
เอาใจผู้ใช้งานโปรแกรม PEAK ด้วยฟังก์ชันใหม่ที่ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
✨ 1. ลดโอกาสผิดพลาด! วันที่ใบกำกับภาษีปรับตามวันที่ออกเอกสารอัตโนมัติ

📢 ระบบปรับให้ช่อง “วันที่ใบกำกับภาษี” เปลี่ยนตาม “วันที่ออก” เอกสารอัตโนมัติ ผู้ใช้งานไม่ต้องคอยแก้ไขเอง ช่วยลดความผิดพลาดจากการกรอกข้อมูลผิด
- กรณีผู้ใช้งานมีการเปลี่ยนเลขที่ใบกำกับภาษี ระบบจะปรับวันที่ใบกำกับภาษีให้ใหม่ตามวันที่ออกล่าสุด
- กรณีแก้ไขวันที่ใบกำกับภาษีเองแล้วกดบันทึก ระบบจะยึดวันที่นั้นไว้จนกว่าจะมีการเปลี่ยนเลขที่อีกครั้ง
โดยการปรับวันที่ใบกำกับภาษีนี้ ระบบรองรับทั้งในหน้าสร้างและแก้ไขเอกสาร เพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกและช่วยให้ทุกกิจการบันทึกข้อมูลใบกำกับภาษีได้แม่นยำยิ่งขึ้น
✨ 2. บันทึกวันที่ยื่นภาษีง่ายขึ้นที่ PEAK Tax! แนะนำวันที่ยื่นอัตโนมัติตามปฏิทิน พร้อมเพิ่มตัวเลือก “ยื่นแบบแล้ว” กรณีสร้างแบบยื่นภาษีย้อนหลัง

📢 สำหรับผู้ใช้งาน PEAK TAX ระบบเพิ่มความสะดวกในการกรอกข้อมูลบนหน้า “ยื่นภาษี” โดย กำหนดค่าเริ่มต้นวันที่ยื่นแบบให้ตรงตามปฏิทินกรมสรรพากร ช่วยลดการกรอกข้อมูลซ้ำซ้อนและป้องกันความผิดพลาดจากการลืมเปลี่ยนวันที่ยื่นแบบ นอกจากนี้ระบบเพิ่มตัวเลือก “ยื่นแบบแล้ว” สำหรับผู้ที่ยื่นแบบภาษีผ่านช่องทางอื่นมาแล้วและเพิ่งมาบันทึกในระบบ ช่วยให้ไม่ต้องดาวน์โหลดไฟล์อีกครั้งและสามารถเก็บข้อมูลได้อย่างถูกต้อง
✨ 3. ย้อนดูข้อมูล Dashboard ย้อนหลังได้สูงสุด 5 ปี พร้อมปุ่มลูกศรดูข้อมูลได้สะดวกขึ้น

📢 ระบบปรับให้ผู้ใช้งานสามารถดูข้อมูล Dashboard ย้อนหลังในแต่ละเมนูได้สูงสุดถึง 5 ปี เพื่อให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลย้อนหลังและเปรียบเทียบผลได้ง่ายยิ่งขึ้น โดย Dashboard ที่ระบบเพิ่มให้ดูข้อมูลย้อนหลัง มีดังนี้
- Dashboard แต่ละสินค้า
- รายงานเงินเข้า-เงินออก ที่เมนูการเงิน
- Dashboard หน้า PEAK Board
- Dashboard หน้า PEAK Payroll
นอกจากนี้ ระบบเพิ่มปุ่มลูกศรซ้าย-ขวาบนหน้า Dashboard (หน้าหลัก / รายรับ / รายจ่าย) เพื่อให้ผู้ใช้งานเลื่อนดูข้อมูลเดือนก่อน-เดือนถัดไปได้สะดวกยิ่งขึ้น
✨ 4. เปลี่ยนสถานะเอกสารใบเสนอราคาและใบสั่งซื้อได้หลายรายการในคลิกเดียว!

