
ทุกวันนี้การนำ AI เข้ามาใช้ในการ ทำบัญชี กลายเป็นเรื่องปกติของผู้ประกอบการและนักบัญชีจำนวนมาก เพราะต้องการความรวดเร็วและความถูกต้องที่สูงขึ้น ซึ่งโปรแกรมบัญชี PEAK ถือเป็นเจ้าแรกในไทยที่พัฒนา “AI ช่วยทำบัญชี” เพื่อให้ทั้งเจ้าของกิจการและนักบัญชีทำงานกับตัวเลขได้ง่ายขึ้น ลดเวลางานซ้ำ และเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการบัญชีอย่างแท้จริง
3 ฟีเจอร์ AI อัจฉริยะตัวช่วย “ทำบัญชี” ของโปรแกรม PEAK
สำหรับโปรแกรมบัญชี PEAK ที่ได้อัปเกรดฟีเจอร์ AI อัจฉริยะที่เข้ามาเป็นเพื่อนคู่คิดให้นักบัญชี ให้สามารถทำบัญชีได้ง่ายขึ้น ลดระยะเวลาการทำงาน ลดโอกาสเกิดข้อผิดพลาด ซึ่ง AI ของ PEAK มีทั้งหมด 3 ฟีเจอร์หลักด้วยกันที่จะเข้ามาช่วยให้สามารถใช้ข้อมูลบัญชีได้อย่าง SMART เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
1. SMART Suggestion – AI ที่ช่วยทำบัญชีประจำวันได้เร็วขึ้น

ฟีเจอร์แรกเรียกว่า “SMART Suggestion” เป็นฟีเจอร์ที่มาช่วยแนะนำรายการบันทึกบัญชีที่เราใช้งานบ่อย โดยอ้างอิงจากพฤติกรรมการใช้งานจริง เพื่อให้ทำบัญชีได้ง่ายขึ้น แถมยังลดเวลาทำงาน ไม่ต้องเลื่อนหารายการใหม่ทุกครั้ง ซึ่งไม่เพียงแค่แนะนำรายการบันทึกบัญชีเพียงอย่างเดียว แต่ SMART Suggestion ยังแนะนำรายการอื่น ๆ ที่จำเป็นเช่น
- แนะนำสินค้า/บริการที่มักถูกบันทึกบ่อย
- แนะนำคู่ค้า/ลูกค้าที่มีการซื้อขายล่าสุด
- แนะนำอัตราภาษีหัก ณ ที่จ่าย
ด้วยฟีเจอร์นี้จะช่วยลดเวลาที่นักบัญชีต้องใช้ในการค้นหารายการ และป้องกันการบันทึกบัญชีที่ผิดพลาดลงไปได้ เพราะระบบแนะนำรายการที่ใช้งานเป็นประจำมาให้เลยนั่นเอง
ยกตัวอย่าง ข้อดีของการใช้งาน SMART Suggestion
บริษัท A ต้องชำระค่าบริการอินเทอร์เน็ตกับบริษัท B และได้มีการบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายเป็นประจำทุกเดือนอยู่แล้ว
ทำให้ในขั้นตอนการบันทึกรายจ่าย หากเราเลือกในส่วนของผู้ขายเป็นชื่อของบริษัท B ระบบ SMART Suggestion จะก็แนะนำรายการขึ้นมาเป็นค่าอินเทอร์เน็ต ไม่ต้องเลื่อนหาให้เสียเวลาเลยนั่นเอง
สำหรับวิธีการใช้งาน SMART Suggestion ในการทำบัญชีบนโปรแกรม PEAK ระบบจะแนะนำรายการที่เหมาะสม หรือใช้งานบ่อย เมื่อทำการสร้างเอกสารทั้งในกรณีของบันทึกรายรับและรายจ่าย
สรุปประโยชน์ของ SMART Suggestion
- ลดเวลาในการบันทึกบัญชี เพราะระบบแนะนำรายการที่ใช้งานบ่อยให้อัตโนมัติ
- ลดโอกาสบันทึกผิด ระบบช่วยแนะนำสินค้า/บริการ คู่ค้า และอัตราภาษีที่ถูกต้อง
- ทำงานได้เร็วขึ้น ไม่ต้องเลื่อนหาเมนูทีละรายการ
- ระบบเรียนรู้พฤติกรรมการใช้งาน ช่วยให้การบันทึกบัญชีแม่นยำขึ้นเรื่อย ๆ
- เหมาะสำหรับงานที่ต้องทำซ้ำ ๆ เช่น ค่าใช้จ่ายประจำ หรือรายรับจากลูกค้าประจำ
2. SMART Reconciliation – ลดเวลาทำบัญชีด้วยระบบกระทบยอดอัตโนมัติ

