ตัวช่วยเช็คสุกภาพธุรกิจ งบฐานะการเงิน

ในการดำเนินธุรกิจ นอกจากระบบหน้าบ้านที่มุ่งมั่นขายสินค้าหรือบริการแล้ว ระบบหลังบ้านด้านเอกสารก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ธุรกิจเติบโต โดยเฉพาะในด้านการเงินบัญชีที่เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดความสำเร็จเลยก็ว่าได้ ในบทความนี้เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับหนึ่งในเอกสารด้านบัญชีอย่าง งบฐานะการเงิน หรือ งบดุล ที่ช่วยให้เจ้าของธุรกิจเห็นภาพรวมด้านการเงินของบริษัท จะมีความสำคัญอย่างไร หน้าตาแบบไหน มาค้นหาคำตอบกันได้เลย

งบดุล หรือ งบฐานะทางการเงิน (Statement of Financial Position) คืออะไร?

งบดุล หรือ งบฐานะทางการเงิน (Statement of Financial Position) ที่บางท่านเรียกกันว่า Balance Sheet คือ รายงานงบการเงินที่แสดงให้เห็นว่าช่วงเวลาดังกล่าวนั้น บริษัทมีสินทรัพย์อยู่เท่าไหร่ โดยเป็นการคิดคำนวณไปถึงจำนวนหนี้สิน และเงินในส่วนของเจ้าของรวมกันแล้วเป็นมูลค่าเท่าไหร่ ซึ่งนับเป็นแนวทางการทำบัญชีที่ได้รับการยอมรับและสำคัญสำหรับการดำเนินธุรกิจ เป็นส่วนช่วยให้เจ้าของธุรกิจมองเห็นภาพรวมงบขององค์กร และสามารถวางแผนการดำเนินธุรกิจต่อได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น

งบฐานะการเงิน คืออะไร ต้องทำเมื่อไหร่

ทำไม งบฐานะทางการเงิน หรือ งบดุล จึงสำคัญ?

งบฐานะทางการเงิน หรือ งบดุล เป็นรายงานที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าในช่วงที่ทำรายการบัญชีนั้น ๆ บริษัทมีเงินอยู่เท่าไหร่ โดยเงินดังกล่าวเป็นในรูปแบบใดบ้าง เช่น หนี้สิน หรือส่วนของเจ้าของ และเมื่อเจ้าของธุรกิจมองเห็นภาพตรงนี้แล้ว ก็จะเข้าใจถึงสภาพคล่อง และรายละเอียดในงบการเงินได้ชัดเจน เห็นภาพมากยิ่งขึ้น ทำให้สามารถตัดสินใจสำคัญเกี่ยวกับด้านการเงินได้ดี ทำให้สามารถดำเนินธุรกิจไปในทิศทางที่ดียิ่งขึ้นเรื่อย ๆ 

ยกตัวอย่าง งบฐานะทางการเงิน หรือ งบดุล แบบเข้าใจง่าย

สำหรับตัวอย่างของงบดุลเราขอใช้ตัวอย่างจาก นาย A ที่กำลังจะเปิดร้านขายเสื้อผ้า โดยนาย A ตั้งต้นทุนเปิดร้านเล็ก ๆ ไว้ที่ 500,000 บาทถ้วน แต่เมื่อคำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว ยังต้องใช้เงินอีก 100,000 บาทในการลงทุนเพื่อให้ยังมีเงินสดสำหรับดำเนินธุรกิจ ทำให้นาย A จำเป็นต้องกู้เงินเพิ่ม 

จากเหตุการณ์ข้างต้น หากสรุปงบดุลอย่างคร่าว ๆ ของนาย A จะได้ว่า

  • สินทรัพย์: 600,000 บาท
  • หนี้สิน 100,000 บาท
  • ส่วนของเจ้าของ 500,000 บาท

ซึ่งในกรณีของทรัพย์สินดังกล่าวจะรวมทั้งหมดตั้งแต่เงินสด ค่าเช่าที่ ค่าสินค้าที่นำมาขาย และส่วนของเจ้าของหากมีผู้ร่วมลงทุนหลายคน ก็จะนำทั้งหมดมารวมเช่นเดียวกัน