📢 สำหรับทุกกิจการที่ต้องจัดการใบเสนอราคา (QO) และใบสั่งซื้อ (PO) จำนวนมาก ระบบเพิ่มฟีเจอร์ให้สามารถเลือกเอกสารหลายรายการและเปลี่ยนสถานะพร้อมกันได้ทันที โดยสามารถเลือกได้ว่าจะเปลี่ยนสถานะตามเงื่อนไขของระบบหรือเปลี่ยนให้เป็น “ออกครบแล้ว” ทั้งหมดในครั้งเดียว ช่วยให้จัดการเอกสารได้รวดเร็ว ประหยัดเวลา และลดข้อผิดพลาดจากการเปลี่ยนทีละใบ
ตัวอย่างการแจ้งเตือนกรณีเอกสารไม่ตรงกับเงื่อนไขสถานะออกครบแล้ว

✨ 5. ปรับเอกสารใบขอซื้อ (PR) ไม่จำเป็นต้องกรอกชื่อผู้ติดต่ออีกต่อไป

📢 สำหรับแพ็กเกจ Premium ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการจัดทำเอกสารใบขอซื้อ (PR) ระบบปรับให้ช่อง “ผู้ติดต่อ” ไม่บังคับให้ระบุเมื่อสร้างเอกสารอีกต่อไป โดยผู้ใช้งานสามารถเว้นว่างไว้ได้หากยังไม่ทราบข้อมูล หรือยังไม่จำเป็นต้องระบุในขั้นตอนการขอซื้อ ทั้งนี้ หากใบสั่งซื้อ (PO) ถูกสร้างต่อจาก ใบสั่งซื้อ (PR) และมีการระบุชื่อผู้ติดต่อไว้ ระบบจะยังคงล็อกชื่อผู้ติดต่อดังกล่าวไว้เช่นเดิม เพื่อความแม่นยำในการดำเนินการขั้นถัดไป
✨ 6. ปรับดีไซน์หน้าเช็ครับ-จ่ายใหม่ ใช้ง่ายกว่าเดิม พร้อมรายงานที่ตรงตามการแสดงผลในระบบ

📢 ผู้ใช้งานสามารถจัดการเช็ครับและเช็คจ่ายได้ง่ายขึ้น ด้วยหน้าแสดงผลใหม่ที่ถูกออกแบบให้สอดคล้องกับหน้ารายการเอกสารทั่วไป มองเห็นสถานะเช็คได้ชัดเจน และค้นหาง่ายขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ การพิมพ์รายงานเช็คก็ถูกปรับให้ใช้งานสะดวกยิ่งขึ้น — พิมพ์รายงานตามแถบสถานะที่เปิดอยู่ และเรียงลำดับตามที่แสดงในระบบจริง พร้อมเพิ่มคอลัมน์ “จ่ายเงินออก” ในรายงานเช็คจ่าย เพื่อให้การติดตามข้อมูลชัดเจนและตรงจุดยิ่งขึ้น
✨ 7. พิมพ์รายงานสินค้าคงเหลือแสดงเลข SKU แพลตฟอร์มและ Barcode ได้แล้ว

📢 สำหรับธุรกิจ e-commerce ผู้ใช้งานสามารถพิมพ์รายงานสินค้าคงเหลือ ให้แสดงข้อมูลรหัสสินค้าอื่น ได้แก่ เลข SKU แต่ละแพลตฟอร์มและ Barcode ได้แล้ว โดยเลือกติ๊กที่ช่อง “แสดงรหัสสินค้าอื่น” บนหน้าต่างพิมพ์รายงานเพื่อเพิ่มคอลัมน์แสดงข้อมูลเหล่านี้ในรายงานสินค้า/บริการ แม้จะปิดใช้งานรหัส SKU อยู่ ระบบก็ยังสามารถแสดงผลตามที่เลือกได้ เพื่อให้การบริหารจัดการสต๊อกสินค้าและการเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มขายของออนไลน์แม่นยำและสะดวกยิ่งขึ้น ทั้งนี้ยังมีการปรับรูปแบบการพิมพ์รายงานให้สอดคล้องกับเอกสารรับ-จ่าย และสามารถเลือกประเภทและหัวรายงานได้ตามต้องการ
ตัวอย่างรายงานสินค้าคงเหลือ
