ขายออนไลน์แบบไหนต้องจดทะเบียนการตลาดแบบตรง

การขายออนไลน์ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในยุคดิจิทัล ธุรกิจหลายประเภทสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายและรวดเร็วผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ อย่างไรก็ตามหากการดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับ “การตลาดแบบตรง” (Direct Marketing) กฎหมายได้กำหนดให้ผู้ประกอบการบางรายต้องดำเนินการจดทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เพื่อป้องกันความเสียหายต่อผู้บริโภคและส่งเสริมความโปร่งใสในธุรกิจ

การตลาดแบบตรงคืออะไร

การตลาดแบบตรงคืออะไร

“ตลาดแบบตรง” หมายความว่า การทําตลาดสินค้าหรือบริการในลักษณะของการสื่อสารข้อมูล เพื่อเสนอขายสินค้าหรือบริการโดยตรงต่อผู้บริโภคซึ่งอยู่ห่างโดยระยะทางและมุ่งหวังให้ผู้บริโภคแต่ละราย ตอบกลับเพื่อซื้อสินค้าหรือบริการจากผู้ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงนั้น
ที่มา: https://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/A/053/80.PDF

พูดง่ายๆก็คือ การเสนอขายสินค้าหรือบริการโดยตรงถึงผู้บริโภคผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น โทรศัพท์, อีเมล, ข้อความ SMS, หรือการโฆษณาทางสื่อออนไลน์ที่กระตุ้นให้ผู้บริโภคตอบสนองทันที โดยไม่ผ่านหน้าร้านค้าหรือช่องทางตัวแทนจำหน่าย

ขายออนไลน์แบบไหนต้องจดทะเบียนการตลาดแบบตรง

ขายออนไลน์แบบไหนต้องจดทะเบียนการตลาดแบบตรง
  1. ร้านค้าที่ขายสินค้าผ่าน Social Media ได้แก่ TikTok, Facebook, Line, Shopee, Lazada และ Marketplace อื่นๆ 
  2. ร้านค้าที่ขายสินค้าผ่านเว็บไซต์
  3. ร้านค้าที่ขายสินค้าผ่านโทรทัศน์
  4. ร้านค้าที่มีการส่งอีเมลหรือ SMS เช่น การแจ้งโปรโมชั่น การเสนอขายสินค้าหรือบริการใหม่ๆ โดยใช้ข้อมูลลูกค้าโดยตรง
  5. ร้านค้าที่ส่งแคตตาล็อกหรือสื่อสิ่งพิมพ์ถึงลูกค้า เพราะเป็นการสื่อสารโดยตรงที่ไม่ผ่านตัวกลาง

วิธีการยื่นคำขอจดทะเบียนการตลาดแบบตรงกับ สคบ.

ธุรกิจที่มีคุณสมบัติตรงตามหลักเกณฑ์ที่ สคบ. กำหนดนั้น ต้องทำการยื่นคำขอจดทะเบียนการตลาดแบบตรง โดยมีข้อกำหนดดังนี้

  1. คุณสมบัติผู้ยื่นคำขอจดทะเบีย
    • ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
    • ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
    • ไม่เคยได้รับโทษจําคุกโดยคําพิพากษาถึงที่สุดให้จําคุก เว้นแต่เป็นโทษสําหรับ ความผิดที่ได้กระทําโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
    • ไม่เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ กรรมการผู้จัดการ ผู้จัดการ หรือบุคคลซึ่งรับผิดชอบในการ ดําเนินงาน ของห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทอื่น ที่จดทะเบียนการประกอบธุรกิจขายตรง หรือตลาดแบบตรง
    • ไม่เคยเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ กรรมการผู้จัดการ ผู้จัดการ หรือบุคคลซึ่งรับผิดชอบใน การดําเนินงานของห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท ที่เคยถูกเพิกถอนทะเบียนการประกอบธุรกิจขายตรงหรือตลาดแบบตรงในระยะเวลา 5 ปีก่อนวันยื่นคําขอจดทะเบียน
  2. เอกสารที่ต้องใช้ประกอบการยื่นคำขอ
    • สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล
    • สำเนาหนังสือบริคณห์สนธิและบัญชีผู้ถือหุ้น (กรณีนิติบุคคล)
    • แผนที่ตั้งและภาพถ่ายสถานที่ดำเนินธุรกิจ
    • หนังสือรับรองการตรวจสอบคุณสมบัติตามมาตรา 38/2
    • ผลการตรวจประวัติอาชญากรรม และหลักฐานยืนยันสถานะของคดี (หากมีประวัติอาชญากรรม)
    • เอกสารเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ เช่น ใบอนุญาตที่เกี่ยวข้อง (ถ้ามี)
    • ตัวอย่างเอกสารการซื้อขายสินค้า/บริการ
    • รายละเอียดวิธีการสื่อสารข้อมูลเพื่อเสนอขายสินค้าหรือบริการ พร้อมภาพประกอบ
  3. ช่องทางการยื่นคำขอ
    เว็บไซต์ https://ocpbdirect.ocpb.go.th/ หรือสำนักงาน สคบ. ในเขตที่ตั้งของธุรกิจ

อย่างไรก็ตาม บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่จะทำการตลาดแบบตรง จะต้องยื่นคำขอจดทะเบียนการประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) มิฉะนั้น จะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่
ที่มา : https://ocpbdirect.ocpb.go.th/ 

ธุรกิจที่ได้รับการยกเว้นการขึ้นทะเบียนการตลาดแบบตรง

ธุรกิจที่ได้รับการยกเว้นการขึ้นทะเบียนการตลาดแบบตรง
  1. ขายสินค้าหรือบริการของบุคคลธรรมดา ที่มีรายได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี
  2. ขายสินค้าหรือบริการของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ที่ขึ้นทะเบียน การส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)
  3. ขายสินค้าหรือบริการของวิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน ที่จดทะเบียนการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน
  4. ขายสินค้าหรือบริการของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ที่ได้จดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยสหกรณ์

การจดทะเบียนการตลาดแบบตรงกับ สคบ. ไม่เพียงแต่เป็นการปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมาย แต่ยังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจในสายตาผู้บริโภคอีกด้วย 

การขายออนไลน์ในรูปแบบการตลาดแบบตรงมีโอกาสสูงในการสร้างรายได้ แต่ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต รวมถึงหากร้านค้าออนไลน์ต้องการเติบโตอย่างยั่งยืน การทำบัญชีที่ถูกต้องและเป็นระบบคือกุญแจสำคัญในการบริหารร้านค้าออนไลน์ การเลือกใช้ PEAK โปรแกรมบัญชีออนไลน์ จะช่วยให้เจ้าของธุรกิจสามารถจัดการบัญชีได้ง่ายดายเพียงแค่การเชื่อมต่อ API ให้บันทึกข้อมูลบัญชี สร้างเอกสารอัตโนมัติ ครบถ้วนทุกรายการขาย เพียงเท่านี้ก็ช่วยลดขั้นตอนและลดต้นทุนในการทำงาน  เพื่อให้ธุรกิจของคุณดำเนินไปอย่างราบรื่นและเป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมาย

ทดลองใช้งานโปรแกรมบัญชี PEAK ฟรี! 30 วัน มูลค่า 1,200 บาท
คลิก https://www.peakaccount.com (ไม่มีค่าใช้จ่าย)
PEAK Call Center : 1485
LINE : @peakaccount
สอบถามเพิ่มเติม คลิก https://m.me/peakengine