ยกตัวอย่าง ข้อดีของการใช้งาน SMART Reconciliation
บริษัท A ทำการกระทบยอดเปรียบเทียบระหว่างรายการบัญชีที่บันทึกในระบบกับรายการ Statement จากธนาคาร ที่โดยปกติจำเป็นต้องเปรียบเทียบด้วยตัวเองทีละรายการเพื่อตรวจสอบยอดว่าตรงกันทั้งหมด ซึ่งหากมีรายการเยอะอาจต้องใช้เวลาทั้งวันในการทำ แถมยังมีโอกาสเกิดข้อผิดพลาดอีกด้วย
แต่ถ้าใช้โปรแกรม PEAK ในการจัดการบัญชีจะสามารถนำเข้าไฟล์ Statement ของธนาคาร ผ่านการ Import ไฟล์หรือเชื่อมต่อ API กับธนาคารได้ทันที และใช้ SMART Reconciliation ในการช่วยจับคู่รายการระหว่างบัญชีในระบบกับ Statement ให้อัตโนมัติ ไม่ต้องคอยนั่งเปรียบเทียบเองทีละยอด สามารถลดระยะเวลาในการกระทบยอดลงไปได้หลายเท่าตัว แถมยังช่วยให้การกระทบยอดแม่นยำมากขึ้น
โดยสามารถทำการกระทบยอดด้วย SMART Reconciliation ได้ที่เมนูการเงิน อัปโหลด Statement ธนาคาร และคลิกปุ่ม “จับคู่อัตโนมัติ” ที่บริเวณด้านล่าง ระบบ AI ก็จะจับคู่รายการบันทึกที่ตรงกันให้ทันที
สรุปประโยชน์ของ SMART Reconciliation
- กระทบยอดธนาคารได้เร็วขึ้นหลายเท่า ด้วยระบบจับคู่รายการอัตโนมัติ
- ลดงานหนักที่ต้องนั่งเทียบรายการทีละบรรทัด
- ลดโอกาสผิดพลาดจากการกระทบยอดด้วยตัวเอง
- รองรับรายการจำนวนมากได้สบาย ไม่ต้องเสียเวลาทั้งวัน
- อัปโหลด Statement จากธนาคารได้ และให้ระบบจับคู่อัตโนมัติทันที
- สามารถสร้างใบเสร็จ/รายการจ่ายได้หลายรายการในขั้นตอนเดียว
3. SMART CFO – ผู้ช่วยวิเคราะห์งบและวางแผนการเงินเพื่อการทำบัญชีที่ดีขึ้น

เจ้าของกิจการธุรกิจ SME หลายท่านอาจเคยต้องประสบปัญหาเกี่ยวข้องกับด้านการเงินหรืออยากปรึกษาผู้เชี่ยวชาญแต่ไม่รู้จะหันไปหาใคร PEAK เข้าใจในปัญหานี้จึงออกแบบฟีเจอร์ SMART CFO ระบบ AI ที่เปรียบเสมือนที่ปรึกษาทางการเงินของเจ้าของกิจการ มีคำถามเกี่ยวกับการทำบัญชี หรือคำถามเกี่ยวกับการเงินของกิจการ เช่น
- วิเคราะห์งบการเงินแบบเข้าใจง่าย
- ชี้จุดแข็งจุดอ่อนของธุรกิจ โดยใช้ตัวเลขบัญชีในการวิเคราะห์
- แนะนำแนวทางวางแผนการเงินอย่างยั่งยืน
สำหรับ SMART CFO พร้อมเข้ามาช่วยสร้างความอุ่นใจให้เจ้าของกิจการ เป็นผู้ช่วยในการตัดสินใจด้านการเงิน ช่วยให้สามารถวางแผนธุรกิจได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น
ซึ่งวิธีการใช้งานทำได้ง่ายมาก เพียงคลิกไปที่คทามุมขวาล่างในหน้างบกำไรขาดทุน ก็จะมีหน้าต่างแสดงขึ้นมาคล้ายกับ AI ยอดนิยมในปัจจุบัน ที่สามารถพิมพ์คำถามคล้ายกับการแชทพูดคุยกับ SMART CFO ได้เลย หรือเลือกชุดคำถามที่แนะนำได้เช่นกัน โดยตัวอย่างคำถามประกอบไปด้วย
- “บอกภาพรวมธุรกิจของฉันจากงบการเงินนี้”
- “งบสะท้อนปัญหาทางธุรกิจอะไรบ้างไหม”
- “สรุปการเปลี่ยนแปลงรายได้ค่าใช้จ่ายที่สำคัญ”
- “จากข้อมูลงบการเงินฉันมีความเสี่ยงด้านการเงินหรือไม่?”
จากตัวอย่างคำถามข้างต้น หากไม่มี SMART CFO ก็ต้องมีความรู้ในการอ่านงบการเงิน และการวิเคราะห์ทางการเงินพอสมควรเลยทีเดียว ฟีเจอร์ AI นี้จึงเข้ามาช่วยตอบโจทย์เจ้าของกิจการที่อาจยังไม่เชี่ยวชาญในด้านการเงินมากนัก หรือยังไม่มี CFO คอยเข้ามาช่วยดูแลในส่วนนี้ การมี SMART CFO ของ PEAK ก็จะช่วยลดระยะเวลาที่ต้องไปอ่านงบการเงินเองทั้งหมด แต่สามารถถาม AI ของ PEAK ได้เลย
ยกตัวอย่าง ข้อดีของการใช้งาน SMART CFO
ในการวิเคราะห์งบการเงินเพื่อใช้ในการวางแผนการทำธุรกิจในอนาคต มีหลากหลายขั้นตอน และต้องใช้เวลาเป็นอย่างมาก ตั้งแต่การรวบรวมข้อมูล ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล และวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งทุกขั้นตอนรวมกันอาจใช้เวลานานหลายวันกว่าที่จะสามารถตัดสินใจทางธุรกิจได้
แต่ในการทำธุรกิจจริงเวลาไม่เคยรอ หากต้องใช้เวลาเตรียมที่นานในเวลาที่จำกัด อาจทำให้ตัดสินใจทางธุรกิจผิดพลาดได้นั่นเอง
SMART CFO ก็สามารถเข้ามาช่วยลดปัญหาในส่วนนี้ สามารถเป็นตัวช่วยสำหรับผู้ประกอบการในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจที่แม่นยำ โดยใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่คลิกเท่านั้น
สรุปประโยชน์ของ SMART CFO
- วิเคราะห์งบการเงินให้เข้าใจง่าย ไม่ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญก็เริ่มต้นวิเคราะห์ได้
- ชี้จุดแข็ง จุดอ่อน และปัญหาที่ซ่อนอยู่ในธุรกิจจากตัวเลข
- ใช้เป็นที่ปรึกษาทางการเงินได้ทันที ถามแบบแชทได้เหมือนคุยกับผู้เชี่ยวชาญ
- ช่วยวางแผนธุรกิจได้แม่นยำขึ้น ใช้ข้อมูลจริงในการตัดสินใจ
- ลดเวลาการวิเคราะห์งบจากหลายวันเหลือไม่กี่คลิก
- เหมาะสำหรับเจ้าของกิจการที่ไม่มี CFO หรือยังอ่านงบไม่คล่อง
ใครบ้างที่เหมาะกับการใช้ AI ทำบัญชีบนโปรแกรม PEAK
ฟีเจอร์ AI ทั้งสามฟีเจอร์ของโปรแกรมบัญชี PEAK เป็นตัวช่วยให้กับเจ้าของกิจการและนักบัญชีเพื่อให้สามารถทำบัญชีได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว ทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยวิเคราะห์ธุรกิจเพื่อการเติบโต ซึ่งฟีเจอร์ AI นี้ช่วยยกระดับโปรแกรม PEAK ให้เป็นมากกว่าโปรแกรมบัญชีจัดเก็บข้อมูลหรือทำเอกสารโดยทั่วไปอย่างแน่นอน
ประโยชน์สำหรับ “เจ้าของกิจการ”
ในกรณีของเจ้าของกิจการ ฟีเจอร์ AI อย่าง SMART Suggestion และ SMART Reconcilication ของ PEAK ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถมองเห็นภาพรวมด้านการเงินที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นในไม่กี่คลิก ช่วยลดระยะเวลาที่ต้องจัดเตรียมงบการเงินด้วยตัวเอง สามารถเห็นตัวเลขที่ถูกต้อง และแม่นยำ เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์ต่อได้ทันที ตัดสินใจข้อมูลสำคัญ ๆ ได้ดีและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ SMART CFO ที่เปรียบเสมือนว่ามีผู้ช่วยในการวิเคราะห์และวางแผนธุรกิจในส่วนที่เกี่ยวข้องกับด้านการเงินได้อย่างถูกต้อง ทำข้อมูลออกมาได้รวดเร็ว เพื่อการเติบโตขององค์กรในระยะยาวมากยิ่งขึ้นด้วยนั่นเอง
ประโยชน์สำหรับ “นักบัญชี / แอดมิน”
สำหรับนักบัญชีหรือแอดมินที่ต้องดูแลในส่วนของการเงินให้แก่องค์กร ฟีเจอร์ AI ของ PEAK ก็สามารถเข้ามาช่วยในเรื่องการทำบัญชีได้เร็วยิ่งขึ้น ลดการทำงานซ้ำ ๆ เช่น การบันทึกหรือการจับคู่รายการบัญชีเพื่อกระทบยอด เพื่อให้มีเวลาโฟกัสกับการทำงานบัญชีที่ต้องใช้เวลาอย่างการวิเคราะห์ หรือมีเวลาในการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงช่วยลดโอกาสเกิดข้อผิดพลาดซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรมีในการทำบัญชีได้ด้วยเช่นกัน
ทำบัญชีให้เป็นระบบยิ่งขึ้นด้วยโปรแกรมบัญชี PEAK
การทำบัญชีอย่างเป็นระบบ นับว่าเป็นสิ่งที่ทุกกิจการควรให้ความสำคัญตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของธุรกิจ เพราะหากมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น หรือมีการจัดการที่ไม่เรียบร้อยอาจส่งผลเสียต่อธุรกิจในระยะยาวได้
ซึ่ง PEAK ก็เห็นถึงปัญหาในด้านการจัดการบัญชีของกิจการ SME เราจึงมุ่งมั่นพัฒนาระบบ AI ที่เข้ามาช่วยให้กิจการสามารถทำบัญชีได้อย่างเป็นระบบ ลดการทำงานซ้ำซ้อน และลดโอกาสเกิดข้อผิดพลาดในการทำบัญชี นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้ประกอบการเห็นภาพการเงินของกิจการได้ชัดเจนมากขึ้น ตัดสินใจได้อย่างแม่นยำ เพื่อการเติบโตของธุรกิจที่ยั่งยืน
เริ่มต้นยกระดับธุรกิจให้ SMART ด้วยฟีเจอร์ AI ช่วยทำบัญชีในโปรแกรม PEAK ได้แล้ววันนี้ พิเศษสุด ๆ เริ่มต้นวันนี้ ทดลองใช้ฟรี 30 วัน!
ทดลองใช้งานโปรแกรมบัญชี PEAK ฟรี! 30 วัน มูลค่า 1,200 บาท
คลิก https://www.peakaccount.com (ไม่มีค่าใช้จ่าย)
PEAK Call Center : 1485
LINE : @peakaccount
สอบถามเพิ่มเติม คลิก https://m.me/peakengine
