกรมสรรพากร
คลิกดู ตัวอย่างการส่ง e-Tax Invoice ให้ลูกค้าง่าย ๆ บน PEAK
ทดลองออกใบกำกับภาษีฟรี (ไม่มีค่าใช้จ่าย)
คลิก https://www.peakaccount.com
PEAK Call Center : 1485
LINE : @peakaccount
สอบถามเพิ่มเติม คลิก https://m.me/peakengine