จากตัวอย่างข้างต้นเราจะพอเห็นภาพโครงสร้างและองค์ประกอบคร่าว ๆ ของงบดุล พบว่า มีทั้งหมด 3 องค์ประกอบหลักด้วยกันประกอบไปด้วย

  • สินทรัพย์
  • หนี้สิน
  • ส่วนของเจ้าของธุรกิจ

และจาก 3 องค์ประกอบของงบดุลนี้ สามารถเขียนออกมาเป็นสมการด้านบัญชีได้ว่า

หนี้สิน + ส่วนของเจ้าของ = สินทรัพย์

การคิด งบฐานะทางการเงิน หรือ งบดุล ค่อนข้างเรียบง่ายและตรงไปตรงมา แต่ทั้งนี้ในแต่ละองค์ประกอบก็มีรายละเอียดลงลึกไปมากยิ่งกว่านั้น เรามาดูกันต่อในส่วนถัดไปได้เลย

งบฐานะการเงิน ในส่วนของสินทรัพย์ มีอะไรบ้าง

1. สินทรัพย์

สำหรับส่วนแรกสุดคือสินทรัพย์ที่หมายถึง สินทรัพย์ต่าง ๆ ที่รวมตั้งแต่เงินสด ไปจนถึงสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องต่ำ โดยสามารถแบ่งสินทรัพย์ในงบดุลได้เป็นสองรูปแบบดังนี้

1.1 สินทรัพย์หมุนเวียน

สินทรัพย์หมุนเวียน คือ สินทรัพย์ที่เจ้าของบริษัทสามารถแปลงเป็นเงินสดได้ภายในระยะเวลา 1 ปี โดยตัวอย่างของสินทรัพย์หมุนเวียน อาทิ เงินสด สินค้าที่ค้างอยู่ในคลัง (สินค้าสำหรับขาย หรืออยู่ในระหว่างการผลิต) ลูกหนี้การค้า (เงินที่ลูกค้าค้างชำระ) และอื่น ๆ ที่สามารถแปลงเป็นเงินสดได้ตามเวลาที่กำหนด

1.2 สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน

สำหรับสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน เป็นสินทรัพย์ประเภทที่ตรงกันข้ามกับแบบหมุนเวียนเลยก็ว่าได้ เพราะต้องเป็นสินทรัพย์ที่ไม่สามารถแปลงเป็นเงินได้ภายในระยะเวลา 1 ปี โดยส่วนใหญ่มักจะเป็นสินทรัพย์ประเภท ที่ดิน อาคาร หรือเครื่องจักร โดยจะเรียกกันว่า ‘สินทรัพย์ที่มีตัวตน’ ในกรณีของสินทรัพย์ที่ ‘ไม่มีตัวตน’ จะเป็นประเภท ลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร โปรแกรม ซอฟต์แวร์

ทั้งนี้ในกรณีของสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนประเภทมีตัวตน บางครั้งจะต้องมีการคิดค่าเสื่อมราคา เช่น เครื่องจักร อาคาร โรงงาน

ทั้งนี้ในการเรียงลำดับสินทรัพย์ในงบดุลต้องเรียกลำดับสินทรัพย์หมุนเวียนขึ้นมาก่อน เพราะเป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงสามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้รวดเร็วยิ่งกว่า

2. หนี้สิน

ถัดมาในส่วนของหนี้สิน ที่เป็นหนึ่งในส่วนรวมของสินทรัพย์ โดยหนี้สินสามารถแบ่งออกได้เป็นสองประเภทเช่นเดียวกัน ประกอบไปด้วย

