คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
ใช่ งบดุลถือเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงิน
ในการดำเนินธุรกิจ นอกจากระบบหน้าบ้านที่มุ่งมั่นขายสินค้าหรือบริการแล้ว ระบบหลังบ้านด้านเอกสารก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ธุรกิจเติบโต โดยเฉพาะในด้านการเงินบัญชีที่เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดความสำเร็จเลยก็ว่าได้ ในบทความนี้เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับหนึ่งในเอกสารด้านบัญชีอย่าง งบฐานะการเงิน หรือ งบดุล ที่ช่วยให้เจ้าของธุรกิจเห็นภาพรวมด้านการเงินของบริษัท จะมีความสำคัญอย่างไร หน้าตาแบบไหน มาค้นหาคำตอบกันได้เลย
งบดุล หรือ งบฐานะทางการเงิน (Statement of Financial Position) ที่บางท่านเรียกกันว่า Balance Sheet คือ รายงานงบการเงินที่แสดงให้เห็นว่าช่วงเวลาดังกล่าวนั้น บริษัทมีสินทรัพย์อยู่เท่าไหร่ โดยเป็นการคิดคำนวณไปถึงจำนวนหนี้สิน และเงินในส่วนของเจ้าของรวมกันแล้วเป็นมูลค่าเท่าไหร่ ซึ่งนับเป็นแนวทางการทำบัญชีที่ได้รับการยอมรับและสำคัญสำหรับการดำเนินธุรกิจ เป็นส่วนช่วยให้เจ้าของธุรกิจมองเห็นภาพรวมงบขององค์กร และสามารถวางแผนการดำเนินธุรกิจต่อได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น
งบฐานะทางการเงิน หรือ งบดุล เป็นรายงานที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าในช่วงที่ทำรายการบัญชีนั้น ๆ บริษัทมีเงินอยู่เท่าไหร่ โดยเงินดังกล่าวเป็นในรูปแบบใดบ้าง เช่น หนี้สิน หรือส่วนของเจ้าของ และเมื่อเจ้าของธุรกิจมองเห็นภาพตรงนี้แล้ว ก็จะเข้าใจถึงสภาพคล่อง และรายละเอียดในงบการเงินได้ชัดเจน เห็นภาพมากยิ่งขึ้น ทำให้สามารถตัดสินใจสำคัญเกี่ยวกับด้านการเงินได้ดี ทำให้สามารถดำเนินธุรกิจไปในทิศทางที่ดียิ่งขึ้นเรื่อย ๆ
สำหรับตัวอย่างของงบดุลเราขอใช้ตัวอย่างจาก นาย A ที่กำลังจะเปิดร้านขายเสื้อผ้า โดยนาย A ตั้งต้นทุนเปิดร้านเล็ก ๆ ไว้ที่ 500,000 บาทถ้วน แต่เมื่อคำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว ยังต้องใช้เงินอีก 100,000 บาทในการลงทุนเพื่อให้ยังมีเงินสดสำหรับดำเนินธุรกิจ ทำให้นาย A จำเป็นต้องกู้เงินเพิ่ม
จากเหตุการณ์ข้างต้น หากสรุปงบดุลอย่างคร่าว ๆ ของนาย A จะได้ว่า
ซึ่งในกรณีของทรัพย์สินดังกล่าวจะรวมทั้งหมดตั้งแต่เงินสด ค่าเช่าที่ ค่าสินค้าที่นำมาขาย และส่วนของเจ้าของหากมีผู้ร่วมลงทุนหลายคน ก็จะนำทั้งหมดมารวมเช่นเดียวกัน
จากตัวอย่างข้างต้นเราจะพอเห็นภาพโครงสร้างและองค์ประกอบคร่าว ๆ ของงบดุล พบว่า มีทั้งหมด 3 องค์ประกอบหลักด้วยกันประกอบไปด้วย
และจาก 3 องค์ประกอบของงบดุลนี้ สามารถเขียนออกมาเป็นสมการด้านบัญชีได้ว่า
หนี้สิน + ส่วนของเจ้าของ = สินทรัพย์
การคิด งบฐานะทางการเงิน หรือ งบดุล ค่อนข้างเรียบง่ายและตรงไปตรงมา แต่ทั้งนี้ในแต่ละองค์ประกอบก็มีรายละเอียดลงลึกไปมากยิ่งกว่านั้น เรามาดูกันต่อในส่วนถัดไปได้เลย
สำหรับส่วนแรกสุดคือสินทรัพย์ที่หมายถึง สินทรัพย์ต่าง ๆ ที่รวมตั้งแต่เงินสด ไปจนถึงสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องต่ำ โดยสามารถแบ่งสินทรัพย์ในงบดุลได้เป็นสองรูปแบบดังนี้
สินทรัพย์หมุนเวียน คือ สินทรัพย์ที่เจ้าของบริษัทสามารถแปลงเป็นเงินสดได้ภายในระยะเวลา 1 ปี โดยตัวอย่างของสินทรัพย์หมุนเวียน อาทิ เงินสด สินค้าที่ค้างอยู่ในคลัง (สินค้าสำหรับขาย หรืออยู่ในระหว่างการผลิต) ลูกหนี้การค้า (เงินที่ลูกค้าค้างชำระ) และอื่น ๆ ที่สามารถแปลงเป็นเงินสดได้ตามเวลาที่กำหนด
สำหรับสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน เป็นสินทรัพย์ประเภทที่ตรงกันข้ามกับแบบหมุนเวียนเลยก็ว่าได้ เพราะต้องเป็นสินทรัพย์ที่ไม่สามารถแปลงเป็นเงินได้ภายในระยะเวลา 1 ปี โดยส่วนใหญ่มักจะเป็นสินทรัพย์ประเภท ที่ดิน อาคาร หรือเครื่องจักร โดยจะเรียกกันว่า ‘สินทรัพย์ที่มีตัวตน’ ในกรณีของสินทรัพย์ที่ ‘ไม่มีตัวตน’ จะเป็นประเภท ลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร โปรแกรม ซอฟต์แวร์
ทั้งนี้ในกรณีของสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนประเภทมีตัวตน บางครั้งจะต้องมีการคิดค่าเสื่อมราคา เช่น เครื่องจักร อาคาร โรงงาน
ทั้งนี้ในการเรียงลำดับสินทรัพย์ในงบดุลต้องเรียกลำดับสินทรัพย์หมุนเวียนขึ้นมาก่อน เพราะเป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงสามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้รวดเร็วยิ่งกว่า
ถัดมาในส่วนของหนี้สิน ที่เป็นหนึ่งในส่วนรวมของสินทรัพย์ โดยหนี้สินสามารถแบ่งออกได้เป็นสองประเภทเช่นเดียวกัน ประกอบไปด้วย
หนี้สินประเภทที่เป็นหนี้สินในระยะสั้น จำเป็นต้องรีบชำระหนี้สินให้ครบภายในกรอบระยะเวลา 1 ปี เช่น เงินที่กู้ยืมระยะสั้นจากธนาคาร เงินเบิกเกินบัญชี หนี้สินจากการซื้อสินค้าโดยมีภาระผูกพันกับเจ้าหนี้
เป็นหนี้สินประเภทระยะยาวที่ต้องใช้ระยะเวลาชำระให้ครบเกิน 1 ปี ยกตัวอย่างเช่น หนี้สินกู้ยืมระยะยาว โดยมีการตกลงระยะเวลาในการคืนเกินกว่า 1 ปี
ซึ่งการคำนวณหนี้สินทั้งหมดก่อนนำไปคำนวณในงบดุลจำเป็นต้องนำหนี้สินทั้งสองประเภทนี้มารวมกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ของจำนวนหนี้สินทั้งหมดที่บริษัทมีใน ณ เวลานั้น ๆ
ส่วนของเจ้าของเป็นเงินในส่วนที่สามารถเรียกว่าเป็นเงินทุนได้เช่นกัน โดยเป็นเงินที่อยู่ในสินทรัพย์ทั้งหมด ไม่รวมในส่วนที่เป็นเงินกู้ยืม หรือหนี้สินจากข้อ 2 นั่นเอง โดยเงินส่วนของเจ้าของแบ่งได้สองประเภทเช่นเดียวกันดังนี้
ส่วนแรกเป็นเงินต้นทุนที่เจ้าของบริษัทหรือผู้ถือหุ้นใช้ในการลงทุนกับบริษัทหรือกิจการดังกล่าว
ในส่วนที่สองจะเป็นกำไรทั้งหมดของบริษัทโดยเป็นการทบไปเรื่อย ๆ ในแต่ละปี ทั้งนี้ถ้าบริษัทผลประกอบการไม่ดีทำให้ขาดทุน ตรงส่วนนี้ก็จะกลายเป็นขาดทุนสะสมได้เช่นเดียวกัน
สำหรับตัวอย่างที่ลงรายละเอียดมากขึ้น เราขอยกตัวอย่างนาย A อีกเช่นเคยกับร้านขายเสื้อผ้า ที่มีสินทรัพย์รวมกันทั้งหมด 600,000 บาทจากตัวอย่างก่อนหน้านี้ หากจำแนกรายละเอียดส่วนต่าง ๆ ของงบดุลจะได้ดังนี้
เงินสด 200,000 บาท
ค่าเช่าร้าน 200,000 บาท
ค่าสินค้าคงเหลือ 200,000 บาท
สินทรัพย์รวม = 600,000 บาท
หนี้สิน
เงินกู้ยืมระยะสั้นจากธนาคาร 100,000 บาท
หนี้สินรวม = 100,000 บาท
ส่วนของผู้ถือหุ้น/เจ้าของธุรกิจ
เงินลงทุน 325,000 บาท
กำไรสะสม 175,000 บาท
ส่วนของผู้ถือหุ้น/เจ้าของธุรกิจ = 500,000 บาท
เมื่อคำนวณรวมระหว่างหนี้สินและส่วนของเจ้าของจะพบว่าเป็นจำนวน 600,000 บาท เท่ากับจำนวนสินทรัพย์ของธุรกิจพอดี ซึ่งในการคำนวณงบดุลตัวเลขของสมการทั้ง 2 ข้างหากคำนวณรวมกันแล้วต้องมีตัวเลขที่ตรงกันเพื่อความถูกต้องของบัญชีนั่นเอง
นอกจากนี้ตัวเลขของงบดุลยังแสดงให้เห็นถึงความมั่นคงของกิจการนั้น ๆ โดยเมื่อใดที่บริษัทมีสินทรัพย์รวมมากกว่าหนี้สิน ย่อมแสดงว่าบริษัทยังมีกำไร และไม่ได้มีหนี้สินที่มากจนเกินไป สามารถจ่ายหนี้สินและมีเงินเหลือสำหรับดำเนินธุรกิจต่อได้
ตอนนี้น่าจะพอเห็นภาพและเข้าใจ งบดุล กันมากยิ่งขึ้นแล้ว ถัดไปเราขอแนะนำเพิ่มเติมในส่วนของประเภทในการทำรายงานงบดุลว่าแตกต่างกันอย่างไร และสามารถทำอย่างไรได้บ้าง
อีกหนึ่งประเภทของงบดุลที่ทำได้ไม่ยากเช่นกัน โดยใจความสำคัญจะมีความใกล้เคียงกัน คือต้องใส่ข้อมูลให้ครบถ้วน แต่แตกต่างกันเพียงการจัดรูปแบบของเอกสาร ซึ่งงบดุลรายงานจะเป็นการจัดเรียงเป็นแถวหัวข้อต่อกันเรื่อย ๆ โดยเริ่มจาก สินทรัพย์ รวมยอดสินทรัพย์ทั้งหมด หนี้สิน และส่วนของเจ้าของอยู่ท้ายสุดของกระดาษและรวมหนี้สินและส่วนของเจ้าของ
งบแสดงฐานะทางการเงิน หรือ งบดุล นับเป็นเอกสารรายละเอียดทางด้านบัญชีที่สำคัญ ช่วยให้เจ้าของธุรกิจสามารถดำเนินกิจการได้ตรงจุด ทราบถึงสถานการณ์ขององค์กรในภาพรวมได้มากยิ่งขึ้น เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการตัดสินใจต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งในรายละเอียดเกี่ยวกับงบดุลยังมีงบการเงินเป็นภาพกว้างที่สามารถศึกษาแบบละเอียดเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
แต่ในบางครั้งการทำเอกสารทางด้านการเงินอย่างเอกสารงบดุลอาจเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใช้เวลานาน และต้องการความละเอียดสูง เจ้าของกิจการ SME ที่ยังไม่มีทีมบัญชีอาจต้องรับมือกับความวุ่นวายในส่วนนี้ขึ้นมา ซึ่ง PEAK เข้าใจในปัญหานี้ของผู้ประกอบการ SME เราจึงมีโปรแกรมบัญชีออนไลน์ครบวงจร ที่นอกจากจะช่วยให้การจัดการบัญชีเป็นเรื่องง่ายยังสามารถทำรายงานงบดุลได้อีกด้วย โดยคุณสามารถลงบันทึกบัญชีใน PEAK และสามารถเรียกเอกสารงบการเงินออกมาได้อย่างสะดวกรวดเร็ว สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม และวิธีการใช้งานได้ที่นี่
ทดลองใช้งานโปรแกรมบัญชี PEAK ฟรี! 30 วัน มูลค่า 1,200 บาท
คลิก https://www.peakaccount.com (ไม่มีค่าใช้จ่าย)
PEAK Call Center : 1485
LINE : @peakaccount
สอบถามเพิ่มเติม คลิก https://m.me/peakengine
ใช่ งบดุลถือเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงิน