
ลองนึกภาพตามนะครับ คุณจ่ายเงินให้ซัพพลายเออร์ไปแล้ว แต่เพิ่งมารู้ทีหลังว่าได้ของไม่ครบ หรือเผลอจ่ายบิลซ้ำ เพราะบิลหน้าตาเหมือนกันเป๊ะ หรือที่แย่กว่านั้นเงินหายไปจากระบบ โดยไม่มีใครรู้ว่าเกิดขึ้นตอนไหน ซึ่งปัญหาเหล่านี้ หลายครั้งมักเกิดจากการตรวจสอบใบแจ้งหนี้ที่ไม่รอบคอบก่อนจ่ายเงิน เรามารู้จักระบบ IR ตัวช่วยป้องกันธุรกิจจากการจ่ายเงินผิด แบบไม่รู้ตัวกันครับ
ระบบ IR คืออะไร ?
IR (Invoice Receipt) คือขั้นตอนการ “เช็กบิลก่อนจ่าย” อย่างเป็นระบบ เมื่อคุณได้รับใบแจ้งหนี้จากซัพพลายเออร์ ระบบ IR จะช่วยตรวจสอบว่า
- บิลนี้เกี่ยวกับการสั่งซื้ออะไร
- ราคาที่แจ้งมาตรงกับที่ตกลงไว้หรือไม่ (ดูจากใบสั่งซื้อ – PO)
- จำนวนสินค้าที่เรียกเก็บ ตรงกับที่ได้รับจริงหรือเปล่า (ดูจากใบรับของ – GR)
ถ้าไม่มี IR จะเกิดอะไรขึ้น ?
- จ่ายเงินผิด : อาจจ่ายแพงเกินกว่าที่ตกลงไว้ เพราะไม่ได้ตรวจเช็กราคา
- จ่ายเงินซ้ำ : บิลหน้าตาคล้ายกัน พนักงานไม่ทันสังเกตก็กดจ่ายไปอีกรอบ
- จ่ายทั้งที่ไม่ได้รับของ : บางกรณีได้แค่บางส่วน แต่ดันจ่ายเงินเต็มจำนวน
- เปิดช่องโหว่ : ถ้าไม่มีระบบเช็กบิลที่รัดกุม ใครก็สามารถแทรกบิลปลอม หรือแก้ตัวเลขได้ง่าย
IR ช่วยคุณอย่างไร ?
- ป้องกันการจ่ายเงินผิดพลาด จ่ายเฉพาะบิลที่ถูกตามสิ่งที่สั่งจริงเท่านั้น
- ลดทุจริตในองค์กร ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน ใครจ่าย ใครอนุมัติ ใครตรวจ
- บริหารค่าใช้จ่ายแม่นยำ เห็นที่มาของค่าใช้จ่ายทุกบาท ไม่ต้องมานั่งเดา
- สร้างความน่าเชื่อถือกับซัพพลายเออร์ จ่ายตรงเวลา ไม่มีตกหล่น
สรุป
ระบบ IR ไม่ใช่แค่การรับบิล แต่คือการป้องกันเงินรั่วไหล อาจดูเหมือนเพิ่มขั้นตอน แต่จริง ๆ แล้วคือ เกราะป้องกันสำคัญ ที่ช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่า ทุกบิลที่จ่ายเป็นเงินที่ควรจ่ายจริง ๆ
อยากให้ธุรกิจคุณจ่ายเงินอย่างมั่นใจ ลองใช้ระบบ IR กับ PEAK Premium แล้วคุณจะเห็นความแตกต่างตั้งแต่บิลแรกที่ตรวจ!
สนใจเข้าร่วม DEMO สาธิตฟีเจอร์ใหม่ PEAK Premium ที่นี่!
เจาะลึกทุกฟีเจอร์พร้อม Q&A ถาม-ตอบทุกข้อสงสัย – ฟรีออนไลน์ผ่าน Zoom คลิกลงทะเบียน
สนใจใช้งานแพ็กเกจ PEAK PREMIUM
ต้องการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายขายติดต่อกลับ คลิกลงทะเบียน