2.1 หนี้สินหมุนเวียน

หนี้สินประเภทที่เป็นหนี้สินในระยะสั้น จำเป็นต้องรีบชำระหนี้สินให้ครบภายในกรอบระยะเวลา 1 ปี เช่น เงินที่กู้ยืมระยะสั้นจากธนาคาร เงินเบิกเกินบัญชี หนี้สินจากการซื้อสินค้าโดยมีภาระผูกพันกับเจ้าหนี้

2.2 หนี้สินไม่หมุนเวียน

เป็นหนี้สินประเภทระยะยาวที่ต้องใช้ระยะเวลาชำระให้ครบเกิน 1 ปี ยกตัวอย่างเช่น หนี้สินกู้ยืมระยะยาว โดยมีการตกลงระยะเวลาในการคืนเกินกว่า 1 ปี

ซึ่งการคำนวณหนี้สินทั้งหมดก่อนนำไปคำนวณในงบดุลจำเป็นต้องนำหนี้สินทั้งสองประเภทนี้มารวมกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ของจำนวนหนี้สินทั้งหมดที่บริษัทมีใน ณ เวลานั้น ๆ 

3. ส่วนของเจ้าของ

ส่วนของเจ้าของเป็นเงินในส่วนที่สามารถเรียกว่าเป็นเงินทุนได้เช่นกัน โดยเป็นเงินที่อยู่ในสินทรัพย์ทั้งหมด ไม่รวมในส่วนที่เป็นเงินกู้ยืม หรือหนี้สินจากข้อ 2 นั่นเอง โดยเงินส่วนของเจ้าของแบ่งได้สองประเภทเช่นเดียวกันดังนี้

3.1 เงินทุนจากเจ้าของบริษัทและผู้ถือหุ้น

ส่วนแรกเป็นเงินต้นทุนที่เจ้าของบริษัทหรือผู้ถือหุ้นใช้ในการลงทุนกับบริษัทหรือกิจการดังกล่าว

3.2 กำไร (ขาดทุน) สะสม

ในส่วนที่สองจะเป็นกำไรทั้งหมดของบริษัทโดยเป็นการทบไปเรื่อย ๆ ในแต่ละปี ทั้งนี้ถ้าบริษัทผลประกอบการไม่ดีทำให้ขาดทุน ตรงส่วนนี้ก็จะกลายเป็นขาดทุนสะสมได้เช่นเดียวกัน

ตัวอย่าง งบฐานะทางการเงิน หรือ งบดุล 

สำหรับตัวอย่างที่ลงรายละเอียดมากขึ้น เราขอยกตัวอย่างนาย A อีกเช่นเคยกับร้านขายเสื้อผ้า ที่มีสินทรัพย์รวมกันทั้งหมด 600,000 บาทจากตัวอย่างก่อนหน้านี้ หากจำแนกรายละเอียดส่วนต่าง ๆ ของงบดุลจะได้ดังนี้

สินทรัพย์

เงินสด 200,000 บาท

ค่าเช่าร้าน 200,000 บาท

ค่าสินค้าคงเหลือ 200,000 บาท

สินทรัพย์รวม = 600,000 บาท

หนี้สิน

เงินกู้ยืมระยะสั้นจากธนาคาร 100,000 บาท

หนี้สินรวม = 100,000 บาท

ส่วนของผู้ถือหุ้น/เจ้าของธุรกิจ

เงินลงทุน 325,000 บาท

กำไรสะสม 175,000 บาท

ส่วนของผู้ถือหุ้น/เจ้าของธุรกิจ = 500,000 บาท

เมื่อคำนวณรวมระหว่างหนี้สินและส่วนของเจ้าของจะพบว่าเป็นจำนวน 600,000 บาท เท่ากับจำนวนสินทรัพย์ของธุรกิจพอดี ซึ่งในการคำนวณงบดุลตัวเลขของสมการทั้ง 2 ข้างหากคำนวณรวมกันแล้วต้องมีตัวเลขที่ตรงกันเพื่อความถูกต้องของบัญชีนั่นเอง

