ภาษีนำเข้ามีอะไรบ้าง

โลกปัจจุบันที่การทำธุรกิจเปิดกว้างยิ่งขึ้น การนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาขายในประเทศไทยของเรากลายเป็นสิ่งที่ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าได้มากขึ้น และที่สำคัญคือเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการมีโอกาสทางธุรกิจมากขึ้นเช่นกัน แต่การนำเข้าสินค้าเหล่านี้ก็มาพร้อมกับ ภาษีนำเข้า ที่ผู้ประกอบการจำเป็นต้องเสีย ในบทความนี้เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับภาษีประเภทนี้ให้มากขึ้น จะมีอะไรบ้างที่ผู้ประกอบการต้องรู้ มาติดตามกันได้เลย!

ราคาสินค้ารวมภาษีนำเข้า

ภาษีนำเข้า คืออะไร?

ภาษีนำเข้า คือภาษีที่ทางภาครัฐจะเรียกเก็บจากผู้นำเข้าสินค้าเข้ามาภายในประเทศโดยกรมศุลกากรมีหน้าที่เก็บภาษีในส่วนนี้ ไม่ว่าจะผ่านช่องทางใด ๆ ก็ตาม รวมไปถึงการหิ้วสินค้าเข้ามาด้วยตัวเอง

ทำไมต้องมี ภาษีนำเข้า

การเก็บภาษีเพิ่มสำหรับสินค้าที่นำเข้ามา มีจุดประสงค์หลักเพื่อควบคุมการค้าภายในประเทศ ให้สินค้าที่นำเข้ามามีการเก็บภาษีเพิ่มและจำเป็นต้องทำให้มีราคาสูงกว่าปกติ เพื่อให้สินค้าประเภทเดียวกันที่ผลิตภายในประเทศไทยสามารถแข่งขันกับสินค้าที่นำเข้ามาได้ เป็นอีกหนึ่งทางที่ช่วยเหลือผู้ประกอบการภายในประเทศไทย นอกจากนี้เงินภาษีที่เรียกเก็บเพิ่มทางภาครัฐจะนำไปพัฒนาประเทศต่อได้

ภาษีนำเข้า มีอะไรบ้าง?

ในการนำเข้าสินค้า ผู้ประกอบการไม่ได้เสียเพียงแค่ภาษีนำเข้าเท่านั้น แต่ยังมีภาษีอื่นที่ต้องเสียเพิ่มเติมประกอบไปด้วย

อากรขาเข้า

อากรขาเข้าคือภาษีนำเข้าที่ทางกรมศุลกากรจะเรียกเก็บจากสินค้าที่นำเข้ามา โดยมีขั้นตอนการคำนวณง่าย ๆ เพียงการคำนวณมูลค่าสินค้าที่รวมค่าประกันและค่าขนส่งหรือ CIF (Cost, Insurance, Freight) มาคูณกับจำนวนอัตราภาษีที่ต้องเสียในการนำเข้าสินค้านั้น ๆ ซึ่งสามารถตรวจสอบอัตราภาษีอากรขาเข้า หรือที่เรียกว่าพิกัดอัตราภาษีอากรได้ที่เว็บไซต์กรมศุลกากร

ภาษีมูลค่าเพิ่ม

ภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT 7% ที่ผู้ประกอบการน่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ซึ่งภาษีนี้ก็จะเรียกเก็บจากสินค้านำเข้าด้วยเช่นกัน ซึ่งมีวิธีการคำนวณโดยการนำมูลค่าสินค้าแบบ CIF บวกกับภาษีอากรขาเข้าที่ต้องเสีย และนำไปคูณ 7% ตามอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มในปัจจุบัน ทั้งนี้ผู้ประกอบการที่การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเรียบร้อยแล้วจำเป็นต้องเสียภาษีในส่วนนี้ แต่สามารถขอคืนเงินภาษีภายหลังได้

ภาษีสรรพสามิต (เฉพาะสินค้าบางประเภท)

ในสินค้าบางประเภท เช่น สุรา น้ำมัน บุหรี่ หรือสินค้าฟุ่มเฟือยที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม จะมีการเก็บภาษีสรรพสามิตเพิ่มเติม เพื่อควบคุมจำนวนการบริโภคสินค้าประเภทเหล่านี้ ในอดีตทางกรมสรรพสามิตเคยใช้ในรูปแบบการคำนวณตามอัตราภาษีสรรพสามิต แต่ในปัจจุบันได้ทำการเปลี่ยนฐานภาษีสู่รูปแบบ “ราคาขายปลีกแนะนำ” หรือราคาที่ผู้นำเข้าประสงค์ให้ผู้ค้าปลีกในการขายให้แก่ผู้บริโภคทั่วไป โดยราคาที่กำหนดนี้จะเป็นฐานภาษีในการคำนวณตามอัตราภาษีสรรพสามิตต่อไป  ซึ่งมีสูตรดังนี้

ราคาขายปลีกแนะนำ x อัตราภาษีแนะนำ

จากภาษีสำหรับการนำเข้าสินค้าจะเห็นได้เลยว่ามีการเรียกเก็บค่อนข้างเยอะ ในส่วนนี้ผู้ประกอบการที่ต้องการนำเข้าสินค้าจำเป็นต้องศึกษา ทำความเข้าใจ เพื่อให้สามารถนำตัวเลขเหล่านี้ใช้คำนวณราคาสินค้า วางกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจได้อย่างแม่นยำ

ตัวอย่าง การคำนวณภาษีนำเข้า

เพื่อให้ผู้ประกอบการที่ต้องการนำเข้าสินค้าเห็นภาพการคำนวณมากขึ้น เราขอยกตัวอย่างการนำเข้าสินค้าพร้อมวิธีการคำนวณดังนี้

บริษัท A นำเข้าเสื้อผ้าเพื่อนำมาขายในประเทศไทย โดยเป็นการนำเข้าเสื้อผ้ามีค่าสินค้าทั้งหมด 100,000 บาท

เริ่มต้นด้วยการคำนวณหา CIF ของสินค้าดังกล่าว ยกตัวอย่างค่าประกันภัย 2,000 บาท และค่าขนส่ง 5,000 บาท โดยมีหลักฐานแสดงค่าประกันและค่าขนส่งครบถ้วน

สามารถคำนวณหาค่า CIF ได้ด้วยการนำ ค่าสินค้า + ค่าประกัน + ค่าขนส่ง ซึ่งในที่นี้จะเท่ากับ 100,000+2,000+5,000 = 107,000 นั่นเอง

หลังจากนั้นเราจะนำราคา CIF ที่ได้มาใช้คำนวณภาษีอากรขาเข้า รวมไปถึงภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยจากตัวอย่างการนำเข้าสินค้าเสื้อเครื่องแต่งกาย จะมีอัตราภาษีนำเข้าอยู่ที่ 30% สามารถคำนวณภาษีทั้ง 2 ประเภทได้ดังนี้

ภาษีอากรขาเข้า

สูตรคำนวณ

ราคา CIF x อัตราภาษีขาเข้า = ภาษีอากรขาเข้า

แทนสูตรคำนวณ

107,000 x 30% = 32,100 บาท

ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%

สูตรคำนวณ

(ราคา CIF + อากรขาเข้า) x 7%

แทนสูตรคำนวณ

(107,000 + 32,100) x 7% = 9,737 บาท

เท่ากับว่าการนำเข้าเสื้อผ้าของบริษัท A ต้องเสียภาษีนำเข้ารวมอากรขาเข้าและภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นจำนวนทั้งหมด

32,100 + 9,737 = 41,837 บาท

ทำให้ต้นทุนการนำเข้าสินค้าครั้งนี้อยู่ที่ 148,837 บาทนั่นเอง ทั้งนี้จากตัวอย่างไม่ใช่สินค้าที่อยู่ในกลุ่มควบคุมการบริโภค ทำให้ไม่จำเป็นต้องเสียภาษีสรรพสามิตในส่วนนี้

จากตัวอย่างน่าจะพอช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าใจการคำนวณภาษีนำเข้าส่วนนี้มากขึ้น อย่าลืมนำค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไปใช้ในการคำนวณราคาที่จะนำสินค้าเข้ามาขายในประเภทเพื่อให้สามารถตั้งราคาได้ถูกต้องคุ้มต้นทุน

บทลงโทษหากหลีกเลี่ยงภาษี

หากมีการจงใจในการลักลอบหนีศุลกากร หรือการนำเข้าโดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร มีโทษระวางจำคุกไม่เกิน 10 ปีหรือปรับเงิน 4 เท่าของราคารวมค่าอากรขาเข้า หรือทั้งจำทั้งปรับ และศาลอาจมีคำสั่งยึดสินค้าทั้งหมด สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความผิดตามกฎหมายของการนำเข้าได้ที่เว็บไซต์ของกรมศุลกากร

การยื่นเอกสาร ภาษีนำเข้า

เจ้าของธุรกิจนำเข้าควรเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

สำหรับเจ้าของธุรกิจที่ต้องการทำธุรกิจนำเข้าสินค้าเพื่อมาขายในประเทศ ในส่วนนี้เรามีข้อควรรู้มาแนะนำเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างถูกต้อง และลดโอกาสเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิด!

ศึกษาข้อมูลด้านภาษีให้ครบถ้วน

สำคัญมากที่สุดสำหรับผู้ประกอบการ คือ การศึกษาเกี่ยวกับภาษีนำเข้าให้ครบถ้วน เข้าใจอย่างถูกต้อง เพื่อใช้ในการวางแผนการตลาด ตั้งราคาสินค้า คำนวณด้านบัญชี ที่จะช่วยลดโอกาสเกิดข้อผิดพลาดได้มากมาย และอย่าลืมดำเนินการขั้นตอนต่าง ๆ ให้ตรงตามที่กฎหมายกำหนด

ติดตามกฎหมายอย่างสม่ำเสมอ

การนำเข้าสินค้ามีกฎหมายข้อบังคับควบคุมอยู่พอสมควร เราขอแนะนำให้ผู้ประกอบการใช้เวลาในการศึกษา และติดตามข้อกฎหมายที่อาจเปลี่ยนแปลงไปตามสังคมที่เปลี่ยนไปได้เรื่อย ๆ โดยแนะนำให้ติดตามผ่านเว็บไซต์ของกรมศุลกากรอย่างใกล้ชิด

จัดการระบบบัญชีของธุรกิจด้วยโปรแกรมบัญชี

อีกหนึ่งส่วนที่สำคัญสำหรับผู้ประกอบการ สำหรับการนำเข้าสินค้า ที่ในบางครั้งอาจมีเอกสารหรือการคำนวณด้านบัญชีที่มากกว่าการผลิตสินค้าขายด้วยตัวเอง ทำให้ขั้นตอนการจัดการบัญชีมีความซับซ้อน หรือยุ่งยากมากยิ่งขึ้น ในส่วนนี้เราแนะนำให้ผู้ประกอบการเลือกใช้โปรแกรมบัญชีออนไลน์ เพื่อจัดวางระบบหลังบ้านดียิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นการช่วยลดโอกาสเกิดข้อผิดพลาด รวมไปถึงช่วยลดเวลาในการทำงาน และความซับซ้อนด้านบัญชีได้

หมดห่วงเรื่องภาษีนำเข้า ด้วยการใช้โปรแกรมบัญชีออนไลน์

โปรแกรมบัญชีออนไลน์จะเข้ามาเป็นตัวช่วยให้การบันทึกบัญชี การทำรายงาน ไปจนถึงงานเอกสารที่เกี่ยวข้องกับภาษีนำเข้าให้สะดวกยิ่งขึ้น ช่วยลดโอกาสเกิดข้อผิดพลาดด้านบัญชีลงไปได้ ซึ่ง PEAK Account โปรแกรมบัญชีออนไลน์ พร้อมเข้ามาเป็นตัวช่วยให้ผู้ประกอบการในการจัดการระบบบัญชี นอกจากนี้ยังมี PEAK Tax โปรแกรมจัดการภาษี สามารถออกเอกสารที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงช่วยบริหารจัดการได้ง่ายยิ่งขึ้น  สามารถอ่านคู่มือการใช้งานเพิ่มเติมได้ที่นี่

ทดลองใช้งานโปรแกรมบัญชี PEAK ฟรี! 30 วัน มูลค่า 1,200 บาท
คลิก https://www.peakaccount.com (ไม่มีค่าใช้จ่าย)
PEAK Call Center : 1485
LINE : @peakaccount
สอบถามเพิ่มเติม คลิก https://m.me/peakengine

PEAK โปรแกรมบัญชีออนไลน์ หมดกังวลเรื่อง ภาษี จัดการบัญชีได้อย่างมืออาชีพ

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

นำเข้าสินค้า ต้องเสียภาษีนำเข้ากี่เปอร์เซ็นต์


ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า สามารถดูรายละเอียดของสินค้าแต่ละประเภทได้ที่เว็บไซต์กรมศุลกากร

นำเข้าสินค้าต้องเสียภาษีอะไรบ้าง


ต้องเสียภาษีอากรขาเข้า ภาษีมูลค่าเพิ่ม และอาจต้องเสียภาษีสรรพสามิตเพิ่มเติมในบางประเภทสินค้า