นอกจากนี้ตัวเลขของงบดุลยังแสดงให้เห็นถึงความมั่นคงของกิจการนั้น ๆ โดยเมื่อใดที่บริษัทมีสินทรัพย์รวมมากกว่าหนี้สิน ย่อมแสดงว่าบริษัทยังมีกำไร และไม่ได้มีหนี้สินที่มากจนเกินไป สามารถจ่ายหนี้สินและมีเงินเหลือสำหรับดำเนินธุรกิจต่อได้

ตอนนี้น่าจะพอเห็นภาพและเข้าใจ งบดุล กันมากยิ่งขึ้นแล้ว ถัดไปเราขอแนะนำเพิ่มเติมในส่วนของประเภทในการทำรายงานงบดุลว่าแตกต่างกันอย่างไร และสามารถทำอย่างไรได้บ้าง

ตัวอย่าง งบฐานะการเงิน (งบดุล)

อีกหนึ่งประเภทของงบดุลที่ทำได้ไม่ยากเช่นกัน โดยใจความสำคัญจะมีความใกล้เคียงกัน คือต้องใส่ข้อมูลให้ครบถ้วน แต่แตกต่างกันเพียงการจัดรูปแบบของเอกสาร ซึ่งงบดุลรายงานจะเป็นการจัดเรียงเป็นแถวหัวข้อต่อกันเรื่อย ๆ โดยเริ่มจาก สินทรัพย์ รวมยอดสินทรัพย์ทั้งหมด หนี้สิน และส่วนของเจ้าของอยู่ท้ายสุดของกระดาษและรวมหนี้สินและส่วนของเจ้าของ

 งบฐานะการเงิน งบดุล ตัวอย่าง หน้าตาบนโปรแกรม PEAK

สรุปท้ายบทความ: งบฐานะทางการเงิน ส่วนสำคัญที่ช่วยให้จัดการธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น

งบแสดงฐานะทางการเงิน หรือ งบดุล นับเป็นเอกสารรายละเอียดทางด้านบัญชีที่สำคัญ ช่วยให้เจ้าของธุรกิจสามารถดำเนินกิจการได้ตรงจุด ทราบถึงสถานการณ์ขององค์กรในภาพรวมได้มากยิ่งขึ้น เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการตัดสินใจต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งในรายละเอียดเกี่ยวกับงบดุลยังมีงบการเงินเป็นภาพกว้างที่สามารถศึกษาแบบละเอียดเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า

แต่ในบางครั้งการทำเอกสารทางด้านการเงินอย่างเอกสารงบดุลอาจเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใช้เวลานาน และต้องการความละเอียดสูง เจ้าของกิจการ SME ที่ยังไม่มีทีมบัญชีอาจต้องรับมือกับความวุ่นวายในส่วนนี้ขึ้นมา ซึ่ง PEAK เข้าใจในปัญหานี้ของผู้ประกอบการ SME เราจึงมีโปรแกรมบัญชีออนไลน์ครบวงจร ที่นอกจากจะช่วยให้การจัดการบัญชีเป็นเรื่องง่ายยังสามารถทำรายงานงบดุลได้อีกด้วย โดยคุณสามารถลงบันทึกบัญชีใน PEAK และสามารถเรียกเอกสารงบการเงินออกมาได้อย่างสะดวกรวดเร็ว สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม และวิธีการใช้งานได้ที่นี่

PEAK โปรแกรมบัญชีออนไลน์ จัดการงบฐานะการเงินได้อย่างมั่นใจ ด้วยข้อมูลที่ครบครัน

ทดลองใช้งานโปรแกรมบัญชี PEAK ฟรี! 30 วัน มูลค่า 1,200 บาท
คลิก https://www.peakaccount.com (ไม่มีค่าใช้จ่าย)
PEAK Call Center : 1485
LINE : @peakaccount
สอบถามเพิ่มเติม คลิก https://m.me/peakengine

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

งบดุลใช้งบการเงินหรือไม่?


ใช่ งบดุลถือเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงิน